บทที่ 8 อย่าให้พวกเขาได้สิ่งที่ต้องการ
สวี่จื่อเยี่ยนขมวดคิ้วขึ้นแล้วพูดขึ้นอย่างจริงใจว่า “อันอัน ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาโกรธ ถ้าเธอออกจากตระกูลสวี่แล้วจะไปที่ไหน? อีกอย่าง ผู้หญิงตัวคนเดียวออกไปข้างนอกอันตรายมาก ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจะทำยังไง”
คำถามไม่มีคำตอบ เห็นได้ชัดว่าเพื่ออยากจะหนีคำถามที่น่าอึดอัดข้อนี้ คำตอบของสวี่จื่อเยี่ยนนั้นอยู่ในคำถามอยู่แล้ว
สวี่อันอันยิ้มขึ้นเล็กน้อย แล้วค่อยๆพูดขึ้น “เรื่องนี้คุณจื่อเยี่ยนไม่ต้องกังวลไป คุณวางใจได้ ฉันดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องเรื่องโง่ๆหรอก”
ถึงแม้เธอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ในใจของสวี่อันอันรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญอีกต่อไป
เขาเดินอ้อมสวี่จื่อเยี่ยนออกจากบ้านไป
ในย่านที่พักอาศัยนั้น มีตึกที่เก่าแก่ตั้งตระหง่านอยู่ ถึงแม้จะผ่านการซ่อมบำรุงมา แต่ก็ดูออกไม่ยากว่า ตึกแห่งนี้บ่งบอกถึงช่วงเวลาหลายยุคหลายสมัย
ตอนที่สวี่อันอันที่เพิ่งกลับเข้าในตระกูลสวี่ เธอปรับตัวเข้ากับคนตระกูลสวี่ เธออยู่กับคุณย่าที่นี่ตั้งแต่เด็ก
ตั้งแต่อายุ 10ขวบจนถึง 16ขวบ ช่วงเวลาวัยรุ่นของเธอ ได้เติบโตอยู่ที่นี่
เมื่อมองดูบ้านที่เธอคุ้นเคย ทำให้สวี่อันอันนั้นตาแดงขึ้นมา แล้วเดินต่อเข้าไปด้านใน
ความทรงจำของสวี่อันอัน เธอไม่เคยเห็นคุณปู่ เพียงแต่เคยฟังคุณย่าเล่าว่า คุณปู่ต้องสละชีพตนเองตอนไปจับโจร เป็นวีรบุรุษที่กล้าหาญเป็นอย่างมาก
คุณย่าหยูซิ่วฮั๋วเมื่อก่อนเดินทางไปกับกองทัพทหารทุกที่กับคุณปู่ เคยเป็นแพทย์ทหาร หลังจากที่คุณปู่เกษียณ ได้เปิดคลินิกเล็กๆข้างบ้านพัก
วิชาแพทย์ของเธอ เรียนรู้มาจากคุณย่านั่นเอง
สุขภาพของพี่ฉินไม่ค่อยดี ตอนนั้นที่เธอตั้งใจเรียนวิชาแพทย์จากคุณย่า เหตุผลหลักๆก็เพื่อพี่ฉิน
แต่น่าเสียดาย ที่ความตั้งใจของเธอเทียบไม่ได้กับคำพูดถามไถ่เพียงไม่กี่คำของสวี่ฉาฉา
เธอพักอยู่กับคุณย่า ในหนึ่งปี สวี่กั๋วจื้อมาที่นี่เพียงไม่กี่ครั้ง ช่วงปีใหม่และเทศกาลเท่านั้นที่จะมาเยี่ยมคุณย่า
แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ความสัมพันธ์ของคุณย่ากับสวี่กั๋วจื้อนั้นไม่สู้ดีนัก
สองแม่ลูกทุกครั้งที่พบหน้ากัน จะทะเลาะกันตลอด คุณย่าจะเอาไม้กวาดไล่สวี่กั๋วจื้อออกไป ไม่ว่านิสัยของสวี่กั๋วจื้อนั้นจะดีเพียงใด แต่ก็ถูกทำให้มีอารมณ์ที่รุนแรง ตอนหลังเขาจึงไม่เคยมาเยี่ยมคุณย่าอีกเลย
หลังจากที่คุณย่าเสียชีวิตไป เลยเก็บบ้านหลังนี้ไว้ให้สวี่อันอันพร้อมกับบัตรเอทีเอ็มหนึ่งใบ
นั่นเป็นเงินออมทั้งชีวิตของคุณย่า สวี่อันอันไม่เคยไปแตะต้อง และไม่กล้าแม้แต่จะใช้เงินพวกนั้น
บ้านอยู่ในชั้นสองของหลังที่สาม สวี่อันอันใช้กุญแจเปิดประตูเข้าไป เป็นบ้านที่มีสองห้องนอน ของใช้ในบ้านล้วนเป็นของเก่าโบราณ
