บทที่ 4 พบเจอพี่ชายนางร้าย
"สรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้น"
ติณห์หัวหน้ามาเฟียผู้มีอำนาจควบคุมเขตใต้เอ่ยออกมาเสียงเย็น การปรากฏตัวของเขาทำให้บรรยากาศภายในห้องผู้ป่วยเต็มไปด้วยความอึดอัด เขาจ้องมองไปที่มาริสาน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา ที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยราวกับกำลังรอคำตอบ
"พี่ติณห์ก็อย่างที่สาบอกคุณลุงไป สาเมาแล้วปืนในมือลั่นโชคดีที่พี่ธันย์มาช่วยไว้"
มาริสาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พยายามข่มความหวาดกลัวไว้ในใจ ดวงตาคู่สวยมองไปที่ชายชุดดำห้าคน กำลังถือปืนจ่อไปที่ธันย์ตามคำสั่งของพี่ชายเธอ
ตามนิยายติณห์เป็นพี่ชายที่คลั่งรักน้องสาวอย่างมาริสามาก ไม่ว่าน้องสาวต้องการอะไร ขอเพียงเอ่ยปากทุกอย่างก็จะมาอยู่ตรงหน้าของเธอทันที เรียกได้ว่ามาริสาเป็นจุดอ่อนเดียวของเขา
"พี่ติณห์ ปล่อยพี่ธันย์ได้แล้ว"
"พี่ให้มันดูแลเราให้ดี แล้วดูสิ่งที่เกิดขึ้นสิ"
"แต่ตอนนี้สาไม่เป็นอะไรแล้ว ดูสิ"
ติณห์มองน้องสาวของเขาที่พยายามขยับแขนไปมา เพื่อให้เขาได้เห็นว่าเธอไม่เป็นอะไรตามที่พูดออกมา เขาไม่ได้คิดไปเองมาริสาแปลกไป เพราะถ้าเป็นตอนปกติ มาริสาจะไม่มีทางยอมรับความผิด เธอจะโทษคนอื่น อีกทั้งไม่มีทางที่จะเรียกไอ้ธันย์ว่า 'พี่'
"สารู้ใช่ไหม ตั้งแต่ที่พ่อกับแม่จากพวกเราไป เพราะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ พี่ก็เหลือเราเพียงคนเดียวช่วยระวังตัวเองหน่อยได้ไหม"
"พี่ติณห์สาว่าคนที่ป่วยคงเป็นพี่แล้ว พ่อกับแม่จากพวกเราไปเพราะเรือระเบิดต่างหาก ถึงตอนนั้นสาจะแค่เจ็ดขวบแต่ก็จำได้"
มาริสาพูดออกมาเสียงเศร้า จ้องมองติณห์ที่กำลังยืนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย เธอรับรู้ได้ว่าเขากำลังสงสัยในตัวเธอ ถึงได้จงใจพูดข้อมูลผิดออกมา เพื่อจับสังเกตเธอแบบนี้
"นั่นสิพี่จำผิดเอง เรานอนพักเถอะ"
ติณห์พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม พลางยกมือขึ้นลูบศีรษะมาริสา ก่อนจะหมุนตัวก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องผู้ป่วย ทันทีที่ประตูปิดลง รอยยิ้มที่เคยมีบนใบหน้าของเขาก็เลือนหายไปทันที ความสงสัยที่มีอยู่ในใจยังคงไม่เลือนหายไป สัญชาตญาณเขามันบอกว่าคนตรงหน้า ไม่ใช่มาริสาน้องสาวของเขา
"นำรอยนิ้วมือของมาริสาไปตรวจสอบ"
"ครับ"
ต่อให้ศัลยกรรมหน้ามาให้เหมือนแค่ไหน แต่รอยนิ้วมือมันหลอกกันไม่ได้ ติณห์ต้องการแน่ใจว่าคนที่อยู่ในห้องคือมาริสาน้องสาวของเขาจริง ๆ ถ้าในห้องคือมาริสาเขาคงต้องหาสาเหตุที่น้องสาวเปลี่ยนไปแบบนี้
ด้านมาริสาหลังจากติณห์ผู้เป็นพี่ชายเดินออกไปจากห้องแล้ว ภายในห้องผู้ป่วยก็เหลือเพียงเธอและธันย์ ริมฝีปากบางยกยิ้มออกมา เมื่อเห็นว่าเขากำลังจ้องมองเธออยู่ด้วยแววตายากคาดเดา
"ทำไมถึงช่วยฉัน"
"ก็เพราะเป็นพี่ธันย์ไง ถ้าเป็นคนอื่นสาไม่ช่วยหรอก"
สิ่งที่เธอพูดล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น เพราะหากเป็นคนอื่นเธอคงห่วงชีวิตและบอกความจริงออกไป ถึงแม้เธอจะเป็นนักเขียนนิยายเรื่องนี้แต่ก็กลัวตายเป็นเหมือนกัน
เธอเคยตายมาหนึ่งรอบแล้ว ไม่อยากตายอีกรอบหรอกนะ..
