บท
ตั้งค่า

บทที่ 12 ลู่จิ้นเหยียนไม่สบาย

ช่วงบ่ายมีคาบเรียนไม่เยอะ มีเพียงคาบเดียวเท่านั้น เมื่อเรียนเสร็จสวี่อันอันก็จะกลับบ้านเลย

ถึงแม้ตอนนี้จะมีบ้านให้อยู่อาศัย แต่เธอไม่ได้มีเงินติดตัวเท่าใดนัก ตระกูลสวี่คิดว่าเพียงแต่ให้เธอนั้นได้กินอาหาร ไม่หิวตาย เธอก็ควรจะสำนึกบุญคุณพวกเขาแล้ว

สวี่อันอันเดินออกจากประตูโรงเรียน เธอยืนรอรถเมล์และได้เปิดโทรศัพท์มือถือขึ้น และเข้าอินเทอร์เน็ตตามปกติที่เคยทำ เธออยากจะหางานพาร์ทไทม์ที่อยู่ใกล้ๆแถวนี้ เมื่อเธอเปิดโทรศัพท์มือถือขึ้นก็ต้องตกตะลึงกับบางอย่าง เธอลืมไปว่ายุคนั้นโทรศัพท์มือถือยังไม่ได้อัจฉริยะถึงเพียงนี้ โทรศัพท์ยังทำได้เพียงโทรเข้าออกและส่งข้อความเท่านั้น

ผ่านไปครู่เดียว ก็มีรถเก๋งเล็กสีดำมาจอดอยู่ตรงหน้าเธอ

เธอมองเข้าไปในรถคันนั้น แล้วมองเห็นกระจกที่นั่งด้านหลังค่อยๆเปิดขึ้น เผยให้เห็นชายหนุ่มใบหน้าลึกล้ำคนหนึ่ง สีหน้าดูเย็นชาเหมือนเช่นเคย และความสูงส่งที่ไร้ที่ติ

ลู่จิ้นเหยียนเหลือบไปมองสวี่อันอันแล้วค่อยๆพูดขึ้น: “ขึ้นรถ”

สวี่อันอันนิ่งไปสักครู่ เธอร้องขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ

ชายคนนั้นขมวดคิ้วขึ้นและพูดด้วยเสียงเบา “กระโปรงเธอเปื้อนเลือด”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของสวี่อันอันก็แดงขึ้นทันที เธอรีบหันไปดูด้านหลังของตัวเอง ผลปรากฏว่าด้านหลังกระโปรงสีน้ำเงินนั้นมีรอยสีแดงอยู่  

ถึงแม้จะเป็นช่วงเดือน9แล้ว แต่อากาศก็ยังร้อนเป็นอย่างมาก เธอมีเพียงกระโปรงตัวนี้ตัวเดียวเท่านั้น

สวี่อันอันรีบเอามือนั้นไปกุมรอยแดงบนกระโปรงนั้นด้วยความอับอาย ทำไมต้องเป็นลู่จิ้นเหยียนที่มาเห็นด้วย เธอรู้สึกทำตัวไม่ถูกอยากจะมุดดินหนีลงไป  

“ขึ้นรถ!” ลู่จิ้นเหยียนได้ส่งเสียงเยือกเย็นนั้นออกมาอีกครั้ง

เวลานั้น ประตูด้านหน้าขนขับก็ได้ถูกเปิดออก คุณลุงที่ขับรถก็ได้ลงจากรถ ส่งรอยยิ้มที่เป็นมิตร แล้วเปิดประตูด้านหลังรถออกแล้วผายมือทำท่าเชิญขึ้นรถ 

เธอคิดสักครู่ แล้วสวี่อันอันก็ไม่เล่นตัว ขึ้นรถไปด้วยความลำบากใจ

แต่สถานการณ์แบบนี้ เธอไม่กล้านั่งลงตรงเบาะที่นั่ง เพราะเกรงว่าจะทำเบาะรถของคนอื่นนั้นเปื้อน

สวี่อันอันได้แต่ก้มหัวลง และทำท่านั่งยองๆ ท่าทีดูน่าสงสารเป็นอย่างมาก

ลุงหยุนได้ปิดประตูรถขึ้น แล้วกลับไปนั่งที่นั่งคนขับ แล้วหันมาถามสวี่อันอัน “ หนูพักอยู่ที่ไหน?”  

“พักอยู่แถวถนนเฉินเป่ยค่ะ” สวี่อันอันตอบด้วยนพ้เสียงที่เบา เธอทำตัวไม่ถูก มือไม้ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนแล้ว

ลู่จิ้นเหยียนมองเหลือบไปมองสวี่อันอัน “นั่งแบบนี้ไม่ทรมานหรือ?”

“ไม่ค่ะ ยังได้อยู่ค่ะ……” ไม่ทันจะพูดจบ สวี่อันอันที่รู้สึกตื่นเต้นและเกร็ง เลยไปชนเข้ากับหลังคารถ เจ็บจนเธอไม่กล้าจะส่งเสียงร้องออกมา 

ความอับอายนี้เข้ามาเร็วเสียเหลือเกิน เธอรู้สึกเศร้าเสียใจ รีบก้มหัวต่ำลงไปอีก แม้แต่หายใจก็ไม่กล้าส่งเสียงดัง

ลู่จิ้นเหยียนเม้มปากบางของเขาเป็นเส้นตรง เหลือบไปมองเธอ แล้วถอดเสื้อสูทแล้วโยนไปที่เบาะอีกข้าง “เอาอันนี้ปูไว้”

สวี่อันอันลืมตาโตด้วยความสงสัย สายตาเธอกะพริบไปมา เสื้อสูทนี้แค่ดูก็รู้ว่าราคาแพงมาก

ตอนนี้แค่เงินกินข้าวเธอก็ยังไม่มี ถ้าเสื้อสูทที่แพงขนาดนี้ต้องเปื้อนไปด้วยประจำเดือน

เธอไม่มีปัญญาจะชดใช้ได้

ลู่จิ้นเหยียนหยักคิ้วขึ้นและเหมือนจะรู้ความในใจของเธอ “ฉันไม่เอาผิดนักเรียนหรอก”

มันก็ใช่……

สวี่อันอันรับมันมาแล้วพูดขอบคุณ แล้วค่อยๆลุกขึ้นและไปนั่งที่ตรงนั้น

รถเร่งความเร็วอยู่บนท้องถนน เพื่อหลีกเลี่ยงการทำตัวไม่ถูก ใบหน้าเล็กๆของสวี่อันอันนั้นมองออกไปนอกหน้าต่างโดยตลอด  

แสงสว่างของหน้าต่างสะท้อนให้เห็นด้านข้างของลู่จิ้นเหยียน ใบหน้าหล่อเหลา ดูสะอาดสะอ้านแต่ก็ไม่ได้ทิ้งความเป็นผู้ชายไป

คนที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ทำไมตายจากไปหลังจากนั้นเพียงสองปีละ น่าเสียดายเป็นอย่างมาก

สักพัก รถก็ได้จอดลงตรงทางเข้า

สวี่อันอันรู้สึกโล่งอก เธอพูดขอบคุณ แล้วรีบกระโดดลงจากรถไป

แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ลุงหยุนได้เปิดประตูรถลงมาแล้วเรียนเธอขึ้น

ท่าทางของลุนหยุนลังเลเล็กน้อย แล้วถามเธอขึ้น “หนู หนูพักอยู่แถวนี้ หนูรู้จักคนแก่คนหนึ่งที่ชื่อหยูซิ่งฮั๋วหรือเปล่า?” 

เมื่อได้ยินชื่อนั้น สายตาของสวี่อันอันนั้นแสดงความประหลาดใจขึ้น “พวกคุณรู้จักคุณย่าหนูด้วยหรือคะ?”

“เป็นคุณย่าหนูเหรอ? บอกลุงหน่อยได้ไหมว่า ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?”

เสียงของลุงหยุนนั้นแสดงถึงความตื่นเต้น

สวี่อันอันพยักหน้า แววตาแสดงความเศร้าโศกออกมาเล็กน้อย “คุณย่าหนูเสียไปเมื่อสามปีที่แล้วค่ะ” 

ผ่านไปสักพัก ลุงหยุนแสดงความเสียใจออกมาเมื่อได้ยินข่าวนี้ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง

ลุงหยุนเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดมันออกมา เขายิ้มขึ้นอย่างใจดี “พวกเรามาช้าไป เข้าใจละ หนูขึ้นไปเถอะ”

สวี่อันอันพยักหน้าและหันหลังไป ในใจของเธอกำลังเดาอะไรบางอย่าง

ลุงหยุนมาหาคุณย่าเพราะอาการป่วยของลู่จิ้นเหยียนหรือเปล่า?

ชาติที่แล้ว เพราะว่าหาคุณย่าไม่เจอ ทำให้ลู่จิ้นเหยียนนั้นหาทางรักษาไม่ได้ ถึงได้ตายจากไป?

เธอเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงร้องของลุงหยุนในรถขึ้นมา

“คุณชาย คุณเป็นอะไร?”

“ยาละ ยาอยู่ที่ไหน?” ลุงหยุนรีบค้นตู้เก็บของในรถ

เขาจำได้ว่าเก็บยาไว้ในตู้ ทำไมถึงหาไม่เจอแล้วละ 

สวี่อันอันหยุดฝีเท้าลง และรีบวิ่งกลับไปและเปิดประตูรถออก เธอมองเห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของลู่จิ้นเหยียน คิ้วนั้นขมวดขึ้นแน่น สีหน้าซีดเซียวเหมือนกระดาษ และมีเหงื่อซึมออกมา เขาใช้มือข้างหนึ่งจับศีรษะ เส้นเลือดด้านหลังของเขานั้นปูดขึ้น

อาการป่วยของลู่จิ้นเหยียนนั้นกำเริบ?

สวี่อันอันรู้สึกตกใจกับภาพที่เธอเห็น เธอยื่นมือออกไปจับชีพจรของเขา

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที สวี่อันอันเม้มปากขึ้น เหมือนจะตรวจพบความผิดปกติของร่างกายลู่จิ้นเหยียน รวมไปถึงการได้กลิ่นยาจากตัวของเขา

ยาพวกนี้เป็นยาที่รักษา……อาการนอนหลับยาก ฝันเยอะ ระบบประสาทอ่อนแอ

โดยเฉพาะยากล่อมประสาท ที่แสดงให้เห็นว่าอาการนั้นอยู่ในขั้นรุนแรงแล้ว

การนอนหลับที่ผิดปกติมาเป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้อารมณ์นั้นรุนแรง ระบบประสาทอ่อนเพลีย ถ้ารักษาเหมือนการนอนไม่หลับทั่วไป ไม่ได้ช่วยอะไรเลย

ถ้าสะสมอาหารเช่นนี้เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จะทำให้อาการนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ลู่จิ้นเหยียนลืมตาขึ้น ดวงตาสีเขียวนั้นคมดั่งใบมีด ปลายตาของเขาเริ่มมีสีแดงเข้ม

เขาหายใจหอบพร้อมกับหันศีรษะออกไป ใบหน้าของเขานั้นดูหดหู่ แล้วพยายามจะพ่นคำพูดออกมาว่า “ออกห่างจากตัวฉัน!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel