บท
ตั้งค่า

บทที่ 19 เริ่มกิจการแรกในเมืองหยางหลิว 1/3

‘นี่คงไม่ใช่อย่างที่ข้าคิดไว้หรอกนะว่าคุณชายใหญ่กำลังมีความรักน่ะ’

“สิ่งที่เจ้ากำลังคิดอยู่ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง ส่วนทางด้านแม่เลี้ยงตัวดีนั่นไว้ข้าจะกลับไปจัดการเอง”

“เอ่อ คือคุณชายใหญ่ขอรับตอนนี้หวั่นฮูหยินคิดจะให้หลานสาวของนาง แต่งเข้ามาเป็นฮูหยินของท่านและนางกำลังหาทางพูดคุยกับนายท่านอยู่ขอรับ” ซั่วเหยียนรายงานเรื่องของแม่เลี้ยงหวังซินหยางกำลังคิดจะทำให้เขาได้รับรู้

“หึ นางคิดว่าท่านพ่อของข้าจะโง่พอให้นางทำอะไรตามใจก็ได้รึ ถ้านางไม่รวมหัวกับพวกขุนนางชั่วใช้วิธีสกปรก สตรีเช่นนางไม่มีทางที่ท่านพ่อของข้าจะชายตาแลด้วยซ้ำไป รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมเสียก่อนเถิดข้าจะจัดการนางด้วยมือของข้าอะ แค่ก ๆ ๆ”

“คุณชายใหญ่!!/คุณชายใหญ่!!”

หวังซินหยางกำลังอารมณ์แปรปรวนเพราะเรื่องของแม่เลี้ยง ทำให้เขาเลือดลมติดขัดขึ้นมาเล็กน้อยแต่ด้วยเสียงที่ดังของคนสนิททั้งสอง ทำให้หลินหว่านที่ถือถ้วยยาบำรุงมาส่งให้กับหวังซินหยาง ถึงกับตกใจไปด้วยเช่นกันนางจึงรีบเดินมาเปิดประตูอย่างถือวิสาสะ เพื่อเข้ามาดูอาการของคนป่วยที่ตนเองรับผิดชอบดูแลอย่างรวดเร็ว

“ปึง!! คุณชายหวังเกิดอะไรขึ้นเหตุใดถึงได้ไอหนักเช่นนี้เจ้าคะ ท่านรีบดื่มยาบำรุงนี่ก่อนเถิดเจ้าค่ะแล้วปรับอารมณ์ของท่านด้วย”

“ข้าไม่เป็นอะ..” หวังซินหยางยังพูดไม่ทันจบก็ถูกหลินหว่านอบรมอีกครั้ง

“จะไม่เป็นอะไรได้อย่างไรกันเจ้าคะก็เห็นอยู่ว่าเป็น ท่านไอจนหน้าแดงไปหมดแล้วยังจะปฏิเสธอีกหรือเจ้าคะ หากท่านอาการกำเริบจนต้องกลับไปโรงหมออีก จะให้ตอบท่านหมอที่รักษาท่านอย่างไรดีข้าบอกให้ท่านพักผ่อนมิใช่รึ แล้วนี่กำลังคิดเรื่องหนักอกหนักใจอันใดจนมีอาการเช่นนี้ได้ ท่านปล่อยวางมันลงก่อนสักพักเถิดนะถ้าหายดีเมื่อไหร่จะไปจัดการศัตรู หรือตามล่าล้างแค้นใครก็ตามใจท่านข้าจะไม่ห้ามเด็ดขาดตกลงไหมเจ้าคะ” หลินหว่านไม่เปิดโอกาสให้หวังซินหยาง

ได้พูดจนจบประโยค แต่ตนเองพูดซะยาวเหยียดจนเหนื่อยหายใจแทบไม่ทันเสียเอง

“เอ่อ ข้าจะบอกกับคุณหนูโจวว่าไม่เป็นอะไรมากเพราะคนที่บาดเจ็บภายใน มักจะมีอาการเช่นนี้แค่ประเดี๋ยวก็หายไปถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณความห่วงใยของคุณหนูโจวด้วยเช่นกัน” หวังซินหยางมองหน้าหลินหว่านที่ดูเป็นกังวล เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของตนพร้อมอธิบายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่าปกติ

เหวินเสียนกับซั่วเหยียนหันไปมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย คล้ายพูดคุยกันผ่านทางสายตาที่เข้าใจกันแค่สองคนเท่านั้น

‘ซั่วเหยียนเจ้าเห็นและได้ยินเหมือนข้าไหม’

‘ข้าไม่ได้หูหนวกตาบอดถึงจะไม่เห็นและไม่ได้ยิน’

‘ข้าเกรงว่าสหายวัยเด็กที่คิดกับคุณชายใหญ่มากกว่าสหาย หากนางรู้เรื่องนี้เข้าคงไม่ปล่อยคุณหนูโจวไว้แน่’

‘เรื่องนั้นปล่อยให้คุณชายใหญ่เป็นคนตัดสินใจเอง เจ้ามีหน้าที่ดูแลคุณหนูโจวให้ปลอดภัยเท่านั้น’

“เอ่อ เอ๊ะ!! แล้วสองคนนี้คือใครหรือเจ้าคะเข้ามาที่ห้องของท่านตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” หลินหว่านกำลังคิดหาคำพูดแก้เก้อแต่บังเอิญหันไปเห็นคนของหวังซินหยางเสียก่อน

“ทั้งสองที่คุณหนูโจวเห็นคือคนของข้าที่เคยบอกกับท่านไว้ ว่าจะตามมาพบที่เมืองหยางหลิวแห่งนี้อย่างไรเล่า 

เหวินเสียน ซั่วเหยียนนี่คือคุณหนูโจวหลินหว่านเจ้าของบ้านเช่า และนางยังเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตข้าเอาไว้”

“คารวะคุณหนูโจวข้าเหวินเสียน/คารวะคุณหนูโจวข้าซั่วเหยียน”

“ยินดีที่ได้รู้จักพี่ชายทั้งสองนะเจ้าคะข้าโจวหลินหว่าน หรือจะเรียกตามที่พวกท่านถนัดก็ได้เช่นกันเจ้าค่ะ ในเมื่อพวกท่านสองคนมาพบคุณชายหวังแล้วข้าก็สบายใจ ยามที่ต้องออกไปขายขนมแต่เช้ามืดจะได้มีคนคอยดูแลเรื่องการต้มยาด้วย หากยังไม่มีที่พักห้องข้าง ๆ ยังว่างอยู่พวกท่านพักด้วยกันได้หรือไม่เจ้าคะ ข้าจะให้ท่านอาน่าซือจัดหาฟูกนอนหมอนและผ้าห่มมาพร้อมกันสองชุดเจ้าค่ะ” หลินหว่านคิดว่าหวังซินหยางมีคนของตนเองคอยดูแล น่าจะสะดวกในบางเรื่องที่จะรบกวนนาง

“พวกข้าขอบคุณหนูโจวมากขอรับที่ยินดีให้ที่พัก เพราะข้าสองคนเพิ่งมาถึงเมืองหยางหลิวเมื่อปลายยามเหม่านี่เองขอรับ” เหวินเสียนเริ่มคิดว่าสตรีที่เจ้านายพึงใจสวยทั้งหน้าตาและจิตใจ แต่นิสัยอาจจะต้องสังเกตไปอีกสักพัก

“เช่นนั้นไม่รอบกวนพวกท่านหารือกันจะดีกว่า อีกหนึ่งเค่อจะถึงเวลาอาหารกลางวันรบกวนพวกท่านสองคน ประคองคุณชายหวังไปที่ห้องทานอาหารด้วยนะเจ้าคะ เพราะท่านอาน่าซือทำอาหารใกล้จะเสร็จทุกอย่างแล้ว ถือว่าเป็นการต้อนรับคนของคุณชายหวังไปในตัวก็แล้วกันเจ้าค่ะ”

“รบกวนคุณหนูโจวแล้วขอรับ”

“ไว้เจอกันที่ห้องทานอาหารนะเจ้าคะข้าจะไปช่วยท่านอาน่าซือ ท่านก็อย่าลืมทำตามที่บอกด้วยล่ะถ้าอยากหายดีไว ๆ ฮึ” หลินหว่านเตือนหวังซินหยางอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องไป

“ไอหยา จากที่ข้าน้อยพิจารณาดูแล้วคุณชายใหญ่ท่านคงจะต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของคุณหนูโจว จนไม่อาจหลีกหนีนางไปที่แห่งใดได้พ้นอย่างแน่นอนขอรับ” เหวินเสียนทำทีวิเคราะห์สถานการณ์ตรงหน้าให้เจ้านายของตนฟัง

“เจ้าคงอยากรับโทษโบยมากกระมังเหวินเสียน เพราะห่างหายจากการถูกลงโทษมานานคงจะคิดถึงไม้พลองสินะ”

“มะ มะ ไม่ใช่เช่นนั้นขอรับคุณชายใหญ่ข้าน้อยแค่พูดตามที่เห็นเท่านั้น มิได้มีเจตนาจะทำให้ท่านรู้สึกขุ่นเคืองแต่อย่างใดเลยจริง ๆ นะสาบานได้ ฮื่อ ๆ ๆ”

“ช่างเถิดครั้งนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไปก่อนก็แล้วกัน นำสัมภาระไปเก็บแล้วเตรียมตัวไปห้องทานอาหาร อย่าให้คุณหนูโจวและคนติดตามของนางต้องรอนาน”

“ขอรับ/ขอรับ”

เมื่อมาถึงห้องครัวหลินหว่านได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคนติดตาม ที่มาพบหวังซินหยางยังเรือนพักแก่หยุนเหลียงกับน่าซือ เผื่อยามที่เจอหน้ากันในห้องทานอาหารจะได้ไม่ต้องสงสัย บ่าวทั้งสองอาจจะซักถามเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับพวกเขาเท่านั้น และมิคิดที่จะก้าวก่ายเรื่องของเจ้านายแต่อย่างใด ยามได้พบหน้ากันด้วยความช่างพูดของเหวินเสียน จึงทำให้หยุนเหลียงกับน่าซือรู้สึกสนุกสนานกับพวกเขาเช่นกัน ซึ่งเหวินเสียนเองได้เสนอตนเองจะไปเป็นผู้ช่วยของหลินหว่าน สำหรับการขายขนมในวันพรุ่งนี้และวันต่อ ๆ ไปอีกด้วย
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel