บทที่ 8 รักษาภรรยาขุนนาง [2/2]
บทที่ 8
รักษาภรรยาขุนนาง [2/2]
“ฮูหยิน!”
สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบพุ่งเข้ามาประคองพร้อมหยิบขวดยาเล็ก ๆ ออกจากแขนเสื้อ นางเทยาเม็ดหนึ่งลงบนฝ่ามือแล้วส่งให้นายหญิงของตน
ซูเจินอวี๋มือสั่นเล็กน้อยแต่ก็หยิบเม็ดยาเข้าปากพลางยกถ้วยชาขึ้นจิบ เพียงครู่อาการหายใจติดขัดก็ค่อย ๆ คลายลง ใบหน้าซีดขาวของนางกลับมามีเลือดฝาดและอาการเจ็บปวดเมื่อครู่ก็ทุเลาลงสาวใช้ทั้งสองมองกันด้วยสายตากังวลปนโล่งใจ
จ้าวหว่านชิงที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเงียบไปครู่หนึ่งก่อนนางจะเอียงกายเล็กน้อยพลางเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน
“ฮูหยินซูข้าขออภัยหากถามตรงไปแต่มีอาการป่วยหรือ”
“ใช่...ข้าเป็นโรคนี้มาหลายปีแล้วเพราะแบบนั้นร่างกายของข้าจึงอ่อนแอและแย่ลงทุกวัน” ซูเจินอวี๋เอ่ยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่กลับแอบแฝงความขมขื่นอยู่ในแววตา
ติ้ง!
[ตรวจพบผู้ป่วย – ซูเจินอวี๋ อายุ 38 ปี]
ต้องการการรักษาโดยด่วนระบบหมอเทวดาสามารถเริ่มต้นกระบวนการรักษาได้ทันที
ยืนยันจะทำการรักษาหรือไม่?
[ยืนยัน] [ยกเลิก]
นัยน์ตาคู่สวยจับจ้องไปยังหน้าต่างสีฟ้าโปร่งแสงที่อยู่ตรงหน้า พลางหันไปมองซูเจินอวี๋ก่อนริมฝีปากบางจะเริ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ความจริงแล้วข้าเคยเล่าเรียนวิชาแพทย์จากบิดามาบ้าง หากฮูหยินซูไม่รังเกียจข้าขอจับชีพจรตรวจอาการท่านสักหน่อยได้หรือไม่”
“คำพูดเหลวไหล! อาการของฮูหยินขนาดหมอหลวงยังรักษาไม่ได้ สตรีบ้าน ๆ เช่นเจ้าจะรักษาได้อย่างไรกัน!” สาวใช้ข้างกายซูเจินอวี๋รีบโพล่งเสียงแข็ง
บรรยากาศโต๊ะพลันตึงเครียดแต่ซูเจินอวี๋กลับยกมือขึ้นห้ามสาวใช้ทันที แววตาที่ทอดมองจ้าวหว่านชิงมีทั้งความสงสัยและชั่งใจอยู่ในนั้น แต่ไม่รู้ว่าเพราะอีกฝ่ายคล้ายคลึกกับใครบางคนหรือเปล่านางจึงตัดสินใจยืนแขนออกไป
“เช่นนั้น…ท่านก็ตรวจดูเถิด หากรักษาได้ข้าจะมอบรางวัลตอบแทนท่านอย่างงาม”
จ้าวหว่านชิงเพียงคลี่ยิ้มปลายนิ้วรีบกดไปที่ปุ่ม “ยืนยัน” ก่อนจะหันมาจับข้อมือของซูเจินอวี๋เพื่อแสร้งทำเป็นตรวจชีพจร แสงเลเซอร์สีฟ้าอ่อนพุ่งออกมาจากหน้าต่างระบบกวาดสแกนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของซูเจินอวี๋ ในสายตาของผู้อื่นจ้าวหว่านชิงกำลังตรวจชีพจรคนป่วยปกติ แต่แท้จริงแล้วนางกำลังรอผลวิเคราะห์จากระบบต่างหาก
[กำลังตรวจวิเคราะห์….]
[ตรวจพบสารพิษในร่างกายปริมาณมาก ต้องการเจาะเลือดเพิ่มเพื่อวิเคราะห์สารพิษ......]
ติ้ง!
[ระบบ : ท่านสามารถซื้อแท่นหยกวิเคราะห์หยดเลือดที่เชื่อมต่อกับระบบหมอเทวดาได้ที่ร้านค้าในระบบ]
ติ้ง!
[ระบบ : หากท่านแท่นหยกวิเคราะห์หยดเลือด สามารถให้ระบบหมอเทวดาออกใบสั่งยารักษาอาการเบื้องต้นของคนไข้ก่อนได้ ทว่าอาการป่วยจะเพียงแค่ทุเลาลงไม่ได้หายขาด]
ติ้ง!
A : ไปที่ร้านค้าเพื่อซื้อแท่นหยกวิเคราะห์หยดเลือด
B : เริ่มต้นกระบวนการรักษาคนไข้เบื้องต้น
กรุณากดเลือกคำตอบที่ท่านต้องการ…
[ A ][ B ]
จ้าวหว่านชิงกวาดสายตานั่งอ่านข้อความจากระบบพลางขมวดคิ้วทั้งสองเข้าหากัน ในหัวของนางเริ่มวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็ว ตอนนี้ค่าประสบการณ์ของนางคงไม่พอซื้อแท่นหยกวิเคราะห์หยดเลือดในร้านค้าของระบบ
ถ้างั้นก็ทำได้แค่...กดรักษาอาการเบื้องต้นไปก่อน
[กำลังตรวจวิเคราะห์….]
