ตอนที่ 3 นักโทษ
ตอนที่ 3
หลังจากความรู้สึกเหมือนโลกหมุนรอบตัวหยุดลง ทุกอย่างรอบกายสงบนิ่ง แก้วตารับรู้ได้ว่า เธอได้มาเกิดในร่างใหม่เรียบร้อยแล้ว ความรู้สึกตื่นเต้นถาโถมเข้ามา ลุ้นว่าชีวิตต่อจากนี้ของตนเองจะเป็นเช่นไร
...เอาละ พอฉันลืมตาขึ้นมา ก็จะพบกับห้องหับสวยงามตระการตา ไม่เป็นพระราชวังก็เรือนในจวนของขุนนางคนใดคนหนึ่ง แบบในหนังสือนิยายที่ชอบอ่าน พร้อมสำหรับโลกใหม่แล้วนะ คุณหนูแก้วตา...
แพขนตางอนค่อย ๆ เผยอเปิดขึ้นทีละน้อย ๆ สีหน้าแววตาลุ้นกับภาพที่จะได้เห็น
แต่พอโสตประสาทการมองเห็น ทำงานอย่างเต็มที่เท่านั้นแหละ ริมฝีปากซีดเซียวเผยออ้าค้าง ตกตะลึงกับสภาพแวดล้อมรอบตัว
...นี้คงไม่ใช่ความจริง น่าจะเป็นความฝันมากกว่า เอาละ พอฉันหลับตาลง ภาพทุกอย่างจะเปลี่ยนไป...
แก้วตาปิดเปลือกตาลงอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงลืมตาขึ้นมาใหม่ แต่สภาพแวดล้อมรอบตัวก็ยังคงเป็นเหมือนตอนที่มองเห็นครั้งแรก
“อะไรกันเนี่ย”
หญิงสาวที่ยังคงนอนคุดคู้อยู่บนพื้นเย็นเฉียบพึมพำ พร้อมกับยันกายลุกขึ้นนั่ง ใบหน้างามเหลียวมองไปรอบตัว
เพียงแค่นี้ เธอก็รู้แล้ว ว่าฟื้นขึ้นมาอยู่ในสถานที่ใด เพราะในซีรีส์ก็ปรากฏสถานที่นี่ให้เห็นในหลาย ๆ ฉาก
แต่ว่าแก้วตาไม่เข้าใจ ว่าทำไมตนเองถึงต้องมาอยู่ในสถานที่แห่งนี้ด้วย
“เทวดาบ้า ส่งข้ามาเกิดใหม่ในร่างใครเนี่ย แทนที่จะไปเกิดเป็นองค์หญิงหรือลูกคุณหนู ท่านกลับส่งข้ามาอยู่ในร่างของนักโทษ นี้นะหรือผลตอบแทนของการทำความดี ที่ท่านว่า”
แก้วตาก่นด่าเทวดาในชุดสูทสีขาว ไม่สนสายตาของนักโทษชายหญิงคนอื่น ๆ ที่มองมาทางเธอเป็นตาเดียว
‘เจ้าอยากเจอเนื้อคู่ของเจ้าไม่ใช่หรือ วาสนาด้ายแดงของเจ้า ถึงได้พามาอยู่ในร่างของหญิงสาวนางนี้ที่จากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร’
เสียงนุ่มของเทวดาดังขึ้นรอบตัวของหญิงสาว เธอพยายามมองหาต้นตอของเสียงก็ไม่พบ สงสัยเทวดาองค์นี้จะกลัวเธอเล่นงานเอาอีก ถึงไม่ยอมปรากฏตัว
...วาสนาด้ายแดง พามาเจอเนื้อคู่งั้นหรือ ในคุกนี้นะ ไม่อยากจะเชื่อ...แก้วตาอยากจะหวีดร้องออกมา ในการเลือกเส้นทางชีวิตของตน รู้แบบนี้เลือกขึ้นสวรรค์ ยังจะดีกว่า
“เจ้า เจ้ารู้สึกตัวแล้วหรือ”
เสียงแหบแห้งดังมาจากทางซ้ายมือ แก้วตาจึงหันไปมอง พบว่าในห้องขังติดกัน หญิงวัยกลางคนสวมใส่ชุดนักโทษ บริเวณข้อเท้ามีโซ่ตรวนล่ามเอาไว้ พอเธอลองก้มมองบริเวณข้อเท้าของตนเอง พบว่ามีโซ่ตรวนล่ามเอาไว้อยู่เช่นกัน
“เจ้าไม่ได้เป็นอะไรมากใช่หรือเปล่า” นักโทษหญิงห้องข้างเคียง ยังคงเอ่ยถามต่อ
แก้วตาอ่านจากแววตาเย็นชาคู่นั้นได้ว่า มีความอาทรต่อร่างกายนี้จริง ๆ จึงได้คลานสี่เท้าเข้าไปหาหญิงวัยกลางคนผู้นั้น
“ป้า รู้จักฉันหรือจ๊ะ”
“...”
