บท
ตั้งค่า

บทที่ 23 ถูกตราหน้าว่าเป็นขโมย 1/1

ภารกิจตามล่าหาหัวมันและฟักทองประสบความสำเร็จด้วยดี เมื่อนำกลับมาถึงบ้านเช่าหลินหว่านมีผู้ช่วยทั้งสี่ คอยทำความสะอาดปอกเปลือกหัวมันกับฟังทอง เพื่อนำไปนึ่งให้สุกพอประมาณแต่ไม่เละสำหรับโรยบนหน้าขนมครก แต่มีบุรุษผู้หล่อเหลานั่งทำสีหน้าบูดบึ้งอยู่กับที่ดูทุกคนทำงาน ต่างกับตนเองทำได้เพียงนั่งมองกรอกตาไปมา หวังซินหยางอยากจะลุกขึ้นไปช่วยทำงานอย่างยิ่ง ยามนี้เขาทำได้เพียงต้องอดทนเท่านั้นหากยังฝืนทำ มีหวังหลินหว่านคงจะโกรธและไม่พูดคุยกับเขาเป็นแน่

หลังจากนึ่งหัวมันกับฟักทองจนได้ที่ยังต้องนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไว้โรยบนหน้าขนมครกที่จะเริ่มมีสีสันตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ในใจของทุกคนกำลังคิดคล้าย ๆ กันว่าลูกค้าที่ได้เห็น จะแสดงสีหน้าท่าทางอย่างไรหรือมีคำติชมวิจารณ์เช่นไร เพียงแค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นล่วงหน้าไปเสียแล้วแต่งานในมือก็ยังทำอย่างต่อเนื่อง กว่าจะจัดการวัตถุดิบต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยก็เข้ายามซวีไปแล้ว หลินหว่านจึงให้น่าซือทำอะไรง่าย ๆ มาทานด้วยกัน หากทำอาหารที่มีหลายขั้นตอนเกรงว่าจะดึกมากไปกว่านี้ และทุกคนจะเสียเวลาพักผ่อนพรุ่งนี้จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้

เมื่อถึงเวลาต้องตื่นไปขายขนมที่ตลาดทุกคนล้วนตื่นได้ตามปกติ มีเพียงหลินหว่านที่รู้สึกว่าตนเองถูกฟูกนอนดูดวิญญาณไว้ นางไม่อยากจะลุกออกมาเลยจริง ๆ แต่ยังดีที่เสี่ยวลวี่ช่วยเตือน ไม่เช่นนั้นวันนี้คงได้อดขายขนมครกเพิ่มสีสันวันแรกแน่ ๆ

“นายหญิง ๆ ตื่นได้แล้วเจ้าค่ะหากยังนอนหลับอุตุอยู่เช่นนี้ ขนมครกที่เตรียมไว้จะขายไม่ทันเอาได้นะเจ้าคะ ไหนจะท่านอนแปลก ๆ ของท่านอีกช่างไม่เรียบร้อยเอาซะเลย” เสี่ยวลวี่ทั้งปลุกทั้งบ่นหลินหว่าน

“อือ อย่าเสียงดังเสี่ยวลวี่คนกำลังนอนสบายนะ เดินขึ้นภูเขาเมื่อวานทำเอาข้าปวดเมื่อยแข้งขาไปหมดเลย ฮ้าวววว”

“แต่วันนี้นายหญิงจะเอามันม่วงกับฟักทองไปโรยหน้าขนมครก ขายให้ลูกค้าที่ตลาดเป็นวันแรกนะเจ้าคะนายหญิง หากท่านยังไม่ยอมลุกขึ้นมาละก็ข้าจะปล่อยท่านตื่นสายเสียให้เข็ดคอยดูสิ”

“พรึ่บ!! จริงด้วยมันม่วงฟักทองแย่แล้วยามไหนแล้วเสี่ยวลวี่ โอย หลินหว่านนะหลินหว่านเจอที่นอนนุ่ม ๆ ทีไรเป็นไม่อยากจะตื่นทุกทีสิน่า”

“รีบไปจัดการตนเองเถิดเจ้าค่ะส่วนที่นอนของท่านข้าจะช่วยเก็บให้เรียบร้อยเอง”

