บทที่ 11 ป่าวประกาศออกมาเสียงดังๆ
เมื่ออยากจะฉีกหน้าเธอ ก็ฉีกให้มันแหลกละเอียดไปเลย สวี่อันอันไม่ใช่คนที่จะมากลั่นแกล้งได้ง่ายๆ เธอจะไม่ไว้หน้าสวี่ฉาฉาเลย
ถังเสี่ยวจิ้งเมื่อได้ยินเช่นนั้ก็ตะลึงไป ปกติสวี่อันอันจะไม่เคยพูดเรื่องเสียหาย ที่ผ่านมาเธออาศัยอยู่ในห้องแบบนั้นในบ้านตระกูลสวี่ มันช่างเกินไปจริงๆ
คำพูดประโยคนี้เหมือนเป็นการตบหน้าสวี่ฉาฉาเข้าไปอย่างจัง เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดสวี่อันอัน สายตาของทุกคนที่มองสวี่ฉาฉาก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
สวี่ฉาฉารู้สึกว่าใบหน้าของเธอนั้นร้อนและเจ็บแสบเป็นอย่างมาก เธอคิดไม่ถึงว่าสวี่อันอันจะพูดแบบนี้ต่อหน้าคนจำนวนมากแบบนี้
มิหนำซ้ำไม่เรียกเธอว่าพี่สาวด้วยซ้ำ เอ่ยปากก็เรียกว่าคุณหนูฉา เห็นได้ชัดว่าเธอนั้นอยากจะแยกความสัมพันธ์ออกจากตระกูลสวี่อย่างสิ้นเชิง
“อันอัน เธอจะโทษพ่อแม่ว่าไม่ดีกับเธอเหรอ? พ่อกับแม่หาเงินก็ลำบากมากพอแล้ว พวกเราต้องเข้าใจพวกท่าน จะมาเกลียดชังแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเธอไม่พอใจจริงๆ ฉันจะแลกห้องกับเธอเอง”
สวี่ฉาฉาคุยกับสวี่อันอันด้วยท่าทีเหมือนพี่สาวคนหนึ่ง และใช้น้ำเสียงในการพูดดีเป็นอย่างมาก ที่ใครได้ยินก็ยากที่จะปฏิเสธเธอได้
ดูแล้วแสดงเป็นคนดีออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้สวี่อันอันซาบซึ้งจนแทบอยากจะร้องไห้ออกมา
เมื่อชาติที่แล้วเธอถูกใบหน้าที่ไม่ตรงกับใจนี้หลอกให้ถวายชีวิตให้
สวี่อันอันยิ้มขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น “ได้สิ งั้นเธอไปย้ายตอนนี้เลย อย่าดีแต่พูดแล้วไม่ทำ ถึงเวลาก็อย่าไปร้องห่มร้องไห้ไปฟ้องพวกพี่ชาย ว่าฉันแย่งห้องของเธอ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของสวี่ฉาฉานั้นเปลี่ยนไปทันที เธอมองสวี่อันอันแล้วทึ่งไป
ดวงตาคู่นั้นที่พร้อมจะหลั่งน้ำตาออกมา เหมือนจะไม่ค่อยเชื่อคำพูดของสวี่อันอันที่พูดออกมา
“อันอัน เธอ……ได้ ฉันกลับไปย้ายทันที ขอเพียงเธอยอมกลับไป” สวี่ฉาฉาพูดขึ้นด้วยความลำบากใจ
เพื่อนรักของสวี่ฉาฉาที่อยู่ข้างๆ ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วพูดขึ้นด้วยความโมโห “สวี่อันอัน เธอจะเกินไปแล้วนะ แย่งห้องคนอื่นหน้าตาเฉยแบบนี้ เธอทำไมถึงได้โหดร้ายถึงเพียงนี้!”
การป่าวประกาศออกมาเสียงดังเช่นนี้ วิธีการแบบนี้สวี่อันอันเคยเห็นมานานนับหลายปี
เธอเกลียดวิธีแบบนี้มาก
สวี่อันอันได้พูดออกไปตามตรงว่า “อย่าตัดสินคนอื่นถ้าเธอไม่รู้เรื่องที่ฉันต้องพบเจอ ห้องนั้นฉันนอนมาพันกว่าคืน ฉันนอนได้ แล้วทำไมสวี่ฉาฉาจะนอนไม่ได้? หรือว่าสวี่ฉาฉาเกิดมาก็สูงส่ง เกิดมาก็เพื่อจะนอนห้องเจ้าหญิงงั้นหรือ?”
