บทที่ 6
เมื่อเห็นเจ้าของห้องคนสวยยังเงียบผิดปกติวิสัย..ดวงตาคมกริบกลับไล่สายตาสำรวจหน้านวลใส...ลงไปยังชุดเดรสสีขาวสุดแสนเซ็กซี่ตัวเก่าที่ตอนนี้มีรอยยับย่น..สายตาของเขา..พานให้หญิงสาวผู้แทบไม่ค่อยออกจากบ้าน..หน้าร้อนเห่อ เต็มไปด้วยความกระดากอาย
“แล้วนี่อีก..ตงให้อ้ายไปอาบน้ำ ทำไมยังไม่ไปอีก”
คำพร่ำบ่นด้วยความเป็นห่วงเป็นใยของคนตรงหน้า หรือว่าชายหนุ่มจะเป็นแฟนของร่างเดิม? ปากไวเท่าความคิด..น้ำเสียงหวานใสที่ชายหนุ่มไม่ได้ยินก็ดังออกมา และแทนที่จะตอบคำถาม กับกลายเป็นคนตั้งคำถามเสียอย่างงั้น
“เอ่อ...ว่าแต่เราสองคนเป็นแฟนกันเหรอ?”
“มะเหงกนี่ เพ้อเจ้ออะไรของเธอ” ไอ้แขกไม่ได้รับเชิญไม่พูดเปล่ายังเขกกะโหลกน้อยๆ ไปหนึ่งที เล่นเอาคุณหนูตัวปลอมกุมศีรษะด้วยความเจ็บ..ปากเล็กได้รูปถึงกับบึนขึ้น...ยังคงเถียงด้วยความไม่เข้าใจ ถ้าไม่ใช่แฟนกันทำไมเขาถึงต้องมาวุ่นวายกับเธอด้วยล่ะ!
“แล้ว..ทำไมคุณต้องมาอยู่ห้องฉัน”
“ถ้าเราไม่มาอยู่เป็นเพื่อน เดี๋ยวเธอก็ทำอะไรบ้าๆ อีกอ่ะดิ นี่ดีนะรอบนี้เราแวะมาหาเธอที่ห้อง ไม่งั้นจะมีคนรู้มั้ยว่าเธอป่วย!”
“คุณพาฉันไปส่งโรงพยาบาล?”
"ถ้าไม่ใช่ตง แล้วใครจะพาอ้ายไป..ถามแปลกๆ อีกล่ะ"
"..."
“เอาเถอะ เลิกพูดมาก แล้วนี่ก็รีบกินซะ เดี๋ยวคืนนี้จะนอนเป็นเพื่อนจะได้หายงอนเราสักที” คำพูดของไอ้ผู้ชายหน้าหล่อ ส่งผลให้คนตัวเล็กกว่าถึงกับเบิกตากว้าง
"นอนที่นี่?"
"อือ คราวก่อนขอโทษทีที่มาอยู่เป็นเพื่อนไม่ได้"
"คุณ.."
"วันนี้เธอเป็นอะไรของเธอ หึ ทำไมพูดเพราะ?"น้ำเสียงบูรพาเต็มไปด้วยความสงสัย อีกทั้งมือหนาใหญ่ยังหันมาประคองแก้มนวลใส ให้หันมาประจันหน้า..ดวงตาคมกริบสีอ่อนของคนตัวโตหรี่มอง
ในขณะที่ดวงตาหวานซึ้งสีน้ำตาลอ่อนใสกระจ่างเต็มไปด้วยความตกใจ ช่างผิดแผกจากดวงตาร้าวราน ปนกร้านโลกอย่างที่แล้วมา
"เอ่อ...คุณ..ไม่ใช่ซิ นายช่วยปล่อยแก้มฉันก่อนได้มั้ย"เสียงหวานกระซิบขอร้อง ซึ่งถ้าเป็นในยามปกติ ยัยเพื่อนรักต้องมีด่าขึ้นสรรพนามพ่อขุนรามไปแล้ว!
"เฮ้ย อ้ายเธอผีเข้าหรือเปล่าวะเนี่ย!"
คนถูกหาว่าเป็นผี และเป็นผีตัวจริงถึงกับสะดุ้งโหยง รีบส่ายศีรษะเป็นพัลวัน
"บะ..บ้าเหรอ ใครผีเข้า คุณนั่นแหละผีเข้า!!"
"คุณอีกล่ะ เราว่านะอ้าย เมื่อวันก่อนที่ไข้ขึ้นสูง..มันทำให้สมองเธอเพี้ยน ใกล้ปัญญาอ่อนละป่ะ เราว่านะ...เธอควรแอดมิทอีกรอบให้หมอสแกนสมองดีมั้ย เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยทัน"ไม่พูดเปล่า คนตัวโตยังมีหน้ามาจับศีรษะเจ้าของห้องพลิกไปพลิกมาราวกับสมองมีปัญหาตามปากว่าซะอย่างงั้น
เล่นเอาคุณหนูตัวปลอมชักโกรธ...ปากเล็กได้รูปเริ่มสั่น..หลอกด่าขนาดนี้ไม่ตบเธอไปเลยล่ะ!!
แต่ก่อนที่ปาริชาตจะทันได้พูดอะไร ไอ้ผู้ชายตัวโตรีบปล่อยมือเหมือนคนรู้แกว
“ไม่ต้องมองเราขนาดนั้น เรารู้ตัวว่าเราหล่อ” ไอ้ผู้ชายหน้าหล่อเลิกคิ้วข้างเดียวให้ ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวจิกไปที่ช้อนข้าวต้มราวกับบังคับทางอ้อมให้หล่อนต้องจ้วงข้าวเข้าปาก..เจ้าของห้องได้แต่ทำเสียงฮึดฮัด ไม่กล้าอาละวาดมากนัก เพราะกลัวโบ๊ะแตก
บรรยากาศภายในห้องจึงดูประหลาดไม่น้อย..ทว่ากลับน่าแปลก..กายหยาบของหญิงสาวราวกับคุ้นชินผู้ชายข้างตัวไม่น้อย..ความรู้สึกอบอุ่นบางอย่างวาบขึ้นกลางใจ
"ดื้อ"เสียงทุ้มต่ำลอยขึ้นมา ส่งผลให้คนตัวเล็กที่กินข้าวได้เกือบครึ่งชามเงยหน้าขึ้น
"คุณว่าใคร?"
"ก็อยู่กันแค่สองคน..เราว่าตัวเองมั้ง?"น้ำเสียงยียวนของไอ้แขกไม่ได้รับเชิญน่าโดนฟาดสักทีสองที ริมฝีปากบางสวยเม้มแน่น
ท่าทีอันสงบไม่ด่าพ่อล่อแม่เขาเหมือนทุกที..มันก็ชวนให้บูรพาประหลาดใจไม่น้อย หรือตีความได้อีกอย่าง..เจ้าหล่อนคงยังงอนเขาอยู่เป็นแน่..เดือนวิศวะจอมห่ามยังยั่วแหย่ต่อไม่หยุด..เรื่องของเรื่องอยากให้สาวเจ้าด่าสักคำสองคำ..ให้เขารู้ว่าเจ้าหล่อนอยู่ในภาวะ 'ปกติ'
"นี้"
"..."
