ตอนที่ 5 พระเอกขี่ม้าขาว
ตอนที่ 5
“เจ้ากล้าดีอย่างไร ถึงทำร้ายท่านพี่”
เสียงที่เคยหวานเนิบนาบน่าทะนุถนอม แปรเปลี่ยนมาดุดันอย่างลืมตัว หลังจากเห็นสามีล้มไปกองอยู่ที่พื้น
“แล้วจะให้ข้ารอ ให้สามีของเจ้ามาทำร้ายข้าก่อนหรืออย่างไร”
ฉิงซวี่สวนกลับทันควัน ใครจะบ้ารอให้ผู้อื่นเข้ามาทำร้ายร่างกายตนเองกัน
ฮุ่ยชิวอ้าปากค้าง ไม่เคยเห็นในด้านนี้ของฮูหยินเอกมาก่อน ปกติแล้ว ไม่ว่านางจะหาทางกลั่นแกล้งอีกฝ่ายเช่นไร ฮูหยินเอกจะไม่ปริปากบ่น หรือตอบโต้นางกลับเลยแม้แต่น้อย แต่คราวนี้ทำไม ถึงกล้าต่อปากต่อคำ หนำซ้ำยังกล้าทำร้ายสามีตนเองเช่นนี้
ป๋อเหวินหน้าดำคล้ำเครียด เกิดมาไม่เคยมีสตรีคนใดทำให้อับอายเช่นนี้มาก่อน เสื้อผ้าราคาแพงของเขา ต้องมาเปรอะเปื้อนเศษดินเศษฝุ่นอัปมงคลของห้องขังนักโทษ เป็นเพราะนาง
ก่อนหน้าเขาไม่ทันได้ตั้งตัว ว่าจะถูกสตรีผู้นี้เล่นงานกลับ แต่คราวนี้เขาจะไม่ปล่อยให้นางมารร้ายนี้ ได้เล่นงานจนทำให้เขาอับอายอีกแน่
สองเท้าย่างสามขุมเข้าหาสตรีตัวเล็ก วันนี้จะต้องลงมือสั่งสอน ผู้หญิงอวดดีให้ยอมสยบต่ออำนาจของบุรุษให้ได้
“ผู้คุม ท่านจะปล่อยให้ผู้ชายคนนี้ทำร้ายสตรีเช่นข้าหรือ”
ฉิงซวี่ขยับถอยหลังหนีให้ห่างจากชายหนุ่มตรงหน้า พลางร้องตะโกนถามผู้คุมที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องขัง แต่อีกฝ่ายพอมีเงินถุงโตอยู่เต็มกระเป๋า ก็หลับหูหลับตา ทำเป็นไม่ได้ยินหรือเห็นอะไรทั้งสิ้น
...เอาว่ะ ตายเป็นตาย...
ในเมื่อหวังพึ่งคนอื่นไม่ได้ เวลานี้หญิงสาวก็ต้องพึ่งพาตัวเอง จะไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายทำร้ายตัวเองได้ง่าย ๆ แน่ ต่อให้สู้ไม่ได้ นางก็จะสู้
กำปั้นเล็กทั้งสองข้าง ตั้งการ์ดอยู่ด้านหน้า นัยน์ตาหงส์จับจ้องมองอิริยาบถของอีกฝ่าย ว่าจะใช้ส่วนไหนเข้ามาทำร้ายตัวเอง จะได้หาทางหลบหลีก และสวนกลับ แม้ไม่แน่ใจว่าจะทำได้อย่างที่คิดหรือเปล่า
ริมฝีปากของป๋อเหวินเหยียดยิ้ม มองท่าทางเตรียมพร้อมของอดีตภรรยาอย่างดูแคลน นางช่างไม่เจียมตัวเสียจริง คิดว่าหมัดนั้น จะเล่นงานเขาได้อีกหรือ ตลกเสียจริง
“คิดว่าจะสู้ข้าได้หรืออย่างไร”
“ได้ไม่ได้ ก็ลองดู”
แก้วตาในร่างเสวี่ยฉิงซวี่ไม่รอช้า พุ่งหมัดขวาเข้าโจมตีอีกฝ่ายก่อน โดยมีเป้าหมายคือใบหน้าหล่อเหลานั้น
แต่ชายหนุ่มที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของเจ้าของร่าง กลับยกมือข้างหนึ่ง ขึ้นมารับหมัดของหญิงสาวเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย แล้วจับยึดเอาไว้แน่น ก่อนจะเงื้อมือข้างที่เหลือ หมายจะฟาดลงบนใบหน้างาม
ฉิงซวี่หลับตาแน่น เมื่อไม่สามารถหลุดพ้นไปได้ ก็เตรียมใจรับความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้น
...ตุ๊บ...