[ต้องการตรวจสอบยาที่คนไข้รับประทานไปเมื่อครู่เพื่อเปรียบเทียบใบสั่งยา....]
“ฮูหยินซูข้าขอดูยาที่ท่านกินเมื่อครู่หน่อยได้หรือไม่”
ซูเจินอวี๋พยักหน้าตอบรับพลางปรายตาหันไปสั่งสาวใช้ที่ยืนอยู่ให้นำยาออกมา สูตรยาลูกกลอนนี้นางได้มาจากเพื่อนสนิทที่เป็นหมอเทวดาแต่ทว่าตอนนี้เขาได้หายสาบสูญไปแล้ว...
[กำลังตรวจวิเคราะห์ส่วนผสมของยา….]
แสงเลเซอร์สีฟ้าอ่อนพุ่งออกมาจากหน้าต่างระบบกวาดสแกนยาลูกกลอนที่วางอยู่บนฝ่ามือของจ้าวหว่านชิง เวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่การตรวจสอบก็เสร็จสิ้น
[ตรวจวิเคราะห์เสร็จสิ้น.....]
[ระบบกำลังเขียนใบสั่งยาที่มีประสิทธิภาพมากกว่ายาตัวเดิมสามเท่า....]
“เป็นเช่นไรบ้างท่านรักษาอาการป่วยของข้าได้หรือไม่?”
ซูเจินอวี๋เอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าแม้รู้ว่าโรคของตนเองไม่อาจรักษาให้หายขาดได้ แต่ทว่าภายในใจลึก ๆ ของนางกลับมีความหวังเล็ก ๆ อยู่
“อาการป่วยของท่านไม่ใช่ว่าจะรักษาไม่ได้ เพียงแต่มันต้องใช้เวลาสักหน่อย”
“ระ...เรื่องจริงหรือ....อาการป่วยของข้าสามารถรักษาให้หายได้จริง ๆ หรือ”
แววตาที่หม่นหมองของซูเจินอวี๋พลันสั่นไหวดวงหน้าซูบซีดราวกับถูกชุบชีวิตขึ้นใหม่ด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียว
“วันนี้ข้าจะเขียนเทียบยารักษาอาการเบื้องต้นให้ท่านไปลองกินก่อน หากท่านลองกินยาของข้าแล้วคิดว่าการรักษาได้ผลก็ค่อยมาพบข้าจ้าวหว่านชิงที่หมู่บ้านอันชุนเพื่อทำการรักษาอาการป่วยให้หายขาด”
“ท่านสามารถรักษาข้าได้จริง ๆ ใช่ไหม”
จ้าวหว่างชิงค่อย ๆ พยักหน้าอย่างมั่นคงแววตาเต็มไปด้วยความจริงใจและหนักแน่น
“ตราบใดที่ท่านไม่ละความเชื่อ ท่านย่อมมีโอกาสได้ใช้ชีวิตโดยไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคนี้อีกต่อไป แต่มีข้อแม้ว่าหากดื่มยาของข้าแล้วท่านจำเป็นต้องหยุดยาตัวเดิมก่อนเข้าใจหรือไม่”
คำกล่าวนั้นราวกับสายลมอุ่นพัดผ่านกลางฤดูหนาว ซูเจินอวี๋รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งแทรกซึมเข้าสู่หัวใจนางกะพริบตาถี่เพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาแต่หยาดหยดใสกลับยังร่วงเงียบ ๆ บนหลังมือ
“หาก…หากเป็นเช่นนั้นจริง หากท่านรักษาอาการป่วยของข้าให้หายได้จริง ๆ ข้ายินดีจะยกย่องท่านเป็นผู้มีพระคุณ” เสียงของนางสั่นสะท้าน ทว่าภายในเต็มไปด้วยประกายแห่งความหวังที่เพิ่งงอกงามขึ้นมาอีกครั้ง…
จ้าวหว่านชิงคลี่ยิ้มออกมาพลางก้มลงมองใบสั่งยาที่ระบบส่งมาเมื่อครู่ นางแสร้งขอตัวเดินออกมาด้านนอกโดยอ้างว่าจะไปขอยืมกระดาษและพู่กันกับเจ้าของร้านเพื่อเขียนเทียบยา และภายในเวลาไม่นานร่างบางก็เดินกลับมาในห้องพร้อมยื่นใบสั่งยาของระบบส่งให้ซูเจินอวี๋
“ซูเหยามารดาของเจ้าเก่งจริง ๆ เลยรักษาอาการป่วยของท่านป้าได้ด้วย”
เสี่ยวหานโน้มตัวลงไปกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของเด็กสาว เพราะกลัวว่าเสียงของเขาจะเข้าไปรบกวนบทสนทนาที่สำคัญของผู้ใหญ่ทั้งสอง
ซูเหยาที่นั่งมองสถานการณ์มาตั้งแต่แรกยามนี้มองจ้าวหว่านหนิงผู้เป็นมารดาด้วยสายตายากคาดเดา ก่อนเด็กหญิงจะหันไปยิ้มให้เสี่ยวหานราวกับพอใจในคำพูดของเขา
“ใช่แล้ว...สตรีตรงหน้าคือมารดาของข้า...นางเป็นมารดาของข้าคนเดียวเข้าใจหรือไม่เจ้าโง่”