“ขอบใจมากนะเสี่ยวลวี่เจ้านี่ช่างน่ารักอะไรเช่นนี้ เอาไว้ข้าจะทำขนมให้หนึ่งจานใหญ่ก็แล้วกันนะ ฝากด้วยวันอื่นจะไม่เป็นเช่นนี้แล้วล่ะเจ้าสบายใจได้เสี่ยวลวี่”

“เฮ้อ ขอให้จริงเถิดเจ้าค่ะนายหญิง”

ที่ตลาดยามนี้ตรงแผงของหลินหว่านมีคนมาต่อแถวรออยู่แล้วเกือบสิบคน ทำเอาแม่ค้าหน้าหวานที่เพิ่งมาถึงเกิดอาการปลื้มปริ่ม ซึ่งเป็นผลของความอร่อยจากขนมครกจึงรีบเดินเข้าไปบอกกล่าวกับลูกค้าให้รอสักนิด ยังดีที่หลินหว่านติดเตาไฟจนมีถ่านสีแดงมาจากบ้านเช่า วางบนรถลากที่พ่วงท้ายรถม้าของนางอีกที

“ทุกท่านมารอกันแต่เช้าเลยหรือเจ้าคะเหตุใดไม่หาซื้ออย่างอื่นเสียก่อน แล้วค่อยกลับมาซื้อขนมของข้าก็ยังทันถมเถไปเจ้าค่ะ”

“ไอหยา แม่ค้าคนงามเจ้าไม่รู้อะไรยามนี้ชื่อเสียงของขนมครกที่เจ้าขาย มีใครบ้างไม่รู้จักป้าได้ยินสหายของสามีเล่าว่า คนจากเมืองที่อยู่ใกล้ ๆ กับเมืองหยางหลิวอยากมาซื้อขนมของเจ้าแล้วนะ เพราะมีคนนำไปเป็นของฝากด้วยระยะทางไม่ไกล ทำให้รสชาติของขนมยังคงเหมือนเดิมคนที่ได้ชิมต่างชื่นชอบทั้งสิ้น วันนี้ป้าถึงได้ชวนสหายมารอซื้อขนมกับเจ้าก่อนเรื่องกับข้าวเอาไว้ทีหลังน่ะดีแล้ว”

“โอ้ ชื่อเสียงขนมครกของข้าไปไกลถึงเพียงนั้นเลยหรือเจ้าคะ เป็นเพราะพวกท่านที่ช่วยอุดหนุนมากกว่าเจ้าค่ะ ไม่เช่นนั้นจะมีคนรู้จักขนมของแม่ค้าหน้าใหม่เช่นข้าได้อย่างไร ท่านป้ากับสหายพูดคุยรอสักประเดี๋ยวให้กระทะขนมร้อนอีกสักนิดนะเจ้าคะ หากกระทะได้ที่แล้วหยอดขนมลงไปไม่นานก็ได้ทาน ที่สำคัญวันนี้ขนมครกของข้ามีพืชผักสองชนิดโรยหน้าด้านบนเพิ่มอีกด้วย พวกท่านป้ารอชิมแล้วให้คำติชมด้วยนะเจ้าคะ” หลินหว่านได้ทีก็รีบบอกเรื่องที่ขนมของตนจะมีผักสองชนิดมาโรยหน้าขนม

“หืม แม่ค้าคนงามที่เจ้าพูดเมื่อกี้แสดงว่าพวกป้าเป็นกลุ่มแรก ที่จะได้ชิมขนมแบบมีผักโรยด้านหน้าเช่นนั้นหรือ นี่พวกเราคิดถูกแล้วล่ะนะที่มายืนรอตรงหน้าร้านของแม่ค้าคนงาม”

“ดีนะที่ข้าเชื่อคำชวนของเจ้าไม่เช่นนั้นคงอดชิมเป็นคนแรกแน่ ๆ”

“ในเมื่อพวกเรามาประเดิมแต่เช้าเช่นนี้จะสั่งแค่สองกระทงไม่ได้แล้วนะ ข้าจะสั่งขนมเพิ่มเป็นห้ากระทงเอากลับไปทานที่บ้านด้วยล่ะ”

“พวกเราจะน้อยหน้าเจ้าได้อย่างไรในกระทะรอบแรกนี้ อย่างไรเสียก็ต้องขายให้กับพวกเราส่วนคนที่มาทีหลัง ต้องรอรอบต่อไปเท่านั้นถึงจะได้ทานของอร่อยเจ้าว่าไหม คิ คิ คิ”

“ฉ่า! ฉ่า! ฉ่า! ฉ่า!”

“รอบแรกเริ่มหยอดลงกระทะแล้วนะเจ้าคะท่านป้าทั้งหลาย พวกท่านรอดูและรอชิมไม่เกินหนึ่งจิบชาแน่นอนเจ้าค่ะ ของอร่อยต้องใช้เวลาสักนิดหวังว่าท่านป้าจะเข้าใจนะเจ้าคะ” หลินหว่านกับผู้ช่วยทั้งสามเริ่มหยอดขนมเมื่อกระทะร้อนได้ทีแล้ว

“ฟืดดดด อื้มม กลิ่นหอมที่เหมือนเดิมมันช่างชื่นใจเสียจริง ว่าแต่ว่าผักที่แม่ค้าคนงามจะโรยบนขนมมันคือผักอันใดหรือ สีของผักทั้งสองช่างตัดกับสีขาวของขนมได้ดีมากเลยนะ”

“อ้อ เจ้าผักสีเหลืองนี้เรียกว่าฟักทองเจ้าค่ะท่านป้าส่วนสีม่วงเรียกว่าหัวมันม่วง พวกมันจัดอยู่ในประเภทของผักชนิดหัวและขอบอกท่านป้าตามตรง เจ้าผักสองอย่างนี้ข้าออกแรงขึ้นเขาไปตามหาด้วยตนเองเชียวนะเจ้าคะ แม้พวกมันจะมีสีที่ไม่เหมือนกับผักทั่วไปแต่ประโยชน์ของมันล้วนไม่น้อยหน้า นอกจากทำให้อิ่มท้องได้นานยังช่วยบำรุงรักษาสายตาบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง ชุ่มชื่น ชะลอรอยเหี่ยวย่น พวกท่านฟังแล้วคิดว่ามันดีต่อสุขภาพหรือไม่เล่าเจ้าคะ” หลินหว่านถือโอกาสขายผักล่วงหน้ารอให้นางปลูกพวกมันเสียก่อน

“แล้วแม่ค้าคนงามมีเจ้าผักสองอย่างนี้ติดมาขายด้วยไหม ถ้ามีละก็พวกข้าจะซื้อเอากลับไปทำอาหารทานกับครอบครัวซะเลย”

“ตอบท่านป้าตามตรงตอนนี้ข้าเองกำลังเพาะต้นกล้าอยู่เจ้าค่ะ อาจต้องใช้เวลาในการเพาะปลูกอีกสองสามเดือน ถ้าเก็บเกี่ยวได้เมื่อไหร่จะบอกกับพวกท่านเป็นคนแรกดีไหมเจ้าคะ”

“ขอบใจแม่ค้าคนงามมากนะที่ห่วงใยสุขภาพคนแก่อย่างพวกป้าน่ะ รับรองผักของเจ้าก็ต้องขายดีเหมือนกับขนมเช่นกัน”

“หื้อ ใครบอกว่าพวกท่านแก่เจ้าคะปากเสียกันจริงเชียว ขอเพียงพวกท่านป้าดูแลตนเองดี ๆ อายุก็เป็นแค่ตัวเลขเท่านั้นเจ้าค่ะ อิ อิ”

“ดูสิช่างพูดเอาใจคนแก่เสียด้วยแต่ป้าจะลองทำตามที่เจ้าบอกนะ อิ อิ”

ระหว่างที่หลินหว่านชวนลูกค้าวัยกลางคนเช่นท่านป้าทั้งหลายพูดคุย ขนมครกรอบแรกก็พร้อมขายแล้วเหวินเสียนช่วยยกมาว่างบนถาด เพื่อระบายความร้อนออกไปสักเล็กน้อยเสียก่อน
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel