บท
ตั้งค่า

องค์ชายน่าสมเพช

ท่านมหาปราชญ์ท่านรู้ตัวหรือไม่...ว่าตัวตนเช่นท่านในสายตาของพรรคมืดอย่างพวกเราท่านเป็นเช่นไร

หากท่านไม่รู้...ข้าตัวแทนของพรรคมืดทั้งหมดมารทมิฬ! จะเป็นคนบอกกล่าวแก่ท่านเอง

สิ่งที่ท่านเป็นในสายตาพรรคมือคือ ศัตรู ศัตรูที่แท้จริงเหนือตัวตนอื่นใด

หากไร้ซึ่งท่านมีหรือพวกตัวตนระดับสูงพวกนั้นมันจะมาไกลได้ถึงเพียงนี้ กล้าที่จะเหิมเกริมต่อกรกับพวกเรา

ศัตรูมีเพียงสิ่งเดียวที่ต้องพบเจอกับศัตรูอีกคน

สิ่งนั้นคือความตาย!เป็นเกียรติของตัวข้ายิ่งนักที่จะได้ลงสังหารตัวตนเยี่ยงท่าน ท่านมหาปราชญ์

ตาย! ตาย! ตาย!

เฮือก...!ภายในตำหนักที่โดดเด่นและสง่างามที่สุดหลังหนึ่งมีชายหนุ่มแน่นิ่งนอนอยู่บนเตียงไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเป็นเวลาสามวัน แม้จะมีลมหายใจก็ตามแต่มันแผ่วเบาเป็นอย่างยิ่งราวกับคนไร้ลมหายใจ ถึงจะมีหมอมากฝีมือเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นหมอหลวงหรือแม้แต่ยอดฝีมือจากดินแดนแห่งอื่นมาดูอาการของชายหนุ่มร่างนี้หรือหาทางรักษาก็ไม่สามารถหาต้นเหตุได้ว่าเหตุใดจึงเกิดอาการเช่นนี้ แต่สิ่งเหลือเชื่อก็บังเกิดขึ้นเมื่อชายหนุ่มที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงเป็นเวลาสามวันได้ขยับร่างกายที่เคยแน่นิ่งมาตลอดบ่งบอกถึงสัญญาณอันดี ชายหนุ่มขยับร่างกายไปมาอย่างเชื่องช้าพร้อมกับพยายามที่จะเปิดตาขึ้นอย่างแช่มช้า

“ร่างกายข้า” ชายหนุ่มเปิดเปลือกตาสำเร็จภาพเบื้องหน้าที่เห็นเป็นผู้คนเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นชายชรา ชายวัยกลางคน มุงยืนล้อมรอบตัวเขาราวกับดูสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกเพราะใบหน้าของแต่ละคนที่ชายหนุ่มเห็นนั้นอยากจะทำให้ตัวเขาหัวเราะออกมาเพราะใบหน้าของผู้คนเหล่านั้นราวกับเห็นผีเห็นสิ่งน่าเหลือเชื่อ ชายหนุ่มอยากจะหัวเราะออกมาแต่ก็ทำเช่นนั้นไม่ได้เพราะร่างกายของตนตอนนี้มันบอบช้ำไปหมดจากอวัยวะภายในราวกับร่างของคนพิการแม้จะขยับได้เพียงน้อยนิดก็นับว่าปาฏิหาริย์แล้ว แต่แล้วก็มีสิ่งผิดปกติบังเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเหตุการณ์มากมายหลายความทรงจำภายในเจ้าของร่างเดิมวิ่งแล่นผ่านมายังหัวจนหมดสิ้นตั้งแต่ตัวเขาเป็นใครเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้เหตุการณ์มากมายหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อนตั้งแต่ทารกแรกเกิดจวบจนปัจจุบัน“อ๊าก!” ชายหนุ่มดิ้นอย่างทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด มือทั้งสองกุมขมับเหงื่อไหลท่วมทั้งร่างกาย ผู้เชียวชาญมากหน้าที่ยืนล้อมแตกตื่นขึ้นมาอย่างฉับพลันแต่เมื่อผ่านไปชั่วครู่ความแตกตื่นทั้งหมดก็มลายหายสิ้น ทดแทนด้วยความผิดแปลกถึงพวกเขาจะเป็นหมออัจฉริยะหรือแม้แต่ยอดฝีมืออันทรงศักดิ์ก็ยังงุนงงกับเหตุการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่...ว่าพวกมันกำลังเผชิญอยู่กับสิ่งใด?

“ปัง” ประตูตำหนักถูกเปิดขึ้นอย่างฉับพลันพร้อมชายชราเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบพร้อมกับปลดปล่อยอารมณ์แห่งความเสียใจร้องไห้ราวกับเด็กแรกเกิดอยู่ข้างกายชายหนุ่มที่กำลังร้องออกมาอย่างทรมานด้วยความเจ็บปวด

“องค์ชายในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้วกระหม่อมรู้สึกมีความสุขยิ่ง” ชายชราร้องไห้ราวกับเด็ก ชายชราเมื่อครั้งทราบว่าตัวองค์ชายนายเหนือหัวอันเป็นที่รักของมันได้เกิดเหตุแปลกประหลาดทำให้นอนสลบไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ตัวมันแทบใจสลาย ถึงแม้มันจะเป็นเพียงบ่าวอันต่ำต้อย แต่มันเป็นคนดูแลองค์ชายตั้งแต่เยาว์วัยเห็นการเติบโตเห็นอะไรหลายอย่างร่วมกันมาความผูกพันธ์ของทั้งสองระหว่างชายชรากับองค์ชายนายเหนือหัวของมันเกินกว่าคำว่าเจ้านายกับลูกน้องไปแล้วราวกับคนภายในครอบครัวไม่ใช่บ่าวกับเจ้านาย

ฉินหลินนอนทรมานจากความทรงจำไหลเข้ามาอย่างมากมายอะไรต่างๆไม่ว่าตัวเขาเป็นใครเหตุการณ์อะไรไหลเข้ามามากเสียเหลือเกิน ซึ่งข้อสรุปที่ได้จากความทรงจำตัวเขาเป็นถึงองค์ชายแห่งอาณาจักรเพลิงนภามีนาม ฉินหลิน ตัวเขาเองไม่ค่อยเป็นที่น่าเคารพเสียเท่าไหร่นักเนื่องเพราะนิสัยดั่งเดิมของร่างเก่า พระบิดาของตนที่เป็นถึงองค์จักรพรรดิมีบุตรด้วยกันทั้งสิ้นสิบคน แล้วตัวมันเองก็เป็นลำดับที่สิบลำดับสุดท้าย

“พ่อบ้านเฉินไปแจ้งแก่ท่านพ่อด้วยว่าตัวข้าฟื้นแล้วอย่าได้เป็นห่วงอีกต่อไป เพราะอีกไม่กี่วันตัวข้าจะกลับมาแข็งแรงเฉกเช่นเดิม” ฉินหลินกล่าวออกมาแต่ละคำช่างเชื่องช้าติดติดขัดขัดราวกับเด็กหัดพูด แต่ในที่สุดความยากลำบากก็บรรลุด้วยความพยายามอย่างสุดกำลัง ฉินหลินรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างที่สุดไม่ใช่การเหนื่อยล้าเพราะอวัยวะภายในแต่มันเป็นทางจิตวิญญาณ ตัวเขาผู้เคยเป็นมหาปราชญ์ผู้ครอบครองปัญญาที่สามารถแหกกฏของสวรรค์ได้ จิตวิญญาณดั่งเดิมของเขาได้ทำการแทรกแซงเข้ามาภายในร่างแห่งนี้ สิ่งนี้ถือว่าเป็นการแหกกฏสวรรค์โดยชัดเจนแต่ถึงอย่างไรเขาก็ทำสำเร็จผลที่ได้ก็ปรากฏตัวเขาได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งได้กลับมามีชีวิตครั้งใหม่ที่แตกต่าง พ่อบ้านเฉินไม่รีรอสิ่งใดอีกหลังได้รับคำสั่งขององค์ชายตัวมันเร่งรีบวิ่งออกจากตำหนักเพื่อไปรายงานแก่องค์จักรพรรดิ หมอหลวงและยอดฝีมือที่อยู่ภายในห้องก็ยังสับสนอยู่เช่นเดิมหากแต่เมื่อได้ฟังคำกล่าวของฉินหลิน พวกมันทั้งหมดที่อยู่ยังสถานที่แห่งนี้ก็หมดหน้าที่ทันที พวกมันทั้งหมดออกจากตำหนักเหลือเพียงฉินหลินเพียงลำพังที่ยังนอนอยู่