พอเห็นอีกฝ่ายไม่ยอมตอบ และมองเธอด้วยสีหน้าเหมือนไม่เข้าใจที่เธอพูด แก้วตาถึงคิดได้ ว่าหญิงผู้นี้คงฟังการพูดจาแบบนี้ไม่ออก
หัวสมองจึงใช้ความคิดอีกครั้ง ทบทวนหนังสือนิยายจีนที่ชอบอ่าน ซีรีส์ที่ชอบดู ก่อนจะจับจุดว่าคนในสมัยนี้พูดจากันเช่นไร
“ท่าน...ป้า...รู้จักฉัน...ไม่สิ...ท่านป้ารู้จักข้าหรือไม่คะ...เอ๊ย...เจ้าคะ”
พอพูดจบแก้วตาก็ทอดถอนใจออกมา กว่าจะพูดได้แต่ละประโยค พลังงานในร่างกายคงไม่เหลือแล้วละมั้ง
“อย่าบอกนะ ว่าหลังจากเจ้าหมดสติไป ฟื้นขึ้นมาแล้วจำอะไรไม่ได้เลย”
หญิงวัยกลางคนมองสตรีคราวลูกสีหน้าฉงน นางเฝ้ามองสาวงามนางนี้ ตั้งแต่ผู้คุมมาแจกจ่ายอาหารให้นักโทษ หญิงสาวรายนี้ รีบลงมือทานมันโถลูกเล็ก ไม่นานก็ตาลีตาเหลือก ล้มลงไปชักดิ้นชักงออยู่บนพื้นแล้วหมดสติไป
นางพยายามร้องเรียกให้ผู้คุมเข้ามาช่วยเหลือ ก็ไม่มีใครสักคนจะเข้ามาสนใจ จนกระทั่งหญิงสาวรายนี้ฟื้นคืนสติมาเองในที่สุด
“เอ่อ” แก้วตาอึกอัก พยายามค้นหาความทรงจำของเจ้าของร่าง กลับไม่พบสิ่งใดเลย เธอจึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับร่างกายที่เธอเข้ามาใช้ร่าง แม้กระทั่งชื่อ แล้วแบบนี้เธอควรจะตอบคำถามหญิงวัยกลางคนว่าอย่างไรดี
“เออ...คือว่า...อยู่ ๆ ฉัน...เอ๊ยข้า ก็จำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่ชื่อของตัวเอง”
สีหน้าของหญิงวัยกลางคน บ่งบอกว่าไม่เชื่อในสิ่งที่หญิงสาวคราวลูกเอ่ยขึ้น แต่พอคิดไปคิดมา ก็ไม่มีเหตุผลที่หญิงสาวรายนี้จะต้องโกหกนาง ถึงได้ยอมตอบคำถามแต่โดยดี
หญิงวัยกลางคนเล่าว่าได้ยินพวกผู้คุมเอ่ยถึงหญิงสาว ว่าชื่อ เสวี่ยฉิงซวี่ ฮูหยินของบุตรชายคนโตสกุลหลี่ ส่วนความผิดที่ทำให้ต้องเข้ามาอยู่ในคุกรอรับโทษก็คือ คิดวางยาฮูหยินรองของสามี
“หา ฉันนี้นะคิดจะวางยาฆ่าคน”
แก้วตาหรือเสวี่ยฉิงซวี่ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง สีหน้าแสดงออกว่าไม่เชื่อในสิ่งที่หญิงวัยกลางคนพูดเลยแม้แต่น้อย
จะให้เชื่อได้อย่างไร ว่าเธอจะต้องมาอาศัยอยู่ในร่างของฆาตกรฆ่าคน ในเมื่อเทวดาองค์นั้นบอก ทุกชาติภพเธอทำความดีมาตลอด คนดีแบบเธอจะมาอยู่ในร่างของสตรีที่ร้ายกาจได้เช่นไร
