บทที่ 20 ขึ้นเขาตามหาหัวมัน 1/1
ตั้งแต่เริ่มทำกิจการขายขนมมาเกือบสิบวันถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี มีลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้นเรื่อยและยังขายหมดทุกวัน ยิ่งมีเหวินเสียนมาเป็นผู้ช่วยหลังจากได้กระทะขนมมาเพิ่มอีกสามใบ ก็มีลูกค้าสตรีแวะมาซื้อเรื่อย ๆ ถือว่าเป็นผลดีกับกิจการขนมของหลินหว่านไปในตัว เมื่อขนมครกของหลินหว่านเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น นางจึงคิดว่าต้องเพิ่มผักลงไปบนหน้าขนมครกบ้างแล้ว เพราะสีสันที่หลากหลายจะยิ่งช่วยให้ขนมน่าทาน รวมถึงเป็นจุดเด่นที่เรียกความสนใจของลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาได้เช่นกัน
ส่วนหวังซินหยางที่พยายามอย่างมากในการรักษาอาการบาดเจ็บ เขาเคร่งครัดตามคำสั่งของท่านหมอและยังมีหลินหว่าน ที่คอยกำชับเขาอยู่ทุกวันจึงทำให้เขาอยากจะหายเป็นปกติโดยเร็ว อย่างน้อยพอให้ร่างกายแข็งแรงได้ออกไปช่วยงานหลินหว่านก็ยังดี แม้เหวินเสียนจะบอกว่าไม่มีบุรุษมาเกี้ยวพานางก็เถิด แต่ก็ไม่อาจไว้วางใจได้ว่าจะไม่มีใครสนใจในตัวของหลินหว่าน ฉะนั้นหวังซินหยางจึงเชื่อฟังและดื่มยาให้ครบถึงจะรู้สึกเบื่อหน่ายอยู่บ้าง แต่เพื่อให้ตนเองสามารถเดินเหินไปด้านนอกได้ก็ต้องอดทน
ในวันนี้หลังจากขายขนมเสร็จและกลับมาถึงบ้านเช่าแล้ว หลินหว่านได้บอกกับหยุนเหลียงและเหวินเสียนไว้ ว่าหลังยามอู่นางจะไปหมู่บ้านหลูหยางเพื่อทักทายหัวหน้าหมู่บ้าน แวะดูการสร้างกำแพงรอบที่ดินของนางก่อนที่จะขึ้นเขาด้านหลัง เพราะหลินหว่านต้องการตามหาหัวมันเพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งของหน้าขนมครก
“ท่านอาหยุนเหลียงพี่ชายเหวินเสียนเจ้าคะ หลังยามอู่รบกวนพวกท่านสองคนไปหมู่บ้านหลูหยางกับข้าสักหน่อย มีเรื่องที่ต้องไปทำที่หมู่บ้านและดูว่าตอนนี้กำแพงรอบที่ดินคืบหน้าไปถึงไหนด้วยเจ้าค่ะ”
“คุณหนูพักผ่อนอยู่ที่บ้านไม่ดีกว่าหรือขอรับ หากมีเรื่องอะไรที่ข้าสามารถทำแทนได้ท่านสั่งการมาก็พอ แค่ท่านต้องตื่นแต่เช้าไปขายขนมที่ตลาดทุกวันก็เหนื่อยมากแล้วนะขอรับ” หยุนเหลียงกล่าวด้วยความเป็นห่วงเจ้านายของตน
“ท่านอาหยุนเหลียงอย่าเป็นกังวลมากจนเกินไปเลย ตอนนี้สภาพร่างกายของข้าแข็งแรงมากกว่าแต่ก่อนหลายเท่า แค่ยังดูซูบผอมอยู่เล็กน้อยเท่านั้นเองทานอาหารบำรุงอีกหน่อยก็ดีเหมือนเดิมเจ้าค่ะ”
“แล้วนอกจากจะแวะทักทายหัวหน้าหมู่บ้านและแวะดูการทำงานของนายช่างที่สร้างกำแพงรอบที่ดิน คุณหนูโจวยังมีสิ่งอื่นที่ต้องทำที่นั่นมันคืออะไรหรือขอรับ ท่านพอจะบอกข้ากับท่านน้าได้หรือไม่” เหวินเสียนยังไม่เข้าใจว่าที่นั่นยังมีอะไรให้หลินหว่านอยากไปทำ
“บอกพวกท่านสองคนตามตรงแม้ยามนี้ขนมจะขายดี แต่มันยังดูขาดสีสันที่น่าดึงดูดอยู่ที่ข้าต้องการไปที่หมู่บ้านหลูหยาง เพราะต้องการขึ้นเขาด้านหลังไปตามหาหัวมันหรือผักชนิดอื่น ๆ ที่สามารถนำมาทำเป็นหน้าขนมให้ดูงดงามน่าทานมากยิ่งขึ้นอย่างไรเล่าเจ้าคะ”
“อ้อ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เองว่าแต่เจ้าผักหรือหัวมันที่คุณหนูโจวพูดถึง หน้าตาของมันเป็นอย่างไรหรือขอรับผักที่เป็นหัวข้าไม่เคยเห็นหรือเคยกินมาก่อนนะขอรับ” เหวินเสียนทำเหมือนเข้าใจแต่ก็ยังไม่เข้าใจ
“อิ อิ พี่ชายเหวินเสียนทำหน้าตลกจังเจ้าค่ะ เอาเป็นว่าพอขึ้นเขาตามหาหัวมันเจอเมื่อไหร่ ก็จะรู้เองว่ามันมีหน้าตาเป็นเช่นไหรดีไหมเจ้าคะถ้าจะให้อธิบายคงนึกภาพไม่ออกแน่”
“แฮะ ๆ ๆ ก็จริงอย่างที่คุณหนูโจวว่าจริง ๆ ด้วยขอรับ”
"เช่นนั้นหลังยามอู่สักหนึ่งเค่อเจอกันที่หน้าประตูนะเจ้าคะ ตอนนี้พวกเราแยกย้ายกันไปผักผ่อนก่อนจะดีกว่าเจ้าค่ะ”
“ขอรับ/ขอรับ”
และก่อนที่จะไปพักเหวินเสียนได้แวะรายงานสิ่งที่ต้องไปทำหลังยามอู่ เพื่อให้เจ้านายของตนได้ทราบเอาไว้ว่าหลินหว่านจะไปทำอะไรที่ไหนต่อ หวังซินหยางจึงนึกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับหลินหว่านขึ้นมาได้
“หลังยามอู่นางจะไปที่หมู่บ้านหลูหยางเพื่อตามหาหัวมันงั้นรึ ข้าไม่เคยได้ยินชื่อผักเช่นนี้มาก่อนแล้วนางจะหาเจอได้อย่างไร เจ้ากับท่านอาหยุนเหลียงลองไปที่ตลาดแล้วใช่ไหมเหวินเสียน” หวังซินหยางก็ไม่เคยเห็นเจ้าหัวมันนี่มาก่อนเช่นกัน
“ขอรับคุณชายใหญ่แต่พวกแม่ค้าเองก็ไม่รู้จักเช่นกัน และไม่รู้ด้วยว่าหน้าตาของเจ้าหัวมันนี้มันมีลักษณะเช่นไรขอรับ แต่คุณหนูโจวบอกว่าหากพบเจอเจ้าสิ่งนี้บนเขาพวกข้าจะรู้เองว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ที่สำคัญคุณหนูโจวจะใช้เจ้าหัวมันโรยบนหน้าขนมครกด้วยขอรับ”
“อืม เอาเป็นว่าเจ้าคอยติดตามดูแลนางให้ดีก็แล้วกัน นางสั่งให้ทำอะไรก็ทำไปก่อนอย่าได้ขัดคำสั่งนางเด็ดขาด ตอนนี้เจ้ากลับไปพักก่อนเถิดในตอนบ่ายยังต้องใช้แรงอีกมาก”
“ขอรับคุณชายใหญ่”
“ซั่วเหยียนเจ้าเขียนจดหมายถึงซวี่ข่ายให้ส่งคนไปที่แคว้นเว่ย ข้าต้องการรู้ความเป็นมาของคุณหนูโจวทั้งหมด รวมถึงสาเหตุที่นางต้องระเหเร่ร่อนย้ายมาปักหลักยังแคว้นหยางแห่งนี้ ไม่ว่าใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำร้ายนางจนร่างกายซูบผอมจงสืบมาให้ครอบคุลม ในอนาคตหากนางต้องการแก้แค้นหรือเอาคืนคนเหล่านั้น ข้าค่อยลงมือจัดการเองเพราะมือของนางไม่ควรแปดเปื้อนกับเรื่องสกปรกของคนชั่ว”
“รับทราบขอรับคุณชายใหญ่”
“เจ้าเองก็ไปพักเสียบ้างเถิดหากข้าต้องการอะไรจะเรียกเจ้าเอง”
“ขอรับ”
หวังซินหยางคาดเดาเรื่องของหลินหว่านน่าจะเกี่ยวกับครอบครัว เนื่องจากเขาไม่เคยพบเห็นว่าจะมีสตรีที่หน้าตางดงาม ออกเดินทางไกลข้ามแคว้นเพื่อปักหลักเริ่มต้นชีวิตใหม่เช่นนาง เพราะการเดินทางไกลย่อมลำบากและมีความเสี่ยงอยู่มากที่จะพบเจอคนชั่วระหว่างทาง แต่ไม่ว่าปัญหาที่นางพบเจอมาจะเกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ตาม เขาจะเป็นคนขจัดปัญหาเหล่านั้นให้กับนางเอง
หลินหว่านกลับเข้าห้องพักของตนเองก็หายเข้าไปในมิติบ้านสวน เพื่อพูดคุยกับเสี่ยวลวี่ถึงสิ่งที่นางกำลังจะไปตามหาบนเขา เพราะยามนี้ยังไม่สะดวกมากนักที่จะหยิบเอาพวกผักผลไม้ออกไปจากด้านในมิติ หลินหว่านรอให้บ้านสวนในส่วนของตนเองสร้างเสร็จก่อน และนางจะบอกเรื่องนี้กับบ่าวทั้งสองให้รับรู้เอาไว้ ยามที่นางต้องหยิบต้นไม้หรือต้นกล้าผักที่ไม่มีในโลกใบนี้บางชนิดออกไปใช้ พวกเขาสองคนจะไม่ได้ตกใจหรือเกิดข้อกังขาคิดว่านางเป็นภูตผีปีศาจ
“นายหญิงขนมของท่านอร่อยมากจริง ๆ เจ้าค่ะข้ากินได้ทุกวันไม่เบื่อเลย ส่วนทุกอย่างในมิติไม่ว่าจะเป็นบ้านพักของท่านหรือแปลงผักผลไม้ เสี่ยวลวี่ดูแลให้ท่านอย่างดียามนี้มีผลไม้บางอย่างเริ่มติดผลแล้วนะเจ้าคะ”
“เสี่ยวลวี่ของข้าน่ารักที่สุดขอบใจเจ้ามากนะที่ดูแลทุกอย่างให้เป็นอย่างดี เออนี่เสี่ยวลวี่เจ้าช่วยดูบริเวณบนเขาด้านหลังที่ดินของข้าหน่อยได้ไหม ว่าพอจะมีพวกหัวมันที่กินได้หรือจะเป็นลูกฟักทองด้านในมีเนื้อสีเหลืองก็ได้ เนื่องจากมันเป็นส่วนหนึ่งของหน้าขนมที่จะเพิ่มสีสันให้น่าดึงดูดมากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มความอร่อยของขนมไปในตัวอีกด้วย” หลินหว่านอยากจะหาหัวมันหรือฟักทองให้เจอ มีเพียงต้องพึ่งความสามารถของเสี่ยวลวี่เท่านั้น