ตอนที่ 4 รองแม่ทัพ
เคร้งๆๆๆ
“.ฆ่ามัน! ” เสียงตะโกนก้องของใครครหนึ่งดังขึ้น
ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ลืมขึ้น ก่อนจะเบิกตากว้างตกใจกับภาพนองเลือดตรงหน้าและภาพชายหนุ่มในชุดเกราะจำนวนมาก ต่างวิ่งเข้าฆ่ารันฟันแทงกันอย่างดุเดือด บนพื้นนั้นเต็มไปด้วยคนเจ็บและคนตาย และแน่นอนว่าตอนนี้เธอก็กำลังนอนทับร่างไร้ลมหายใจอยู่
“กรี๊ด! อีแม่ช่วยลูกด้วย!” เธอกรีดร้องเสียงหลง วิ่งผ่านคมหอกคมดาบไปอย่างไม่รู้ทิศทาง ด้วยความกลัวสุดหัวใจ
อีตาเฒ่าเจ้าเล่ห์หลอกเธอใช่ไหม?! ไหนบอกว่าจะให้เธออยู่ดีกินดี แต่นี่กลับส่งเธอมาอยู่ในสนามรบ! ใช่...ที่นี่น่าจะเป็นสนามรบ
“คุ้มกันท่านรองแม่ทัพ!” ชายในชุดเกราะที่นั่งอยู่บนหลังม้าตะโกนไล่ตามหลังเธอ ก่อนจะตามมาด้วยทหารหลายนายที่วิ่งเข้ามาหาเธอ
“อย่านะ อย่าเข้ามา ฉันกลัวแล้ว!” เธอตะโกนลั่น ใส่เกียร์หมาวิ่งหนีตายอย่างสุดชีวิต แต่ชุดเจ้ากรรมที่สวมอยู่กลับหนักอึ้ง
เธอมองตัวเองในชุดเกราะไม่ต่างจากคนอื่น มันหนักมากถึงมากที่สุด
วิ่งให้ตายก็ได้แต่คลานเหมือนเต่า
“ตุ๊บ!” ร่างบางล้มก้นกระแทก เมื่อวิ่งเข้าชนกับม้าตัวใหญ่
ดวงหน้าสวยค่อย ๆ เงยขึ้นมองคนที่อยู่บนหลังม้า ก่อนจะเบิกตากว้าง เมื่อสบเข้ากับชายหนุ่มรูปร่างกำยำในชุดเกราะสีทอง
oh my god! นี่มันพ่อของลูกชัดๆ! เธอตะโกนก้องในใจ
เธอมองชายหนุ่มรูปงามตาหวานเยิ้ม เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอคนหล่อ ขั้นเทพของจริง ดวงตาต่างสีของเขานั้นช่างดึงดูด
อ้ายโต้งหนุ่มหล่อบ้านโคกสูงเนินนั้น หล่อไม่ได้ครึ่งของขี้เล็บผู้ชายคนนี้เลย!
“ฆ่ามัน!” ชายหนุ่มตะโกนก้อง มองเธอด้วยแววตาเรียบนิ่งเต็มไปด้วยแววสังหาร พร้อมกับยกดาบในมือขึ้น แล้วทำท่าเหมือนจะฟาดมาทางเธอ
“กรี๊ด!”
เธอกรีดร้องเสียงหลง ภาพของหนุ่มหล่อเริ่มเลือนราง ก่อนที่ทุกอย่างจะดับไป
“ฉึก!”
กระบี่ในมือของชินอ๋องเฉิงหยางเล่อฟันเข้าที่คอของศัตรูที่อยู่ข้างหลังนางอย่างเลือดเย็น ก่อนจะก้มลงมองบุตรสาวของแม่ทัพหลิน ผู้ถูกองค์ฮ่องเต้แต่งตั้งเข้ารับตำแหน่งเป็นรองแม่ทัพหญิงคนแรกของแคว้น แทนพี่ชายที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกลอบสังหารก่อนออกเดินทาง
“หึ! นี่น่ะหรือ คือผู้ที่ถูกกล่าวขานว่ายอดหญิงผู้เก่งกาจ”
ชินอ๋องเฉิงหยางเล่อยิ้มเยาะ คำร่ำลือที่ว่านางนั้นเก่งกาจรอบด้านคงจะเป็นแค่ข่าวลือสินะ แค่เห็นเขายกดาบขึ้น นางก็ถึงกับเป็นลม ดูแล้วคงไม่ต่างอะไรกับหญิงสาวธรรมดาไร้ค่า หากองค์ฮ่องเต้รู้เรื่องนี้ ตระกูลหลินของแม่ทัพใหญ่คงไม่เหลือชื่อแน่ที่ทูลความเท็จ ร่ายคุณงามความเก่งของบุตรสาว เพียงเพื่ออยากครอบครองตำแหน่งรองแม่ทัพไว้ที่ตระกูลของตัวเอง โดยไม่คิดถึงว่าจะออกมาทำศึกได้หรือไม่
“เพ่ยซาน พาตัวนางออกไป”
ชินอ๋องหันไปสั่งองครักษ์คนสนิทเสร็จ มือหนาก็จับสายบังเหียนแน่น ก่อนจะทะยานเข้าหาศัตรูที่อยู่ตรงหน้า
ศึกสงครามของแคว้นต้าเหลียงกับแคว้นหวง ยืดเยื้อมานานหกเดือนแล้ว เหล่าทหารต่างบาดเจ็บล้มตาย เสบียงอาหารก็เริ่มร่อยหรอ จนเขาต้องนำทัพนำเสบียงอาหารมาสมทบ และที่เป็นเช่นนี้ คงไม่พ้นการนำทัพของคนไม่ได้เรื่องของรองแม่ทัพหญิงคนนี้แน่
..............
ร่างบางนอนกระสับกระส่ายด้วยอาการปวดหัวรุนแรง ภาพเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งไหลย้อนเข้ามาในหัว จากอดีตจนถึงปัจจุบัน เหมือนชายชราต้องการให้เธอรู้ว่าเจ้าของร่างเป็นใคร
แต่ในทุกเรื่องราวกลับมีแต่ภาพครอบครัวของนาง นอกจากนั้นไม่เห็นอะไรนอกจากภาพสีดำวิ่งทับซ้อนกันไปมา
ผู้หญิงที่ชื่อหลินฟางซี มีบิดาผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ของแคว้นต้าเหลียง ถึงจะดูดุดัน น่าเกรงขาม แต่กลับมีแต่ความอ่อนโยนให้กับครอบครัว ส่วนมารดานั้นก็อ่อนโยนอ่อนหวาน พี่ชายที่เป็นรองแม่ทัพก็อบอุ่นมีแต่รอยยิ้มประดับใบหน้า แต่หญิงสาวแสนงามกลับมีหัวใจที่เย็นชาไร้ความรู้สึก แตกต่างจากคนในครอบครัวโดยสิ้นเชิง
‘ออกไปจากร่างของข้า! เดี๋ยวนี้’ นางตะโกนก้องบอกเธอในหัว
“โอ๊ยปวดหัว ข้าไปไม่ได้!” มาลีร้องบอกเจ้าของร่าง ถึงอยากจะคืนร่างให้เจ้าของแต่เธอก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
‘ออกไป! นังผีร้าย ข้าบอกให้เจ้าออกไป! เดี๋ยวนี้’ หลินฟางซีตะโกนอยู่ในหัวของมาลี
“โอ๊ย! ข้าปวดหัว พอแล้วๆ อย่าตะโกนแบบนี้เลย” มาลียกมือขึ้นกุมขมับของตัวเอง และร้องบอกคนที่ตะโกนอยู่ในหัวเธอ
“นางเป็นอะไร”
ชินอ๋องยืนกอดอกถามหมอหลวง เขามองหญิงสาวที่นอนกุมขมับดิ้นทุรนทุรายอยู่บนเตียงด้วยรอยยิ้มเย็น ผู้หญิงไร้ค่าแบบนางหากไม่ใช่เพราะเป็นบุตรสาวของแม่ทัพใหญ่ ที่ตอนนี้กำลังนำทัพสู้รบอยู่หน้าด่านกับพวกศัตรู เขาคงได้บั่นคอนางไปนานแล้ว ไม่เสียเวลาให้หมอมาตรวจเช่นนี้หรอก
“ทูลชินอ๋อง กระหม่อมไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ แต่ชีพจรของนางปั่นป่วนมาก หากปล่อยไว้แบบนี้ ชีพจรของนางอาจแตกซ่านได้และนางอาจจะไม่รอด”
คิ้วหนาขมวดเล็กน้อย เดินเข้าไปจับชีพจรของนาง
ลมปราณที่แน่นหนานั้นบ่งบอกว่านางมีวิทยายุทธที่แข็งแกร่ง และอาจจะแข็งแกร่งถึงขนาดเทียบเท่าเขาที่เป็นศิษย์เอกสำนักมังกรทมิฬก็เป็นได้
นี่เขามองนางผิดไปหรอกหรือ
“หึ! สมคำร่ำลือจริงๆ”