“ต้องมีบางอย่างผิดพลาดแน่ ๆ นี้ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด” คนงามพึมพำออกมา
“ข้าก็ไม่รู้หรอก ว่าเจ้าทำจริงหรือเปล่า แต่ข้าพอมองแววตาคนออก แววตาของเจ้าเมื่อสามวันก่อน ไม่เหมือนคนจิตใจโหดเหี้ยม ที่จะลงมือฆ่าคนได้ แต่สายตาของเจ้าตั้งแต่เมื่อวาน ทำให้ข้าชักไม่แน่ใจ”
“อ้าว”
แก้วตากำลังจะโล่งใจอยู่แล้วเชียว ว่าเรื่องวางยาต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด หรือถูกคนอื่นใส่ร้าย พอหญิงวัยกลางคนพูดกลับไปกลับมาเช่นนี้ เธอก็รู้สึกหนักอึ้งในใจอย่างบอกไม่ถูก
“แต่พอได้เห็นแววตาของเจ้าในตอนนี้...” หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นมาอีก พยายามจ้องเข้าไปในดวงตาคู่งาม
“เป็นยังไงหรือป้า”
แก้วตาขยับเข้าไปใกล้ลูกกรงมากยิ่งขึ้น เบิกตากว้าง ๆ ประสานสายตาค้นคว้าของอีกฝ่าย อยากจะรู้ว่าสตรีตรงหน้าจะอ่านแววตาคนออกมากแค่ไหน จะรู้หรือเปล่าว่าเธอคือวิญญาณดวงอื่น ที่มาเกิดใหม่ในร่างกายนี้
“จะพูดอย่างไรดี แววตาของเจ้าบ่งบอกว่าเป็นคนที่จริงใจ คิดอย่างไรก็พูดออกมาแบบนั้น มีความเป็นมิตรกับผู้คน แต่หากใครร้ายมาเจ้าย่อมร้ายกลับ แปลก...แปลกจริง ๆ”
“มีอะไรแปลกหรือป้า” แก้วตาซักไซ้ต่อ
“แววตาของเจ้า ที่ข้าจ้องมองทั้งสามครั้ง ไม่เหมือนคนคนเดียวกัน คล้ายกับเป็นคนละคนเสียมากกว่า แม้ว่าจะมองจากดวงตาคู่เดียว”
จบคำของหญิงวัยกลางคน แก้วตานิ่งเงียบ จ่อมจมอยู่ในห้วงความคิดของตน จนลืมที่จะเอ่ยถามเรื่องราวชีวิตของผู้ร่วมชะตากรรมในคุก ว่าเป็นเพราะเหตุใด หญิงวัยกลางคนถึงต้องมาอยู่ในสถานที่แห่งนี้
เธอมัวแต่ครุ่นคิดตามสิ่งที่ได้ฟัง ดวงตาคู่เดียว แต่มองสามครั้ง เหมือนกลับเป็นคนละคน หากสองครั้งยังพอเข้าใจได้ ว่าเธอกับเจ้าของร่าง ย่อมมีแววตาไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แต่สามครั้งนี้สิ มันเกิดจากอะไร
ยิ่งคิด แก้วตาก็ยิ่งมืดมนไปหมด แม้จะรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของร่างกายนี้แล้ว อย่างอื่นเธอกลับไม่สามารถค้นหาอะไรได้เลยจากความทรงจำ คล้ายกับว่าถูกใครบางคนลบเลือนไปอย่างนั้นแหละ...