บทที่ 9 สละโควตาให้ถังเสี่ยวจิ้ง
วันที่สอง สวี่อันอันตื่นเช้าตรู่ ทานอาหารเช้า แล้วก็ไปโรงเรียน
อาคารเรียนของที่นี่เก่าแก่ การก่อสร้างส่วนใหญ่เคยผ่านการซ่อมบำรุงมาแล้ว หน้าประตูมีแผ่นป้ายจารึกด้วยทองคำ ด้านบนแกะสลักคำว่า “มหาวิทยาลัยเจียงเฉิง”
สวี่อันอันมาโรงเรียนตั้งแต่เช้า ในโรงเรียนมีนักเรียนอยู่เพียงไม่กี่คน นักเรียนหญิงบางคนใส่หูฟังไว้ที่หู ที่กำลังฟังmp3เพลงที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงนั้น ดูแล้วดูมีสไตล์เป็นอย่างมาก
ขณะที่เธออ่านหนังสืออยู่ในห้องได้สักพัก ก็เห็นถังเสี่ยวจิ้งนั้นเดินเข้ามาหาเธอ สวี่อันอันวางหนังสือในมือลง แล้วลุกขึ้นเพื่อไปหาเธอ
“อันอัน แผลเธอหายดีแล้วเหรอ ตอนแรกฉันกะจะไปเยี่ยมเธอ แต่ช่วงนี้บ้านฉันกำลังย้ายบ้าน เลยไม่ได้ไป เธออย่าโกรธฉันเลยนะ”
เมื่อเห็นสวี่อันอัน ถังเสี่ยวจิ้งดีใจจนไปดึงแขนของเธอ และเพราะไม่ได้ไปเยี่ยมสวี่อันอัน เธอรู้สึกผิดอยู่ในใจ
ถังเสี่ยวจิ้งมีใบหน้ารูปไข่ รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว เป็นแบบอย่างของผู้หญิงสวย
“ฉันไม่เป็นอะไร ไป ไปห้องครูหลี่กับฉันหน่อย”
เธอต้องรีบชิงลงมือก่อนซูจิ่งเฉิง เอาโควตาของเธอนั้นให้คนอื่นก่อน มิฉะนั้นจะไม่ทันการ
สวี่อันอันรู้ว่าถังเสี่ยงจิ้งนั้นชอบการพูดสุนทรพจน์เป็นอย่างมาก และเธอได้ลงชื่อสมัครมาตลอด แต่เป็นเพราะเธอช้าไปหนึ่งก้าว เลยชิงโควตาไม่ทัน ทำให้เธอเสียใจไปช่วงเวลาหนึ่งเลย
“ได้สิ เธอเพิ่งกลับมาเรียน ควรจะไปทักทายคุณครูก่อน”
เมื่อถังเสี่ยงจิ้งและสวี่อันอันมาถึงห้องพักคุณครูประจำชั้น ทั้งสองคนเคาะประตูอย่างมีมารยาท
เมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากด้านใน ทั้งสองก็ได้ผลักประตูเข้าไป
ครูหลี่ที่กำลังเตรียมการสอน ได้ขยับกรอบแว่นบนจมูกแล้วส่งสายตามองคนที่เข้ามาทั้งสองคน
เขาได้วางหนังสือในมือลง เหมือนกำลังรอเธอทั้งสองพูดขึ้น
“ครูหลี่ค่ะ หนูอยากจะสละโควตาการแข่งพูดสุนทรพจน์ครั้งนี้ให้ถังเสี่ยวจิ้งค่ะ”
ครูหลี่มองสวี่อันอันด้วยความประหลาดใจ “สวี่อันอัน เธอคิดให้ดีนะ ถ้ารายชื่อมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว จะแก้ไขให้เหมือนเดิมไม่ได้อีก”
แม้แต่ถังเสี่ยวจิ้งก็คาดไม่ถึง ก่อนเข้ามาสวี่อันอันก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเธอ มันกะทันหันเป็นอย่างมาก!
“อันอัน โอกาสครั้งนี้ได้มาไม่ง่าย ทำไมเธอถึงสละโควตาให้ฉันละ รีบบอกครูเร็วว่าสิ่งที่เธอพูดเมื่อกี้เป็นเรื่องล้อเล่น”
ถังเสี่ยวจิ้งตื่นเต้นจนมือเริ่มสั่น เธอจับมือของสวี่อันอันด้วยมือที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ถึงแม้เธอจะชอบการพูดสุนทรพจน์เป็นอย่างมาก แต่ไม่ใช่จะไปแย่งชิงของรักจากคนอื่นมา!
สวี่อันอันให้ความสำคัญการแข่งขันครั้งนี้เป็นอย่างมาก คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่ถังเสี่ยวจิ้งที่เป็นเพื่อน เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้
สวี่อันอันพยักหน้าอย่างมั่นใจแล้วพูดกับครูหลี่ว่า “คุณครู หนูคิดดีแล้วค่ะ หนูจะสละโควตาในการเข้าแข่งขันให้ถังเสี่ยวจิ้งค่ะ”
เพราะยังไงเธอต้องเสียเปรียบให้สวี่ฉาฉา สู้เอาโควตานี้ให้ถังเสี่ยวจิ้งดีกว่า
ชาติที่แล้ว สวี่ฉาฉาได้ขโมยโควตาในการเข้าแข่งขันไปจากตัวเธอ ไม่เพียงแต่ได้เงินรางวัลไป8000หยวน ยัง
ได้สิทธิ์ในการเดินทางไปต่างประเทศในนามนักเรียนแลกเปลี่ยนอีกด้วย และรู้จักเพื่อนต่างประเทศอีกมากมาย
ทำให้เป็นที่รู้จักไม่น้อยเลยทีเดียว!
ครั้งนี้จะให้สวี่ฉาฉานั้นสมหวังไม่ได้เด็ดขาด สวี่อันอันรู้ดีว่าผลที่ตามมานั้นจะเป็นอย่างไร แต่เธอไม่กลัวเลยสักนิด
ปกติถังเสี่ยวจิ้งนั้นตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก และรอคอยการแข่งขันครั้งนี้อย่างใจจดใจจ่อ สวี่อันอันมั่นใจว่าเธอต้องทำได้ดีกว่าสวี่ฉาฉาอย่างแน่นอน
รวมไปถึงอำนาจบารมีของตระกูลถังงที่มีให้เห็นอยู่แล้ว ไม่ว่าตระกูลซูนั้นจะมีความสามารถขนาดไหน ก็ไม่สามารถแย่งโควตาในการแข่งขันไปจากพวกเขาได้
ถังเสี่ยวจิ้งลืมตาโตและดึงแขนของสวี่อันอันอย่างแรง แล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “อันอัน เธอถูกใครบังคับมาหรือเปล่า ทำไมถึงได้ยกโควตานี้ให้ฉันละ?”
สวี่อันอันมองท่าทีของเธอแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “จริงๆแล้วก็ไม่มีอะไร จู่ๆฉันก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ไม่อยากทำตัวประจบสอพลออีกแล้ว”
ครูหลี่ได้แก้รายชื่อเรียบร้อยแล้วได้พูดกับเธอทั้งสองคนว่า “รายชื่อถูกแก้ไขเรียบร้อย พวกเธอยังมีเรื่องอะไรอีกไหม?”
“ยังมีอีกเรื่องที่อยากจะรบกวนคุณครู หนูจะขอเปลี่ยนไปเรียนสาขาการแพทย์ค่ะ”
เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกไป ครูหลี่มองเธอด้วยสายตาที่จริงจัง แล้วพูดเตือนเธอขึ้นว่า “การเปลี่ยนไปเรียนสาขาการแพทย์ต้องผ่านการทดสอบก่อน เธอคิดว่าจะเข้าไปเรียนได้ง่ายๆหรือ”
เมื่อก่อนไม่เคยมีใครที่เคยเปลี่ยนสาขาไปเรียนการแพทย์มาก่อน เหตุผลเป็นเพราะข้อสอบยากเกินไป และบางส่วนไม่ผ่านเกณฑ์และถูกเชิญให้ออก
บางคนเรียนๆไปแล้วรู้สึกเรียนไม่ไป และเปลี่ยนกลับมาเรียนสาขาเดิม
และบ้างเป็นเพราะใช้เวลาเรียนที่นานเกินไป และพัฒนาการเรียนต่อไปไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถเรียนจนจบได้
คิดว่าโรงเรียนเป็นครอบครัวตัวเองเปิดสอนหรือไง ที่อยากจะทำอะไรก็ได้?
นักเรียนที่อายุยังน้อยและมีความกระตือรือร้น และมีความมั่นใจเกินไป ก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองเลือก
แน่นอนว่าก็มีนักเรียนที่ประสบความสำเร็จในการเรียนแพทย์ และได้บรรจุอยู่ในโรงพยาบาลศูนย์เฉพาะทาง แต่นั่นก็เป็นส่วนน้อยเท่านั้น
สวี่อันอันมองครูหลี่ด้วยความมุ่งมั่น “ครูหลี่ ขอเพียงให้โอกาสนี้กับหนู หนูเชื่อว่าต้องผ่านการทดสอบได้อย่างแน่นอน”
ความรู้ทางการแพทย์ของเธอ สวี่อันอันมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอได้ผ่านการเรียนรู้จากคุณย่ามาเป็นเวลาหลายปี เธอไม่ได้เรียนรู้มันไปเปล่าๆ
แต่ตอนนี้การตรวจรักษาผู้ป่วยต้องใช้ใบอนุญาต สวี่อันอันต้องผ่านการเรียนการอบรม เพื่อจะได้รับใบอนุญาตนั้น
ถังเสี่ยวจิ้งยังไม่ทันจะปรับตัวจากสิ่งที่เธอตกตะลึงอยู่ การสละโควตาการแข่งสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษให้เธอ ทำให้เธอนั้นตกตะลึงเป็นอย่างมาก
ตอนนี้ยังย้ายสาขาไปเรียนการแพทย์อีก ถังเสี่ยวจิ้งยิ่งประหลาดใจขึ้นไปอีก ช่วงเวลาที่สวี่อันอันนั้นไปนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล น่าจะได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ถึงทำให้เธอเปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้
ครูหลี่ถอนหายใจไปทีหนึ่ง แล้วขยับขาแว่นบนจมูก และพยายามพูดเพื่อห้ามปรามสวี่อันอัน
“นักเรียนสวี่อันอัน เธอกลับไปปรึกษากับผู้ปกครองที่บ้านก่อน เพราะค่าเทอมในการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยนั้นสูงเป็นอย่างมาก ถึงเวลานั้นอาจจะได้ไม่คุ้มเสียเปล่าๆ พ่อกับแม่เธอจะเสียใจมากนะ!”