ที่นี่ยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าไม่มีคนอาศัยเป็นเวลานาน หน้าต่างเต็มไปด้วยหยากไย่ ฝุ่นหนาเตอะอยู่บนตู้ลิ้นชักนั่น
สวี่อันอันพับแขนเสื้อขึ้น และทำความสะอาดจัดเก็บของไปหนึ่งรอบ ถึงดูสบายตาขึ้นมามาก
ท้องเริ่มหิว สวี่อันอันหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากช่องซ่อนเงินในกระเป๋า ด้านในมีเงินที่เธอเก็บมาเป็นปี
เดิมคิดว่าจะเอามาซื้อของขวัญวันเกิดให้สวี่ฉาฉาในเดือนหน้า เอามาใช้ในยามฉุกเฉินแบบนี้ได้พอดี
ในนั้นมีทั้งแบงก์5หยวน 1หยวน ที่ใหญ่ที่สุดคือแบงก์10หยวน เธอหยิบขึ้นมานับ ทั้งหมดมี306หยวน พอที่จะให้เธอใช้ช่วงหนึ่ง
นอกตัวเรือนนั้นมีร้านรวงเปิดอยู่ สวี่อันอันออกไปซื้อขนมปังหนึ่งถุงและไข่ไก่จำนวนหนึ่ง และของใช้จำเป็นบางอย่าง
บะหมี่ร้อนๆชามหนึ่งเพิ่งต้มเสร็จ ถึงแม้จะใส่เพียงเกลือ ไม่ได้ใส่เครื่องปรุงอย่างอื่น แต่สวี่อันอันทานได้อย่างเอร็ดอร่อย
ไม่ต้องทำตัวดีเพื่อคนตระกูลสวี่ ที่ต้องดูแลเรื่องอาหารการกินให้พวกเขาเหมือนแม่บ้าน ไม่ต้องทนฟังคำพูดที่ต่อว่าถากถาง ตัวเองอยากใช้ชีวิตยังไงก็ทำได้ตามใจตัวเอง
หลังจากที่เธอปล่อยวางทุกอย่าง สวี่อันอันถึงได้รู้สึกว่า ชีวิตแบบนี้ไม่ต้องทำตัวสบายเกินไป
ช่วงกลางดึก ขณะที่เธอกำลังจะนอนหลับสนิทนั้น โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆก็สั่นขึ้น
สวี่อันอันขยี้ตาแล้วหยิบขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด เธอมองดูชื่อที่โทรเข้ามา
คนที่โทรเข้ามาตอนนี้เป็นบ้าหรือเปล่า ไม่รู้หรือว่ารบกวนคนอื่นกลางดึกถึงเพียงนี้ ไร้มารยาทจริงๆ!
แล้วเธอก็กดสายทิ้งไป แล้วได้โยนโทรศัพท์ไปไว้ข้างๆ
ตอนที่เธอหลับตาลงและกำลังจะเตรียมนอนลงนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นอีกครั้ง เธอกดรับด้วยความรำคาญ
เสียงที่ได้ยินจากปลายสายคือเสียงโมโหของซูจิ่นเฉิง “สวี่อันอัน เธอกล้าดียังไงถึงตัดสายโทรศัพท์ฉัน”
สวี่อันอันแคะหูแล้วเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู แล้วตะคอกใส่โทรศัพท์ว่า “ซูจิ่นเฉิง คุณบ้าไปแล้วหรือเปล่า มีเรื่องอะไรก็รีบพูดมา จะหาเรื่องอะไรก็ว่ามา”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอเอาโทรศัพท์ออกห่าง สวี่อันอันรับรู้ได้ถึงความโมโหของซูจิ่นเฉิง เขาถอนหายใจอย่างแรง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“สวี่อันอัน พรุ่งนี้ไปโรงเรียนเธอบอกกับคุณครูเอง ว่าถอนตัวจากรายชื่อพูดสุนทรพจน์ ถ้าไม่งั้น ฉันจะหาวิธีเอาโควตานั้นให้สวี่ฉาฉาเอง”
พูดจบก็วางสายไป
เธอมองดูหน้าจอโทรศัพท์ที่มืดไป เดิมสมองสวี่อันอันที่สะลึมสะลือ ตอนนี้เธอรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที
ถ้าไม่ใช่ซูจิ่นเฉิงที่ตั้งใจจะโทรเข้ามาเตือน เธอลืมเรื่องนี้ไปอย่างสิ้นเชิง
ถึงขั้นโทรเข้ามาให้เธอสละสิทธิ์ เพื่อจะเอาโควตานี้ไปให้สวี่ฉาฉา สวี่อันอันตั้งใจจะไม่ให้พวกเขานั้นสมหวังอย่างแน่นอน