"มาริสา เธอต้องการอะไรจากฉันกันแน่"
"สาอยากให้พี่ธันย์มีความสุข"
ธันย์ที่ได้ฟังคำตอบของคนตรงหน้าชะงักเล็กน้อย เขาจ้องมองมาริสาที่กำลังส่งยิ้มให้เขา แววตาเต็มไปด้วยความจริงใจไม่เหลือคราบผู้หญิงน่ารังเกียจเหมือนในอดีต
"พอผ่านความตายมาครั้งหนึ่งสาก็คิดอะไรได้หลายอย่างเลย"
"......"
"อย่างเรื่องที่พี่ธันย์ทำอะไรเพื่อสามามากมาย สาก็คิดว่าถ้าครั้งนี้รอดชีวิตไปได้จะต้องตอบแทนพี่ธันย์ให้ได้"
"หึ เธอจะบอกว่าไม่โกรธที่ฉันยิงเธอ"?
"ความจริงเรื่องนั้นก็เป็นเพราะสายั่วโมโหพี่ธันย์เอง"
"......"
"แต่ไม่ใช่ว่าสาอยากโดนพี่ธันย์ยิงอีกหรอกนะ เอาเป็นว่าพวกเรามาจับมือคืนดีกันเถอะนะ" มาริสาพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม เธอตัดสินใจแล้วว่าต่อไปนี้สิ่งที่จะทำคือการมอบความสุขให้ธันย์ ตัวร้ายของนิยายเรื่องนี้
ธันย์ที่เห็นคนตรงหน้ายื่นมือออกมาก็แค่นหัวเราะในลำคอ เขาไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เธอพูดมาจะเป็นเรื่องจริง คิดว่าคงวางแผนอะไรเพื่อหลอกใช้เขามากกว่า แต่เขาเองก็ต้องการอำนาจที่อยู่ในมือของเธอ การแสร้งเป็นคนโง่ก็ถือว่าไม่เลว
"เอาสิ"
3 วันผ่านไป
มาริสาที่ได้รับอนุญาตออกจากโรงพยาบาลแล้ว เดินทางกลับมาที่คอนโดส่วนตัวของเธอโดยมีธันย์เป็นคนดูแล เธอกวาดสายตามองสำรวจรอบ ๆ ด้วยความไม่คุ้นเคย กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งไปทั่วห้อง ขวดไวน์ราคาแพงกระจายอยู่ตามพื้นห้องจนไม่มีที่เดิน
"พี่ธันย์กลับไปก่อนก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่งสา"
"อืม"
ธันย์วางของส่วนตัวของมาริสาลง พลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะส่ายหน้าอย่างเอือมระอา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาในห้องนี้ ไม่คิดว่าคอนโดหรูตอนนี้มีสภาพไม่ต่างจากกองขยะขวดเหล้า
"ฉันกลับก่อน"
"ค่ะ....จริงสิ..พี่ธันย์ขับรถดีดีนะคะ"
เขาไม่ได้ตอบรับคำแต่อย่างใด เพียงแต่เดินออกมาจากห้องด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งที่รู้ว่ามาริสากำลังแสร้งทำว่าเป็นห่วงเขาอยู่ แต่เขากลับรู้สึกแปลกในใจ
เหมือนกับว่า กำลังพอใจที่คนตรงหน้าเป็นห่วงแม้จะแสร้งทำก็ตาม...