"เด็กดื้อ"
"เราไม่ใช่เด็ก..แล้วเราก็ไม่ได้ดื้อด้วย"เสียงของคุณหนูสามตัวปลอมชักจะหงุดหงิด..ผู้ชายที่หล่อนสนิทที่สุดก็ไม่เห็นจะเกรียนกวนแบบนี้เลย
"เออๆ ไม่เด็กก็ไม่เด็ก..กินเสร็จละใช่ปะ"เขาพูดพร้อมกับเก็บกวาดชามไว้บนถาดเป็นที่เรียบร้อย
กว่าที่เอื้อมนางจะรู้ตัว..ร่างสูงใหญ่ก็จ้ำอ้าวไปที่ประตู พร้อมส่งรอยยิ้มทะเล้นยักคิ้วหลิ่วตา และส่งคำพูดสำทับมาอีกรอบ
"รีบอาบน้ำได้แล้ว บอกไว้ก่อนนะ ถ้าตัวเหม็นเราจะไม่นอนด้วยน้า"
ใครกันจะอยากให้นอนด้วย พิลึกคนชะมัด
แต่ถึงแม้ในใจจะบ่นอุบ ทว่าความเป็นจริงแล้วกับต้องจำยอมให้นายตงอะไรเนี่ยมานอนร่วมเตียงด้วย เพราะเรื่องของเรื่องหล่อนยังไม่อยากโบ๊ะแตกว่าไม่ใช่วิญญาณตัวจริง อีกทั้งยังต้องควานหาความปรารถนาที่แท้จริงของปาริชาตคนเดิม และทำมันให้สำเร็จด้วย..ซึ่งไม่แน่ว่าไอ้ผู้ชายหน้าหล่อที่ทำตัวห่ามๆ อาจมีเบาะแสสำคัญบางอย่าง
ขณะเดียวกันหล่อนยังมีภารกิจแก้แค้นตระกูลเดิม ซึ่งตอนนี้หนทางยังคงมืดแปดด้าน พานให้หัวสมองน้อยๆ แทบระเบิดด้วยความเครียด
ดังนั้นหลังจากอาบน้ำ และพยายามคุ้ยหาชุดนอนที่ดูเรียบร้อยที่สุดๆ ออกจากตู้ ซึ่งก็เจอแต่ชุดนอนสายเดี่ยววอมๆ แวมๆ สุดแสนจะเซ็กซี่ และจะให้เธอมาสวมชุดแบบนี้นอนร่วมเตียงกับผู้ชาย เธอก็ทำไม่ได้!
ผลลัพธ์ที่ดูดีสุดจึงเป็นเสื้อยืดสีขาว กับกางเกงวอมยาวสีเขียวที่ยังคงมีสัญลักษณ์ของทางมหาวิทยาลัยแปะหราอยู่ คุณหนูตัวปลอมถึงกับยิ้มพอใจ สิริรวมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จภายในสิบนาที แถมทำอะไรเสร็จปุ๊บ..ก็กระโจนขึ้นเตียงนอนหลับปั๊บตามประสาเด็กอนามัยที่นอนแต่หัวค่ำ เล่นเอาชายหนุ่มผู้เอาถ้วยชามไปเก็บ เปิดประตูห้องมาถึงกับประหลาดใจ
บูรพาวางแก้วนมสดไว้บนโต๊ะหน้าทีวี ก่อนจะเดินไปข้างเตียง..ดวงตาสีอ่อนโน้มหน้ามองดูใบหน้าเล็กๆ ที่ปราศจากเครื่องสำอาง..ก้านนิ้วชี้เกลี่ยข้างแก้มใสของเพื่อนรักด้วยความเอ็นดูปนสงสาร
ยัยตัวร้ายของเขาน่าจะเหนื่อยจริงๆ ไม่งั้นคนที่นอนยากอย่างเธอคงได้มีบ่นให้เขาฟังทั้งคืน
เช้ามาปาริชาตคนใหม่สะลึมสะลือขยี้หูขยี้ตาตื่น..ผมสีน้ำตาลคาราเมลยาวสลวยยุ่งเหยิง..ขณะที่เตียงด้านข้างมีเพียงรอยยวบยับยุ่งอันเป็นหลักฐานว่ามีใครบางคนมานอนเป็นเพื่อนหล่อนจริงๆ ส่วนกายหยาบนั้นหายตัวไปตอนไหนก็ไม่อาจจะรู้ได้
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งวัน ก็มีแต่เรื่องที่ชวนให้ประหลาดใจ ตั้งแต่สถานะภายในครอบครัว ไปจนถึงผู้ชายหน้าหล่อที่คอยดูแลเธอทั้งคืน...แถมยังสามารถเข้าๆ ออกๆ ห้องนอนเธอได้หน้าตาเฉย..ไม่พอพ่อกับแม่เจ้าของร่างเดิมดันปล่อยผ่านซะอย่างงั้น
คนไม่ใช่แฟน..แต่ดันดูแลฟิลแฟน หล่อนชักอยากจะรู้นัก ความสัมพันธ์ของคนคู่นี้คืออะไรกันแน่ ถึงแม้ไอ้หน้าหล่อจะพร่ำบอกว่าเป็นแค่เพื่อนก็เถอะ!!
เอื้อมนางได้แต่บ่นอุบกับสถานการณ์พิลึกพิลั่นในใจ มือเรียวก็ค้นหาเสื้อผ้าในตู้ที่ดูเรียบร้อยหน่อยมาใส่..แต่ให้ตายเถอะ เทสการแต่งตัวของปาริชาตคนเดิม คำว่า 'เร่าร้อน' ยังน้อยไป เพราะในตู้เสื้อผ้าละลานตาเรียงตามสีนั้น..เต็มไปด้วยชุดเดรสปิดบนเปิดล่าง..ปิดล่างเปิดบน ส่วนเสื้อยืดที่ดูธรรมดา ก็มีแต่ตัวสั้นกุด..ฟิลเปิดพุง..เธอไม่รู้ด้วยซ้ำแฟชั่นที่ว่ามันเรียกว่าอะไร
คุณหนูปาริชาตตัวปลอมจำใจเลือกเสื้อยืดเปิดพุงสีขาวแขนสั้นขึ้นมาตัวหนึ่ง พร้อมกับหยิบกางเกงยีนขายาวสีซีดขึ้นมาอีกตัว..ซึ่งพอมาอยู่ในร่างเพรียวระหงก็ดูดีไม่น้อย..ผมยาวสลวยสีน้ำตาลคาราเมลถูกมือน้อยมัดรวบเป็นหางม้าอย่างง่ายๆ
โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือบ่งบอกเวลาเกือบเก้าโมง..เจ้าตัวตัดสินใจโยนมันใส่กระเป๋าแบรนด์เนมใบที่ดูใหญ่ที่สุด..วันนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่หล่อนต้องทำ
ช่วงเช้า
บริเวณห้องอาหารสุดหรูเวลานี้กับไร้ผู้คน..ถ้าบรรดาสมาชิกในครอบครัวไม่ตื่นเช้ามาก..ก็คือสายมาก ร่างเพรียวระหงจึงเลือกเดินไปหย่อนตัวลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง ดวงตาคู่สวยกวาดมองหาคนงานภายในบ้าน
จนปะทะกับหญิงสาวอายุราวๆ สิบหกสิบเจ็ด ในชุดยูนิฟอร์มเหมือนคุณป้าที่หล่อนเจอหน้าบ้านเมื่อวาน เสียงหวานใสราบเรียบเอ่ยขึ้น
"เธอ"
"..."
"นี้เธอที่ขัดตู้ ได้ยินฉันพูดมั้ย?"น้ำเสียงคนตัวเล็กเริ่มเย็นชา..คนถูกเรียกที่แกล้งเป็นไม่ได้ยินถึงกับตัวสั่น ก่อนจะเดินตัวลีบเข้ามาหา
'ดวงซวยอะไรของเธอกันนะ ที่ต้องมาเจอคุณหนูสามจอมวีน..ปกติเจ้าหล่อนกว่าจะตื่นก็เกือบเที่ยง..วันนี้นึกคึกอะไรถึงตื่นเวลานี้'
...
ยัยน้องเอื้อมไม่ไหวจะเหนื่อยแล้วจริงๆ แต่ผู้ก็งานดีอยู่เด้อ สายซัพพอร์ตเต็มตัว..อุ๊บอิ๊บจองไว้ก่อนมั้ยลูก