บทที่ 16 สั่งทำอุปกรณ์และทดลองทำขนม 1/3
“เจ้าค่ะ เช่นนั้นยามเซินรบกวนท่านอานำเงินมัดจำสองร้อยห้าสิบตำลึงทอง รวมกับหนังสือสัญญาว่าจ้างไปมอบให้กับท่านลุงฮ่วนปิ่งด้วย และไปยังที่ดินอีกครั้งดูว่าที่เชิงเขามีต้นเซียงเจียวหรือไม่ ถ้ามีท่านอาช่วยตัดเอาเฉพาะใบของมันมาให้ข้าด้วยนะเจ้าคะ เพราะจะนำมาทำที่ใส่ขนมสำหรับทำขายในวันมะรืน จากนั้นเลยไปที่โรงหมอรับคุณชายหวังกลับมาพักฟื้นที่นี่ ข้ากับท่านอาน่าซือเตรียมห้องไว้สำหรับเขาเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”
“ขอรับคุณหนู”
หยุนเหลียงรับเงินและสัญญาการจ้างงานจากหลินหว่าน และเขาออกไปในยามเซินแวะที่บ้านของฮ่วนปิ่งก่อน และไปตามหาต้นเซียงเจียวตามที่หลินหว่านได้บอกและให้รูปวาดมากับเขา เมื่อพบว่ามีอยู่บริเวณเชิงเขาจริง ๆ จึงได้ตัดกลับไปจำนวนมาก จากนั้นจึงไปรับหวังซินหยางที่โรงหมอกลับมาที่บ้านเช่า เมื่อกลับมาถึงก็ใกล้เวลาอาหารเย็นพอดี
และหลินหว่านได้แยกอาหารของหวังซินหยางไว้ เพราะเขายังต้องทานอาหารอ่อนไปสักระยะ จนกว่าอาการบาดเจ็บภายในจะดีขึ้นกว่านี้ค่อยให้ทานอาหารปกติได้ หวังซินหยางไม่คิดว่าหลินหว่านจะเตรียมห้องไว้ให้อย่างดี รวมถึงคนติดตามทั้งสองก็ดีกับเขามากพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ไม่มีท่าทางอยากรู้อยากเห็นเช่นคนอื่น ๆ ที่เขาเคยพบเจอมา ยิ่งได้มาอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกับทั้งสามคน หวังซินหยางยิ่งรู้สึกดีกับพวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะหลินหว่านที่ชอบทำให้หัวใจของหวังซินหยางเต้นผิดปกติอยู่บ่อยครั้ง
หลินหว่านและบ่าวทั้งสองเข้ามาอยู่ที่บ้านเช่าได้สามวันแล้ว ในที่สุดก็ได้เวลาไปรับอุปกรณ์ที่สั่งทำไว้กับร้านตีเหล็ก แต่หยุนเหลียงอาสาไปรับมาให้นางเองเพื่อที่หลินหว่านจะได้เตรียมวัตถุดิบ สำหรับทดลองทำขนมก่อนจะไปเปิดแผงขายที่ตลาดในยามเช้าของวันต่อไป
เมื่อได้อุปกรณ์ที่สั่งทำไว้หลินหว่านถึงกับยกย่องฝีมือของช่างตีเหล็กจริง ๆ ส่วนวัตถุดิบสำหรับทำขนมหลินหว่านเตรียมไว้พร้อมแล้ว แน่นอนว่าขนมที่หลินหว่านคิดจะทำขายนั้นก็คือขนมครก ซึ่งเป็นขนมของโปรดที่กินได้ทุกวันไม่มีเบื่อ จนแม่ค้าเห็นหน้าก็หยิบใส่กล่องให้ทันที ด้านน่าซือได้ติดเตาถ่านด้วยไฟร้อนปานกลางแล้ว และนำกระทะขนมวางลงบนเตาใช้ผ้าทำเป็นก้อนกลม ๆ ชุบน้ำมัน ทาลงในหลุมของกระทะก่อนจะหยอดแป้งลงไปเขย่ากระทะเล็กน้อย ตามด้วยหน้าขนมอีกครั้งปิดฝารอให้แป้งสุกเสียก่อน ถึงจะตักออกมาทานได้สำหรับวันนี้ยังไม่มีผักโรยหน้าขนม เอาไว้ค่อยหาดูผักต่าง ๆ ที่ตลาดทีหลังก็แล้วกัน
“ฉ่า!!”
“ฟืดดด คุณหนูเจ้าคะกลิ่นขนมนี้หอมมากเลยเจ้าค่ะ บ่าวอดใจที่จะชิมไม่ได้แล้วสิเจ้าคะมันต้องอร่อยมากเป็นแน่” น่าซือที่ได้กลิ่นแป้งของขนมครกก็อยากจะลองชิมขึ้นมาแล้ว
“คุณหนูโจวช่างมีฝีมือด้านการทำอาหารและขนมจริง ๆ หากท่านเปิดแผงขายที่ตลาดในวันพรุ่งนี้คงขายดี เพราะแม้แต่ตัวข้าเองก็ยังไม่เคยเห็นขนมชนิดนี้มาก่อน น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถไปช่วยงานท่านได้ในตอนนี้ ต้องขอโทษคุณหนูโจวและท่านน้าทั้งสองด้วย” หวังซินหยางที่ได้กลิ่นหอมของขนมครกก็คิดเช่นเดียวกับน่าซือ แต่เขายังขยับตัวมากไม่ได้จึงไม่อาจตามไปช่วยขายขนมได้
“ขอบคุณคุณชายหวังที่ชมเจ้าค่ะเรื่องช่วยงานท่านอย่าเพิ่งคิดเลย ท่านต้องคำนึงถึงตนเองให้มากพักรักษาตัวให้ดี ถือเสียว่าช่วยอยู่ดูแลบ้านเช่าให้ข้าก็แล้วกันนะเจ้าคะ ส่วนอาหารเช้าและยาของท่านจะให้ท่านอาน่าซือเตรียมไว้ พวกเราน่าจะกลับมาก่อนยามซื่อแล้วจะกลับมาเล่าให้ท่านฟัง ว่าขนมที่ทำขายจะขายดีอย่างที่ท่านพูดหรือไม่นะเจ้าคะ”
“อืม ข้าจะรอฟัง”
“อื้ม ท่านอาน่าซือช่วยกันตักขึ้นมาวางบนจานเถิดเจ้าค่ะ ขนมสุกได้ที่แล้วส่วนท่านอาหยุนเหลียงช่วยพัดไล่ความร้อนนะเจ้าคะ หากกินทั้งที่ยังร้อน ๆ อาจจะลวกปากทำให้ทานข้าวไม่อร่อยได้เจ้าค่ะ”
“ขอรับ/เจ้าค่ะ”
ทั้งสามคนช่วยกันคนละไม้คนละมือกับการตักขนมครก และพัดไล่ความร้อนส่วนคนป่วยอย่างหวังซินหยาง ก็เอาแต่นั่งมองความสดใสของหญิงสาวที่มีผลกับหัวใจของเขา จนเผลอยิ้มน้อย ๆ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว จนกระทั่งจานขนมขนาดเล็กที่ส่งกลิ่นหอมมาอยู่ตรงหน้า จึงได้สติกลับคืนมาพร้อมกับหยุดรอยยิ้มลงเช่นกัน
“นี่ขนมของท่านเจ้าค่ะช่วยชิมให้ข้าหน่อยสิ ว่ารสชาติเป็นอย่างไรก่อนที่จะนำมันไปทำขายในวันพรุ่งนี้เป็นวันแรก” หลินหว่านยื่นจานขนมมาให้กับหวังซินหยางและทันเห็นรอยยิ้มอบอุ่นนั่น
“ขอบคุณคุณหนูโจว”
“เวลาท่านยิ้มแบบนี้ข้าคิดว่าท่านดูดีมากเจ้าค่ะ” ก่อนจะกลับไปนั่งชิมขนมหลินหว่านไม่ลืมหยอดคำชื่นชมให้หวังซินหยางไปหนึ่งที
คนที่ถูกหญิงสาวหยอกเย้าด้วยคำพูดชื่นชมตนเอง ถึงกับพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะจนต้องหยิบขนมขึ้นมาชิมแก้อาหารขัดเขิน หลินหว่านแอบอมยิ้มเมื่อหันหลังกลับไปแล้ว ไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าบุรุษหน้าตาหล่อเหลาแต่ยิ้มยากผู้นี้ จะไม่หวั่นไหวกับคำพูดของนางที่จะเดินหน้าเกี้ยวพาบุรุษก่อน โลกโบราณที่มีขนบธรรมเนียมเคร่งครัดแล้วอย่างไร นั่นไม่สามารถใช้ได้กับคนอย่างหลินหว่านแน่นอน และนางไม่ลืมที่จะแบ่งขนมครกให้กับเสี่ยวลวี่ ที่ร่ำร้องอยากทานด้วยอยู่ในมิติบ้านสวนของตน
ผลของการทดลองทำขนมครกในวันนี้เป็นที่น่าพอใจ รสชาติหวานมันเค็มกำลังดีสามารถทานกับน้ำชาได้ คงต้องทดลองตลาดกันเสียหน่อยแล้วว่าจะเป็นไปในทิศทางตามที่ได้คิดไว้หรือไม่ หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จทั้งสี่คนจึงช่วยกันทำกระทงจากใบเซียงเจียว สำหรับใส่ขนมครกที่จะเริ่มขายเป็นกิจการแรกในวันพรุ่งนี้ หวังซินหยางดีใจมากอย่างน้อยเขายังได้ช่วยงานหลินหว่าน แม้จะเป็นงานที่ไม่หนักหนามากนักก็ตามที รอให้เขาอาการดีขึ้นกว่านี้เมื่อไหร่จะไม่ให้นางต้องลงมือให้เหนื่อยเช่นนี้อย่างแน่นอน
“ข้าเอาอีกสามกระทง!!”
“ข้าก็เช่นกันเอามาอีกห้ากระทง!!”