“โอ๊ย”
แต่เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ไม่ได้ออกจากปากของหญิงสาว กลับเป็นเสียงของบุรุษเพศ ฉิงซวี่ถึงได้ลืมตาขึ้นมอง ว่าเกิดอะไรขึ้น
คุณชายป๋อเหวินที่คิดจะลงมือทำร้ายสตรีไม่มีทางสู้ บัดนี้ลงไปกองอยู่บนพื้นห้องขังเย็นเฉียบอีกครั้ง โดยมีโฉมสะคราญลงไปนั่งโอบประคองเอาไว้อีกรอบ
“ท่านพี่เป็นอย่างไรบ้าง” เสียงสั่นเครือเอื้อนเอ่ยถาม คิดแค้นคนที่บังอาจทำกับสามีเช่นนี้ ใบหน้าหวานแหงนใบหน้าขึ้นสูง จ้องมองผู้ที่เข้ามาใหม่ ริมฝีปากอวบอิ่ม ที่กำลังจะเอ่ยปากต่อว่า กลับอ้าค้างอยู่เช่นนั้น
“พี่ไม่เป็นอะไรมากหรอก ชิวเอ๋อร์”
ป๋อเหวินตอบคำถามไม่ให้คนงามเป็นห่วง ทั้ง ๆ ที่ความจริงเนื้อตัวของเขาปวดระบมไปหมด จากการล้มกระแทกสองครั้งติด พอเห็นคนงามข้างกายไม่มีการตอบสนอง ชายหนุ่มจึงหันไปมองตามสายตาของฮูหยินรอง ก่อนที่ดวงตาเหยี่ยวจะเบิกกว้าง ปากอ้าค้างเช่นเดียวกัน
ผิดตรงที่ สายตาของฮูหยินรองตกตะลึงในเบ้าหน้าฟ้าประทาน ที่สวรรค์ช่างสรรค์สร้างมอบความหล่อเหลาให้บุรุษผู้นี้ แต่สายตาอีกหนึ่งคู่ มีแต่ความตื่นตระหนกตกใจ ไม่คาดคิดว่าจะเป็นคู่กรณี
“ไม่นึกว่าบุรุษหน้าตัวเมีย ชอบรังแกผู้หญิง จะมีสตรีรุมมอบความรักให้เยี่ยงนี้”
บุรุษที่เป็นคนส่งป๋อเหวินลงไปกองอยู่ที่พื้น กล่าวเสียงเนิบช้า สายตาของเขาจับจ้องมองไปทางหญิงสาวในชุดนักโทษไม่ละสายตา แม้วาจาจะเอื้อนเอ่ยกับศัตรูคู่แค้นก็ตาม
...แม่เจ้า พระเอกอันดับหนึ่งในซีรีส์จีนชัด ๆ ...
หญิงสาวในยุคปัจจุบันเองก็จับจ้องมองเบ้าหน้าฟ้าประทาน ตาแทบไม่กะพริบ แววตาคู่งามเปล่งประกายระยิบระยับ ฉายแววพึงพอใจในตัวบุรุษตรงหน้าออกมาอย่างชัดเจน
...คนอะไร หล่อไม่เกรงใจใคร พ่อพระเอกขี่ม้าขาว พ่อของลูกในอนาคต...
ฉิงซวี่ถึงกลับเพ้อรำพันออกมา ไม่คิดจะปิดบังความต้องการที่ปรากฏขึ้นทางสายตาเลยแม้แต่น้อย
จนทำให้ฝ่ายที่ถูกจ้องมองชักสีหน้าขุ่นเคือง ไม่พอใจที่หญิงสาวจ้องมองตนด้วยสายตาแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรออกมา
“เจ้ามาทำไม”
เป็นป๋อเหวินที่เอ่ยถาม หลังจากลุกขึ้นมาได้ เสื้อผ้าราคาแพงยิ่งเปรอะเปื้อนมากกว่าครั้งแรกอีก สายตาของเขาจับจ้องมองใบหน้าของผู้มาใหม่ สลับกับใบหน้าของอดีตภรรยา
ท่าทางระแวดระวัง สมองใช้ความคิดอย่างหนักหน่วง หนึ่งในสิ่งที่คิด คือยกโทษให้ฉิงซวี่แล้วรับตัวนางกลับเข้าจวน ดำรงฮูหยินเอกตามเดิม
“ข้ามารับตัวนาง”
เสียงทุ้มของบุรุษผู้มาใหม่เอ่ยขึ้น อย่างที่ป๋อเหวินคาดเอาไว้ไม่มีผิด
“ไม่มีทาง ข้ากำลังจะยื่นขออภัยโทษให้นาง และรับตัวนางกลับจวนเหมือนเดิม” ป๋อเหวินไม่มีทางปล่อยฉิงซวี่ไปให้ชายใดแน่ โดยเฉพาะคนตรงหน้า
ทั้งฉิงซวี่และฮุ่ยชิว พร้อมใจกันหันขวับมาจ้องใบหน้าของชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของคนทั้งสอง ต่างไม่เข้าใจว่า ป๋อเหวินจะรั้งนักโทษเช่นฉิงซวี่เอาไว้ทำไม
“เจ้าช้าไปแล้ว ข้าได้ยื่นขออภัยโทษและซื้อตัวนางกับใต้เท้าซูไปแล้ว ตอนนี้นางเป็นของข้า”
ไม่พูดเปล่าชายผู้นี้ยังถือวิสาสะ คว้าข้อมือของฉิงซวี่ข้างหนึ่ง แล้วดึงตัวนางให้เข้าไปหา แต่กลับมีมือหนามาฉุดข้อมือข้างที่เหลือของนางเอาไว้ด้วย ต่างฝ่ายต่างยื้อยุดกระชากให้หญิงสาวเข้าหาตน จนอาภรณ์ของนักโทษที่บางเบาแทบจะหลุดออกจากตัว
ประกายตาของชายผู้มาใหม่ไหววูบ ยามมองลึกเข้าไปในสาบเสื้อของหญิงสาว
“ไม่จริง ข้าไม่เชื่อ ว่าใต้เท้าซูจะยอมขายนักโทษให้เจ้าง่าย ๆ”
ป๋อเหวินปรายตามองผู้คุมอีกคนหนึ่ง ที่เป็นคนนำทางชายผู้นี้เข้ามา ต้องการคำตอบที่แน่ชัด
“คุณชายผู้นี้พูดความจริงขอรับ” ผู้คุมคนนั้นกล่าว
“ได้ยินชัดหรือยัง ปล่อยมือจากคนของข้าเดี๋ยวนี้”
คนของข้า...คำนี้ฟังแล้วรู้สึกดีชะมัด ฉิงซวี่อมยิ้ม เหมือนว่าตอนนี้นางเป็นนางเอก ที่ถูกพระเอกกับผู้ร้าย ยื้อแย่งตัวต้องการความรักจากนาง
แต่นางเอกเช่นนางก็ต้องคู่กับพระเอกสิ จะคู่กับตัวร้ายได้อย่างไร ฉิงซวี่จึงถือโอกาสนี้สะบัดจนแขนหลุดออกจากมือของอดีตสามี
“ลาก่อน เชิญโลงผุเช่นท่านอยู่กับผีเน่าต่อไปเถอะ ส่วนข้าจะขอติดตามเทพบุตรรูปหล่อผู้นี้ และหวังว่าพวกเราสองคนคงจะไม่ต้องพบเจอกันอีก”
หญิงสาวกล่าวจบก็สะบัดหน้าใส่สองชายหญิง ก่อนจะเดินเชิดชูคอ เดินตามพระเอกขี่ม้าขาวออกจากสถานที่คุมขังนักโทษไป แม้ว่านางจะไม่รู้จักชายผู้นี้เลยก็ตาม
แต่อีกฝ่ายหน้าตาดี ก็น่าจะไม่ใช้คนร้ายหรอก เขาต้องเป็นเนื้อคู่ในชาติภพนี้ของนางแน่ เพียงแค่คิดใบหน้างามก็ปรากฏรอยยิ้มกว้าง เดินตามชายแปลกหน้าไปติด ๆ ไม่ทันสังเกตเห็นประกายตาแสดงความรู้สึกบางอย่างของอีกฝ่าย...