สวี่ฉาฉาหน้าซีดไป รีบพูดขึ้น “อันอัน เป็นเพราะสุขภาพพี่ไม่ค่อยดี ทำให้พ่อกับแม่รักพี่มากกว่าหน่อยเท่านั้น……”
“ช่างเถอะ! ถ้าไม่อยากย้าย ก็ไม่ต้องเสียเวลาพูดอีก”
สวี่อันอันไม่ให้โอกาสสวี่ฉาฉาในการอธิบาย เธอตัดบทสวี่ฉาฉาและดึงมือของถังเสี่ยวจิ้งแล้วออกไป
สวี่ฉาฉามองเธอด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยความน่าสงสาร
ที่เมื่อพบเห็นก็จะรู้สึกสงสารจนจับใจ
ลองฟังดูว่าคำพูดที่เธอพูดนั้นฟังดูดีขนาดไหน ไม่ใช่เธอร้องขอมา แต่เป็นพ่อกับแม่เป็นคนให้เธอเอง ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเธอทั้งนั้น
หากเธอยังพูดจามากไปกว่านี้ เหมือนจะเป็นการรังแกคนที่ร่างกายอ่อนแอ
ถังเสี่ยวจิ้งรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก พ่อกับแม่คลอดเธอออกมาเพียงคนเดียว ในบ้านมีลูกพี่ลูกน้องที่เป็นพี่ชายตั้งหลายคน เธอเป็นที่รักของทุกคน
ไม่เคยเห็นบ้านที่ไม่รักลูกแท้ๆของตัวเอง ยังจะประคบประหงมลูกเลี้ยงดั่งแก้วแหวนดวงใจ วันนี้ถือว่าเป็นการเปิดโลกให้เธอแล้ว
ถังเสี่ยวจิ้งไม่ยอมเดินออกไป เธอถลกแขนเสื้อขึ้นพร้อมจะเข้าไปหาเรื่อง “สวี่ฉาฉา เธอทำไมตอแหลเก่งอย่างนี้ ห้องของเธออะไรกัน อันอันถึงจะเป็นลูกแท้ๆ เธอนั่นแหละที่ไม่ยอมออกไป แย่งทุกอย่างของอันอัน เธอยังมีหน้ามาร้องไห้อีก แม่งถือว่าไว้หน้าเธอมามากแล้ว……”
สวี่ฉาฉาขมวดคิ้วขึ้นเหมือนตกใจเป็นอย่างมาก ใบหน้าซีดเซียว แล้วร่างกายก็อ่อนระทวยแล้วล้มลงไปบนพื้น
“ฉาฉา เธอเป็นอะไรไป?”
“ฉาฉา รีบตื่นเร็ว รีบโทรหา 911เร็ว!”
เสียงเพื่อนของสวี่ฉาฉาก็กรีดร้องดังขึ้น ผู้คนต่างก็เข้ามามุง
ขณะนั้น สายตาของพวกที่มุงดูอยู่ ต่างก็จ้องมองสวี่อันอันและถังเสี่ยวจิ้งด้วยสายตาที่ต่อว่าและโมโห
ถังเสี่ยวจิ้งลืมตาโตโดยไม่เชื่อสายตาตัวเอง เธออยู่ห่างจากตัวสวี่ฉาฉาถึง5เมตร เธอยังไม่ทันจะได้ทำอะไรเลย
สวี่ฉาฉาถึงขั้นเสแสร้งได้ถึงเพียงนี้? มิน่าล่ะคนของตระกูลสวี่ถึงถูกเธอนั้นหลอกซะจนหมด
มามุกนี้อีกแล้ว สวี่อันอันรู้สึกรำคาญวิธีเดิมๆของเธอ เธอส่งเสียงบ่นออกมาแล้วได้หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหา 911 “สวัสดีค่ะ มีคนหมดสติอยู่ที่นี่ พวกคุณรีบมาเลยค่ะ ถ้าช้าจะต้องมีคนตายแน่ๆ ที่อยู่คือ……”
พูดจบเธอก็วางสาย สวี่อันอันไม่ได้สนใจแววตาที่ประหลาดใจของผู้คน เธอพาถังเสี่ยวจิ้งเดินออกไป
เมื่อสวี่ฉาฉาจะแสร้งเป็นลม งั้นก็ให้เธอทำให้เต็มที่!
เมื่อก่อนก็เป็นเช่นนี้
สวี่อันอันไม่ได้ทำอะไร แต่กลับถูกคนอื่นกล่าวหาว่ารังแกสวี่ฉาฉา แย่งของของสวี่ฉาฉา
สวี่ฉาฉาถึงได้เป็นคนที่อ่อนโยนดั่งหงส์ขาว และเธอเป็นแมลงที่โสโครกและดุร้าย
ถังเสี่ยวจิ้งที่ถูกสวี่อันอันลากกลับไปที่ห้องเรียน ถังเสี่ยวจิ้งยังคงมีอารมณ์โมโห ทั้งสองมือนั้นกำหมัดแน่น ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“อันอัน ฉันได้รู้ธาตุแท้ของพี่สาวเธอแล้ว ใบหน้าที่ไร้เดียงสาเช่นนั้น แล้วมาใช้วิธีแบบนี้อีก ช่างหน้าไม่อายเสียจริง”
ถังเสี่ยวจิ้งเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน เป็นคนสุดท้อง เธอยังมีลูกพี่ลูกน้องที่เป็นพี่ชายอีกหลายคน ในมุมมองของเธอ คนในบ้านต้องปกป้องน้องสาวเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
แต่พฤติกรรมของสวี่ฉาฉา กลับล้มล้างความเชื่อทุกอย่างของถังเสี่ยวจิ้งเสียจนหมด
ถ้าเธอไม่เห็นด้วยตาของเธอเอง เธอก็ยากที่จะเชื่อ
สวี่อันอันยิ้มขึ้น “อย่าไปพูดเรื่องที่ไม่สบายใจเลย ยังไงสุนัขกับคนก็ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่หรือ?”
เพียงแต่สวี่อันอันไม่คุยเรื่องนี้อีกต่อไป เธออยากอยู่แบบสบายหูบ้าง
เมื่อฟังสวี่อันอันพูดจนจบ ถังเสี่ยวจิ้งหัวเราะออกมาดัง “พรู๊ด” แล้วก็ได้ถามขึ้นอย่างลังเลว่า “อันอัน คนบ้านเธอลำเอียงถึงเพียงนี้ เธอน่าจะเสียใจมากใช่ไหม?”
สวี่อันอันกะพริบขนตาหนานั้นแล้วยิ้มขึ้นเล็กน้อย “ตอนนี้ไม่เสียใจแล้ว”