“ต่อไปนี้ข้าคงต้องใช้ชีวิตในฐานะฉินหลินองค์ชายแห่งอาณาจักรเพลิงนภา การตายของร่างเก่าช่างเป็นสวะโดยแท้จริง เจ้าเป็นถึงองค์ชายได้รับความรู้มากมายจากผู้อาวุโสแห่งวังหลวงของราชวงศ์แต่กับโง่เขลาถึงเพียงนี้ ถึงข้าอยากจะบ่นเจ้าสักเพียงใดเจ้าก็คงไม่รับฟังคำติชมของข้าเป็นแน่เพราะเจ้ามันไม่มีตัวตนอีกต่อไป ตัวตนดั่งเดิมของเจ้านั้นมันได้หายไปตลอดกาลไม่มีวันหวนคืนแต่ก็เอาเถอะถึงอย่างไรข้าก็อยู่ภายในร่างเจ้าข้าจะพยายามให้ดีที่สุดเท่าที่ข้าผู้นี้สามารถทำได้”

มหาปราชญ์ผู้มีปัญญาและทักษะมากมายหลากหลายแขนงเป็นตัวตนอันสูงส่งราวกับตัวแทนแห่งพระเจ้าต้องมาอยู่ภายในร่างขององค์ชายของอาณาจักรแห่งหนึ่งที่เขาไม่รู้จักเป็นองค์ชายที่ถูกขนานนามว่า “องค์ชายจอมเสเพล” เพราะการกระทำของร่างเก่าเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่สาเหตุการตายขององค์ชายผู้นี้ที่ทำให้มหาปราชญ์ด่าว่าโง่เขลาและสวะ ถึงแม้ชีวิตที่แล้วตัวเขาจะค่อนข้างเงียบสงบไม่ค่อยได้ด่าทอผู้คนด้วยคำที่ดูถูกรุนแรงมากนักถ้ามันไม่จำเป็นหรืออารมณ์เสียอย่างแท้จริงเขาไม่มีทางพลั้งปากกล่าวมันออกมาเป็นแน่ เขาได้พบเจอผู้คนที่เป็นคนโง่และสวะมามากมายเนื่องด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไปโดยเฉพาะบุคคลเหล่านั้นที่ได้รับการดูแลเลี้ยงดูที่ผิดๆหรือเพราะสถานะของตัวพวกมันเอง

แต่ครั้งนี้เป็นถึงองค์ชายได้รับการเลี้ยงดูที่ดีเหมาะสม ได้รับการสั่งสอนที่ถูกต้องชีวิตองค์ชายเสเพลตลอดการมีชีวิตจนอายุ 18 ปีเติบโตมาไม่เคยฝึกฝนในฐานะผู้ฝึกตนเลยแม้แต่น้อย หัวสมองมีแต่เรื่องตัณหาและหญิงสาว องค์ชายได้ทำการกินทรัพยากรในการบ่มเพาะไปเป็นจำนวนมากเพื่อให้ตัวเขาได้เลื่อนขั้นหากแต่หารู้ไม่สิ่งที่องค์ชายทำมันผิดร้ายแรง รากฐานที่ไม่แข็งแรงมีหรือจะรับพลังงานมหาศาลไหว เมื่อมันสะสมเป็นจำนวนมากจึงเกิดเหตุการณ์ดั่งกล่าวขึ้นจุดกักเก็บลมปราณระเบิดออกเส้นลมปราณทั่วทั้งร่างกายปั่นป่วนไม่เพียงเท่านั้นจิตวิญญาณยังแตกสลาย ช่างเป็นการกระทำที่โง่เขลา

“ข้าไม่เคยเห็นองค์ชายที่น่าสมเพชขนาดนี้มาก่อน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel