บทที่ 18 เริ่มกิจการแรกในเมืองหยางหลิว 1/2
“ไม่ได้ ๆ เจ้าจ่ายเงินได้รับของไปแล้วหากจะซื้อเพิ่มต้องไปต่อท้ายแถว ตอนนี้เป็นพวกข้าที่มีสิทธิ์ซื้อมากกว่าเจ้า ฮ่า ๆ ๆ แม่ค้าของข้าเอาห้ากระทงนะ”
“ข้าเอาอีกสามกระทง!!”
“ข้าก็เช่นกันเอามาอีกห้ากระทง!!”
“ได้เจ้าค่ะแต่พวกท่านต้องใจเย็น ๆ กันสักหน่อยนะเจ้าคะ กระทะขนมของข้ามีเพียงแค่สามใบเท่านั้น เอาไว้ข้าจะสั่งกระทะเพิ่มจะได้ทำขนมได้มากขึ้นเพื่อให้พวกท่านไม่ต้องรอนานนะเจ้าคะ แต่สามสี่วันนี้ต้องรบกวนพวกท่านรอสักหน่อยรับรองว่าได้ทานแน่นอนเจ้าค่ะ” หลินหว่านเห็นมีลูกค้าสนใจขนมจำนวนมาก จึงมองไปที่กระทะสามใบที่มีขนมกำลังจะสุกอยู่และคิดว่าก่อนกลับบ้านเช่า ต้องไปสั่งทำกระทะขนมครกเพิ่มเสียหน่อยแล้ว
“แม่ค้าอย่าได้กังวลพวกข้าเต็มใจรอเพราะขนมของเจ้าอร่อย หากใครรอไม่ไหวค่อยมาวันพรุ่งนี้ก็ยังได้ถูกหรือไม่”
“ใช่แล้วแม่หนูเจ้าขายขนมไปตามปกติของเจ้าเถิด ข้าคนหนึ่งที่จะรอแค่กลิ่นหอมของขนมก็ทำข้าไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ”
“ขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจการค้าของพวกข้าเจ้าค่ะ”
“คุณหนูขนมรอบที่สองสามกระทะมาแล้วเจ้าค่ะ ท่านต้องระวังมันลวกมือตนเองด้วยนะเจ้าคะ”
“เจ้าค่ะท่านอาน่าซือ”
“ขนมเพิ่งออกจากกระทะร้อน ๆ กลิ่นมันยิ่งหอมน่ากินนัก แม่หนูจัดใส่กระทงให้ลุงสักสามกระทงนะ ยายแก่ที่บ้านคงจะชอบมากเป็นแน่”
“นี่เจ้าค่ะของท่านลุงสามกระทงเก้าอีแปะ ขอให้ท่านป้าสุขภาพแข็งแรงทานขนมให้อร่อยนะเจ้าคะ”
“แม่ค้าของข้าห้ากระทงนะ”
“ข้าเองก็ขอห้ากระทงเหมือนกัน”
เช้าวันแรกของการขายขนมครกช่างเป็นสิ่งที่ทำหลินหว่านมีความสุขเสียจริง เพราะลูกค้าต่างก็ชื่นชอบขนมครกที่รสชาติครบครันทานง่ายและอร่อย แป้งขนมที่เตรียมมาหนึ่งหม้อใหญ่หมดเกลี้ยงไม่เหลือสักหยด ลูกค้าเกือบทุกคนต่างบอกกับนางว่าพรุ่งนี้จะมารอซื้อขนมครกอีก ฉะนั้นระหว่างทางกลับบ้านเช่าหลินหว่านจึงให้หยุนเหลียงแวะร้านตีเหล็ก เพื่อสั่งทำกระทะขนมครกเพิ่มอีกสามใบส่วนเตาสำหรับวางกระทะขนม สามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องปั้นดินเผาทั่วไป
หลินหว่านกลับมาถึงบ้านเช่าในต้นยามเฉิน น่าซือเห็นว่าเจ้านายของตนดูเมื่อยขาอยู่ไม่น้อย เพราะต้องยืนขายขนมเป็นเวลานานจึงไล่ให้นางไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อน แล้วตัวของน่าซือจะนำน้ำอุ่นไปให้หลินหว่านได้แช่เท้า เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าทั้งกำชับกับหลินหว่านให้งีบหลับอีกสักเล็กน้อย เพราะร่างกายของหลินหว่านถือว่ายังไม่กลับมาแข็งแรงเท่าที่ควร หากปล่อยให้ทำงานหนักมากเกินไปอาจกลับมาล้มป่วยได้
ด้านหวังซินหยางที่ได้ยินเสียงพูดคุยของหลินหว่าน ก็รู้สึกโล่งใจที่นางยังคงสดใสร่าเริงเป็นปกติเช่นเดิม จากที่ได้ยินเขาก็พอจะคาดเดาได้ว่ากิจการขายขนมของนาง คงจะเป็นไปในทิศทางที่ดีมากอย่างแน่นอน แต่เขาก็ยังตั้งตารอหลินหว่านเล่าเรื่องราวของเช้าวันนี้ให้ตนได้ฟัง ขณะที่คนอื่น ๆ กำลังพักผ่อนจากการขายขนมในตอนเช้าอยู่นั้น เหวินเสียนกับซั่วเหยียนก็ตามหาบ้านเช่าของหลินหว่านเจอ และแอบเข้ามาพบเจ้านายของตนอย่างเงียบ ๆ
“คารวะคุณชายใหญ่ขอรับ/คารวะคุณชายใหญ่ขอรับ”
“อืม เรื่องที่ข้าให้พวกเจ้าสองคนไปจัดการเป็นอย่างไรบ้าง หยางอ๋องได้รับข่าวที่ข้าส่งไปให้แล้วใช่หรือไม่”
“เรียนคุณชายใหญ่ข้ากับซั่วเหยียนทำตามที่ท่านสั่ง ทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านได้คาดการณ์เอาไว้ทุกประการขอรับ ตอนนี้หยางอ๋องได้เตรียมแผนรับมือการถูกใส่ร้ายไว้เรียบร้อยขอรับ” เหวินเสียนรายงานผลที่ตนกับสหายต้องกลับไปทำตามคำสั่งของหวังซินหยาง
“แต่เพราะพวกข้าสองคนไม่อยู่ทำให้คุณชายใหญ่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้โปรดสั่งลงโทษพวกข้าสองคนที่ไม่อาจปกป้องท่านได้ด้วยเถิดขอรับ” ซั่วเหยียนรู้สึกละอายใจที่เขาเองก็ต้องไปพบหยางอ๋อง เพื่อส่งข่าวที่เจ้านายของตนได้รับมาจากเมืองหลวง สำหรับเตือนให้หยางอ๋องวางแผนรับมือขุนนางชั่ว
“ลุกขึ้นเถิดพวกเจ้าอย่าได้โทษตัวเองนักเลย เพราะคำสั่งของข้าพวกเจ้าจำเป็นต้องปฏิบัติตาม ถึงข้าจะมีวรยุทธ์เก่งกาจแค่ไหนแต่ในเมื่อศัตรูมีจำนวนมาก ก็ไม่สามารถรับมือพวกมันได้ทั้งหมดนับว่ายังโชคดีที่มีคนช่วยชีวิตไว้ได้ทัน”
“ใช่เจ้าของบ้านเช่าหลังนี้หรือไม่ขอรับที่พาคุณชายใหญ่มารักษาที่โรงหมอ พวกเขาช่างมีจิตใจที่ดีจริง ๆ และยังแบ่งห้องให้ท่านได้พักรักษาตัวที่นี่ด้วยนะขอรับ” เหวินเสียนค่อยโล่งอกที่เห็นว่าเจ้านายปลอดภัย แม้จะบาดเจ็บทั้งภายในและภายนอกก็ตาม
“พวกเจ้าคิดว่าท่านพ่อจะจัดการพวกที่ชอบยื่นมือยุ่งเรื่องของคนอื่นได้หรือไม่ ไหนจะพวกนางสนมของฮ่องเต้ที่แอบซ่อนความร้ายกาจพวกนั้นอีก รัชทายาทเองยังต้องระวังตัวทุกย่างก้าวไว้ใจใครไม่ได้”
“ข้าน้อยคิดว่านายท่านต้องมีวิธีจัดการอยู่แล้วขอรับ ไหนจะข้อมูลที่คุณชายใหญ่ส่งให้กับนายท่านเกี่ยวหลักฐานการกระทำผิด หากซวี่ข่ายสามารถหาหลักฐานพวกนั้นเจอคนชั่วย่อมไม่มีทางรอดขอรับ” ซั่วเหยียนเชื่อมั่นในฝีมือการวางแผนของท่านราชครู ผู้เป็นบิดาของเจ้านายของตนทั้งเป็นพระอาจารย์ของรัชทายาท
“คงเป็นเช่นที่เจ้าว่ามาเอาเป็นว่ารอฟังข่าวจากท่านพ่ออีกทีก็แล้วกัน วันนี้พวกเจ้าก็รอพบกับคุณหนูโจวเสียก่อนเพราะข้าเคยบอกกับนางไปแล้ว ว่าพวกเจ้าจะมาตามหาที่เมืองหยางหลิวเร็ว ๆ นี้ ข้าจะได้แนะนำให้รู้จักกันเอาไว้บางทีเจ้าอาจจะต้องอยู่ที่นี่นะเหวินเสียน”
“ห๋า! เหตุใดข้าต้องอยู่ที่เมืองหยางหลิวด้วยขอรับคุณชายใหญ่ หรือว่าท่านมีปัญหาอันใดเพิ่มเติมที่ต้องจัดการอยู่ที่นี่ต่อใช่หรือไม่ขอรับ” เหวินเสียนยังไม่เข้าใจว่าทำไมตนถึงได้อยู่ที่นี่ต่อ
“ไม่ได้มีปัญหาอะไรที่ต้องให้เจ้าไปจัดการแต่อย่างใด สิ่งที่จะให้เจ้าทำคือการอยู่ดูแลความปลอดภัยให้คุณหนูโจว หากมีใครกล้ามารังแกนางเจ้าลงมือจัดการได้เลย ถ้าเป็นพวกขุนนางที่คิดจะหาประโยชน์จากนางรีบส่งข่าวบอกข้า เรื่องขุนนางในท้องที่ข้าจะให้หยางอ๋องช่วยจัดการเองเข้าใจหรือไม่เหวินเสียน” หวังซินหยางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างมาก คนสนิททั้งสองไม่เคยเห็นท่าทีเช่นนี้จากเจ้านายมาก่อน
“ขอรับคุณชายใหญ่ข้าน้อยจะดูแลคุณหนูโจวไม่ให้ใครมารังแกได้อย่างแน่นอน” เหวินเสียนรับคำสั่งอย่างหนักแน่นแต่ในใจก็อดคิดไม่ได้