บทที่ 21 ขึ้นเขาตามหาหัวมัน 1/2
“นายหญิงไม่ต้องเป็นห่วงประเดี๋ยวเมื่อไปถึงหมู่บ้าน เสี่ยวลวี่จะไปสอบถามกับพวกสหายบนเขาให้ท่านเอง และเชื่อว่าสิ่งที่ท่านตามหาจะต้องมีอยู่บนเขาอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ คราวนี้ขนมของนายหญิงก็จะยิ่งน่าทานจนลูกค้ามาหาซื้อไม่ขาดสาย ต่อไปพวกท่านต้องเพิ่มกระทะทำขนมอีกหลายใบเป็นแน่ อิ อิ”
“คิดว่าคนอย่างโจวหลินหว่านจะกลัวความลำบากหรือไม่มีทาง ขอเพียงบรรลุเป้าหมายที่วางไว้จะเหนื่อยแค่ไหนข้าต้องทำมันให้สำเร็จให้จงได้”
“เสี่ยวลวี่จะเป็นผู้ช่วยที่เก่งที่สุดของนายหญิงเองเจ้าค่ะ แต่เสี่ยวลวี่ขอขนมเพิ่มอีกนิดได้หรือไม่เจ้าคะ”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว อิ อิ”
“เย้ ๆ ๆ”
เมื่อได้นั่งอยู่บนที่นอนอันแสนคุ้นเคยหลินหว่านจึงถือโอกาสนอนพักไปในตัว โดยไม่ลืมเตือนเสี่ยวลวี่ให้ปลุกนางในยามอู่เพื่อไปเยือนหมู่บ้านหลูหยาง ซึ่งพอถึงเวลานั้นทั้งหยุนเหลียงและเหวินเสียนก็รอนางอยู่ที่ประตูหน้าบ้านเช่าแล้ว ทั้งสามคนใช้เวลาเพียงสามเค่อก็มาถึงหมู่บ้านหลินหว่านได้นำขนมครกมาด้วย เพื่อเป็นของขวัญพบหน้าและฝากตัวเป็นลูกบ้านที่นี่อีกคน
“ก๊อก ๆ ๆ มีใครอยู่บ้านหรือไม่ข้ามาขอพบหัวหน้าหมู่บ้านขอรับ” หยุนเหลียงอาสาลงไปเคาะประตูบ้านเอง
“มี ๆ ๆ เจ้ามาพบข้ามีเรื่องอันใดหรือแต่ทำไมหน้าตาของเจ้าข้าถึงไม่คุ้นเลยเล่า” เหอซู่เผิงมองหน้าหยุนเหลียงไปมาด้วยความสงสัย
"ท่านคือหัวหน้าหมู่บ้านหลูหยางแห่งนี้ใช่หรือไม่ ที่ท่านไม่คุ้นหน้าเพราะข้ากับเจ้านายยังมิได้ย้ายเข้ามา เนื่องจากบ้านต้องใช้เวลาในการสร้างอีกสักพักน่ะ ท่านคงจะรู้แล้วว่าที่ดินติดเชิงเขาจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบหมู่มีเจ้าของแล้ว ยามนี้กำลังทำการสร้างกำแพงล้อมรอบที่ดินทั้งหมด คาดว่าแรงงานส่วนหนึ่งก็เป็นคนในหมู่บ้านของท่านกระมัง”
“ที่แท้เจ้านายของเจ้าก็คือคนที่ซื้อที่ดินติดเชิงเขานั่นเองหรอกรึ ไหนล่ะเจ้านายของเจ้าวันนี้เดินทางมาด้วยกันหรือไม่ ข้าอยากจะกล่าวขอบคุณจากใจที่ให้โอกาสคนในหมู่บ้านได้มีงานทำ พวกชาวบ้านต่างดีใจจนบางคนถึงกับร้องไห้ออกมาเชียวนะ”
“สวัสดีท่านลุงเจ้าค่ะข้าคือเจ้าของที่ดินผืนนั้นเอง และดีใจเช่นกันที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้านแห่งนี้ ต่อไปมีสิ่งใดพวกเราก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยช่วยเหลือกันนะเจ้าคะ” หลินหว่านที่ได้ยินหัวหน้าหมู่บ้านถามถึงตนจึงได้ลงจากรถม้าไป
“โอ้ คารวะคุณหนูขอรับยินดีต้อนรับท่านสู่หมู่บ้านหลูหยาง ข้าในฐานะที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านขอเป็นตัวแทนทุกครอบครัว ขอบคุณท่านจากใจที่มอบโอกาสในการทำงานให้ชาวบ้านที่นี่ก่อน ครั้งนี้ไม่รู้จะตอบแทนท่านอย่างไรดีเพราะชาวบ้านมีรายได้น้อยลงมาสักพักใหญ่ ๆ แล้วขอรับ”
“ท่านลุงอย่าได้เกรงใจไปเลยเจ้าค่ะในเมื่อเป็นเรื่องดี ที่ทุกคนมีงานทำมีรายได้ไปจุนเจือครอบครัว ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนชั่วคราว ถึงอย่างไรบ้านสวนของข้ายังต้องใช้เวลาในการสร้างอีกหลายเดือน ชาวบ้านก็จะมีรายได้จากตรงนี้ไว้ซื้อเสบียงเก็บไว้สำหรับฤดูหนาวหรือจะเตรียมพวกเครื่องนอนเสื้อผ้ารวมถึงสิ่งของจำเป็น วันไหนที่บ้านสวนของข้าสร้างเสร็จและได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ค่อยคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาที่พวกท่านพบเจอและไม่อาจแก้ได้ร่วมกันดีไหมเจ้าคะ อ้อ นี่เป็นขนมที่ข้าทำขายอยู่ในตลาดถือเป็นของขวัญพบหน้า ถือเป็นการฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกบ้านของท่านลุงอีกคนนะเจ้าคะ”
“ข้าเหอซู่เผิงขอบคุณคุณหนูไว้ล่วงหน้าด้วยขอรับ ไม่ทราบว่าวันนี้นอกจากคุณหนูจะมาพบข้าแล้ว มีสิ่งใดที่จะให้ช่วยเหลือหรือแนะนำหรือไม่” เขารับห่อขนมไว้และถามกลับเผื่อว่านางต้องการความช่วยเหลือ
“ไม่มีอันใดเพิ่มเติมแล้วเจ้าค่ะประเดี๋ยวข้าจะแวะไปดูการก่อสร้างกำแพงเสียหน่อย หลังจากนั้นจะขึ้นไปดูบนเขาว่ามีสิ่งที่ข้าต้องการอยู่บนนั้นหรือไม่ ท่านลุงไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะข้ามีคนติดตามมาถึงสองคนย่อมปลอดภัยเจ้าค่ะ”
“หากมีอะไรที่ข้าพอจะช่วยเหลือคุณหนูได้ให้คนมาบอกที่บ้านะขอรับ ถ้าไม่เจอก็ฝากเรื่องไว้กับภรรยาหรือบุตรชายของข้าได้”
“ขอบคุณท่านลุงเจ้าค่ะเช่นนั้นพวกข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ”
“คุณหนูดูแลตัวเองด้วยขอรับ”
หลังจากพูดคุยทักทายกับหัวหน้าหมู่บ้านเป็นที่เรียบร้อย หลินหว่านจึงนั่งรถม้าเข้าไปยังที่ดินของตนเอง เพื่อดูนายช่างฮ่วนปิ่ง พร้อมคนงานมากกว่าครึ่งร้อย กำลังช่วยกันก่อกำแพงรอบที่ดินอยู่อย่างขะมักเขม้น ทุกคนล้วนทำงานตรงหน้าด้วยความตั้งใจไม่มีใครแอบอู้งานกันแม้แต่น้อย ตั้งแต่เริ่มการก่อสร้างมาสิบกว่าวันถือว่างานมีความคืบหน้าอย่างมาก นั่นหมายความว่าหากการทำงานยังคงสม่ำเสมออยู่เช่นนี้ กำแพงรอบที่ดินน่าจะแล้วเสร็จภายในหนึ่งเดือนอย่างแน่นอน และอีกหนึ่งเดือนก็ต้องเป็นบ้านของหลินหว่านที่จะสร้างเสร็จในลำดับต่อมา นายช่างฮ่วนปิ่งเห็นรถม้าของหลินหว่านมาหยุดอยู่ใกล้ ๆ บริเวณที่ตนยืนอยู่จึงเข้าไปทักทาย รวมถึงบอกกล่าวเกี่ยวกับงานที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้
“อ้าว คุณหนูโจววันนี้ใยมาถึงที่นี่ได้เล่าขอรับ มีอะไรต้องการที่ปรับเปลี่ยนเกี่ยวกับบ้านของท่านเช่นนั้นหรือ สุสานที่ท่านต้องการสร้างข้าได้แบ่งคนงานไปจัดการแล้ว คาดว่าไม่เกินยี่สิบวันน่าจะเรียบร้อย”
“ท่านลุงฮ่วนปิ่งคิดมากไปแล้วเจ้าค่ะข้าแค่แวะมาดูเท่านั้น ทุกอย่างยังคงดำเนินการตามแบบที่มอบให้ท่านไปไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเจ้าค่ะ ท่านลุงสามารถทำต่อไปได้อย่างสบายใจข้าอาจจะแวะมาดูความคืบหน้าเป็นครั้งคราว”
“คุณหนูโจวอย่าได้เกรงใจถ้าท่านมีตรงไหนที่ต้องการปรับปรุงเพิ่มละก็ ส่งคนของท่านมาบอกกล่าวกับข้าได้ทุกเมื่อนะขอรับ รับรองว่าจะทำออกมาให้ดีที่สุดขอรับ”
“ข้ารู้ว่าฝีมือของท่านลุงฮ่วนปิ่งย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้วเจ้าค่ะ ไว้โอกาสหน้าจะแวะมาพูดคุยกับท่านนะเจ้าคะพอดีมีเรื่องที่ต้องไปจัดการเล็กน้อย”
“ได้ ๆ ๆ เชิญคุณหนูโจวตามสบายขอรับ”
ยามนี้ธุระในหมู่บ้านก็จัดการเสร็จแล้ว ถึงเวลาที่หลินหว่านจะขึ้นเขาตามหาหัวมันและฟักทองเสียที เมื่อนั่งรถม้าต่อไปอีกไม่ไกลก็หยุดอยู่ตรงเชิงเขาโดยเรียกหาเสี่ยวลวี่ถามถึงสิ่งที่นางกำลังตามหา
‘เสี่ยวลวี่สหายของเจ้าว่าอย่างไรบนเขาแห่งนี้ มีสิ่งที่ข้าต้องการหรือไม่และอยู่บริเวณใดของภูเขารึ’
‘นายหญิงด้านบนของภูเขาอุดมสมบูรณ์มากเจ้าค่ะ สหายของข้าบอกว่าที่นั่นน่าจะมีสิ่งที่ท่านตามหาอยู่ เพียงแค่เดินขึ้นเขาตรงไปเรื่อย ๆ ประมาณครึ่งชั่วยามก็จะเจอพื้นที่ ที่เต็มไปด้วยพืชผักนานาพันธุ์บางทีนายหญิงอาจจะได้มากกว่าสองอย่างที่บอกกับข้าไว้ก็ได้นะเจ้าคะ’
‘อื้อ ขอบใจเจ้ามากนะเสี่ยวลวี่หากได้ของตามที่หวังไว้ รับรองว่าข้าจะทำขนมเพิ่มให้เจ้าอีกหนึ่งเท่าไปเลยดีไหม’
‘ดีสุด ๆ ไปเลยขอบคุณนายหญิงเจ้าค่ะ’