บทที่ 1
ตั้งแต่เกิดและเติบโต..เอื้อมนางจัดว่าใช้ชีวิตในฐานะลูกคุณหนูโดยแท้จริง เจ้าหล่อนเป็นหลานสาวคนโตของเจ้าสัวบุญชัย วรรณรุนชัย เจ้าของตลาดวรรณรุ่ง และอสังหาริมทรัพย์ให้เช่ารายใหญ่ของประเทศ..ช่วงวัยเยาว์ถึงอายุสิบขวบ ก่อนที่คุณตากับแม่แท้ๆ จะเสียล้วนแต่มีความทรงจำดีๆ เต็มไปความรักความอบอุ่น
แต่..ณ ตอนนี้ ความจริงที่ได้รับฟาดใส่หน้า..ว่าอาการป่วยประหลาดที่หาสาเหตุไม่ได้..นั้นเกิดจากการโดนวางยามาหลายปี..ใจคนรู้ความจริงสั่น..ความรู้สึกร้าวลึกบาดเข้าถึงแก่นวิญญาณ..เธอทำผิดอะไร ทำไมคุณพ่อ กับน้ากาญถึงวางแผนทำเรื่องเลวร้ายได้ขนาดนี้
ขณะที่กำลังยืนสับสนกับสถานการณ์ที่ได้รับ...คำพูดของคนเป็นตาดังก้องขึ้นมาในจิตสำนึก
‘ฟังตานะเอื้อม..วันข้างหน้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จนมีสติอยู่เสมอ..สติจะเป็นเข็มทิศนำทางในการแก้ไขปัญหาทุกอย่าง’
เอื้อมนางสูดลมหายใจเข้า...เพื่อรวบรวมสติ ก่อนร่างบอบบางจะถอยหลังออกจากห้องไป
แต่...เหมือนหล่อนจะดวงซวยเมื่อเลขาของพ่อมายืนประกบด้านหลัง..เมื่อสบตากัน..คนอายุน้อยกว่าถึงกับสะดุ้งโหยง..ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าซีดเซียวให้ดูเสมือนว่าไม่มีอะไร ทว่าทั้งหมดก็ไม่พ้นกับสายตาแหลมคมของผู้สูงวัยกว่า
"คุณหนูเอื้อมกำลังทำอะไรอยู่ครับ"น้ำเสียงไม่ดังไม่เบาของชายหนุ่มวัยห้าสิบ..เรียกให้ชายวัยกลางคนในห้องรีบถลาเดินออกมา
เมื่อเห็นว่าหน้าห้องเป็นใครยืนอยู่..ไตรรัตน์ก็ถึงกับหน้าเครียด ดวงตาคมหรี่มองลูกสาวผู้เกิดจากภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในขณะที่คนเป็นลูกเมื่อปรีบสีหน้าแล้วก็ได้เพียงส่งยิ้มหวานไปให้
"อ้อ..คือเอื้อมกำลังลงไปห้องหนังสือข้างล่างค่ะ ได้ยินเสียงคุณพ่อเอื้อมเลยเดินมาดู แต่พอดีเจอกับคุณลุงชัยเข้าก่อน..ว่าแต่คุณพ่อกำลังทำอะไรอยู่คะ"คำแรกตอบผู้เป็นเลขา ส่วนคำหลังพูดพร้อมหันไปยิ้มให้ผู้เป็นบิดา...ดวงหน้าใสซื่อไร้เดียงสา บวกกับสภาพอ่อนแอ..ย่อมทำให้คนเป็นพ่อใจอ่อนยวบ...เพราะถึงยังไงก็เคยเลี้ยงดูกันมาก่อน
"ว่าแต่ ทำไมคุณพ่อยังไม่ไปทำงานละคะ"
"พ่อกำลังจะไปแล้วล่ะ พอดีแวะมาเอาเอกสารที่บ้าน"น้ำเสียงเอื้ออาทรช่างแตกต่างจากชายชั่วช้าคนที่มีความตั้งใจจะฆ่าเธอ!
"ค่ะ คุณพ่องั้นเอื้อมขอตัวกลับห้องก่อนนะคะ"พูดจบร่างบอบบางหันหลังประคองตัวเองเดินกลับห้องทันที เพียงแต่ความซวยบรรลัยก็เกิดขึ้น เมื่อพี่เลี้ยงแสนดีของหล่อนเดินออกจากห้องนอนใหญ่โดยไม่สนใจสายตาใคร ไตรรัตน์นิ่วหน้าทันที
เขาขอให้ซ่อนตัวไปก่อน ทำไมไม่เข้าใจ?
ร่างเพรียวระหงของหญิงวัยสี่สิบต้นๆ ยังคงสวยมีเสน่ห์...เจ้าหล่อนเดินจ้ำอ้าวขึ้นมาดักตรงหน้า ก่อนส่งยิ้มเย็นชามาให้ เอื้อมนางนิ่งงันไป..เพราะไม่นึกว่าคนเป็นพี่เลี้ยงที่หล่อนนับถือเสมอมารดาคนที่สอง จะกล้าทำพฤติกรรมแบบนี้
"เธอมายืนตรงนี้นานแค่ไหนแล้ว?"คำสรรพนามที่เปลี่ยนแปลงไป..พาคนตัวเล็กวูบโหวงเจ็บจี๊ดกลางอก แต่ก็คงแกล้งไขสือเพื่อเอาตัวรอด
"น้ากาญหมายความว่ายังไงคะ?"
"ฉันรู้หนูไม่ใช่คนโง่เอื้อมนาง ที่สำคัญถ้าหนูจะไปที่ห้องหนังสือจริงก็ไม่จำเป็นต้องเดินมาทางนี้"
"..."
"น้าถามหนูอีกครั้ง เมื่อกี้หนูได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้วใช่มั้ย?"ไม่พูดเปล่า เล็บเคลือบสีใสก็เปลี่ยนมาเชยคางคนอายุน้อยกว่าขึ้น
ดวงตาสองคู่สบกัน..คู่หนึ่งเต็มไปด้วยความเย็นชาริษยา..ในขณะที่อีกคู่หนึ่งเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าเล็กซีดเผือดเหงื่อผุดขึ้นตามไรผม ก่อนที่ริมฝีปากบางเล็กของเอื้อมนางจะบิดยิ้มเย้ย
"น้ากาญต้องการคำตอบแบบไหนกันละคะ?"
"..."
"ได้ยิน หรือไม่ได้ยิน?"
"..."
"หรือน้ากาญกลัวว่าเอื้อมอาจไปได้ยินอะไรที่ไม่ควรได้ยินหรือเปล่าคะ?"หลานคนโตของเจ้าสัวเน้นคำ
"อีเอื้อม!!!"คนอายุมากกว่าแทบกรี๊ด..ภาพลักษณ์พี่เลี้ยงผู้แสนดีหายแวบไปทันที คนตัวเล็กกว่าขยับถอยหลังเล็กน้อย..ความเจ็บปวดร้าวลึกถึงดวงจิตวิญญาณ แม้ร่างกายจะอ่อนแอ..แต่ทว่าดวงตาหวานกับแข็งกร้าว
"นี่ซินะคะ ร่างจริงของน้ากาญ"
"เออ..แล้วไงยะ หล่อนจะทำอะไรฉันได้..คนใช้บ้านนี้ก็คนของฉัน อีขี้โรคแบบแก..เหอะ..ให้ฉันพูดตรงๆ ก็คงมีชีวิตอยู่ไม่ถึงสิ้นปี"
"กาญหยุด กลับลงไปอยู่ในที่ของเธอซะ..ส่วนเอื้อมหนูกลับไปที่ห้องหนูได้แล้ว"คำสั่งแรกหันไปสั่งชู้ ส่วนประโยคหลังหันไปสั่งลูกสาว
กาญจนายืนฮึดฮัด..ในขณะคนตัวเล็กเลือกที่จะเลี่ยง..เธอรู้..เธอ 'ต้องการตัวช่วย' ซึ่งเวลานี้ตัวเธอยังไม่สามารถเปิดwar ได้
"เอื้อมนาง"
"คะ?"ใบหน้าซีดเซียวของคนตัวเล็กหันไปสบกับคนเป็นพ่อ..ไตรรัตน์ยังกล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"พ่อหวังว่าหนูจะฉลาดพอ..รู้ว่าอะไรเป็นอะไรนะ"
"..."
"อย่างน้อย..มีชีวิตยืนยาวเพิ่มหนึ่งวัน..ก็ยังดีกว่าจริงมั้ย?"
คำพูดของคนอายุมากกว่าพาใจคนเป็นลูกปวดจี๊ด..ดวงตาที่เหมือนภรรยาผู้ล่วงลับไปแล้วไหววูบในนั้นเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
"ทะ..ทำไมคะ..ทำไมคุณพ่อต้องทำแบบนี้ด้วย..ฮึก..ทำไมต้องเป็นชู้กับน้ากาญ..ทำไม..ถึงได้..ฮึก..ทั้งที่เอื้อมเป็นลูกของคุณพ่อ"คนตัวเล็กตัดพ้อต่อว่า..แต่ก่อนที่ไตรรัตน์จะทันได้ตอบ ชู้รักของเขาก็แย่งตอบเสียเย้ยหยันขึ้นมาก่อน
"ลูก? อีโง่..ฉันจะบอกให้แกฟังก่อนตายนะ อีเอื้อม..หล่อนมันก็แค่ลูกชู้..ที่อีมัณฑนาไปมั่วแล้วมีแกขึ้น"
ความจริงที่กระแทกใส่หน้า..ส่งผลให้หนังสือวรรณกรรมในมือล่วงผล็อย
"หยุด!! ห้ามพูดถึงแม่ของเอื้อมแบบนี้นะ"เอื้อมนางตะวาดเสียงดัง..ใจดวงเล็กบีบเกร็ง..เนื้อตัวสาวสั่นไหวด้วยความโกรธ
"คุณพ่อบอกมาค่ะ..ว่าน้ากาญพูดโกหก..ยังไงเอื้อมก็คือลูกสาวคุณพ่อ"
แต่คำตอบที่หญิงสาวได้รับกลับมากับเป็นความเงียบ..ใบหน้าคมครามแม้เข้าวัยกลางคนเสมองไปทางอื่น..เหมือนเป็นการยอมรับกลายๆ ว่าคำพูดชู้รักทั้งหมดเป็นเรื่องจริง!
ใบหน้าเล็กส่ายไปมา..ริมฝีปากบางถูกเม้มแน่น
"เอื้อมไม่เชื่อ..คุณแม่มัณฑนาเป็นคนดี..แม่จะไม่มีวันนอกใจคุณพ่อเด็ดขาด..เอื้อมไม่เชื่อ!!"
"หึ เด็กอย่างหล่อนจะไปรู้เรื่องอะไร"คนเป็นพี่เลี้ยงยังกอดอกเย้ยหยัน..เอื้อมนางยังเถียงแบบคนไม่ยอมแพ้
"งั้นเราตรวจ Dna กันมั้ยคะ? นะคะคุณพ่อ เอื้อมมั่นใจว่าเอื้อมเป็นลูกของคุณพ่อ"
ชายวัยกลางคนมีสีหน้าไหววูบ..มีหลายครั้งที่เขานึกอยากจะตรวจ DNA ให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็กลัวความจริงที่จะถูกตอกย้ำซ้ำซากว่าตัวเองเป็นคนโง่นั้นกับมีมากกว่า
ภาพเหตุการณ์ที่อดีตภรรยามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพื่อนชาย..แม้คนเป็นเมียจะอ้างว่า 'เมา' และไม่ได้ตั้งใจก็ตาม มันคงจะดีถ้าเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่มีผลลัพท์อันเลวร้าย..จนเขาประชดเจ้าหล่อนโดยกลับไปคบหากับแฟนเก่าที่กำลังเลี้ยงดูลูกสาวอีกคนของเขาอยู่
และผลลัพธ์ที่ว่าก็มายืนหน้าสลอนตรงหน้า..ที่เขามั่นใจว่าเอื้อมนางไม่มีทางเป็นลูกของเขา..ก็เพราะชายหนุ่มมีเลือดกรุปเลือด O มัณฑนากรุปเลือด A มันไม่มีทางเลยที่ลูกสาวจะเกิดมามีกรุปเลือด B ซึ่งคนเป็นภรรยาเองก็รู้ และสำนึกผิดอยู่ตลอดเวลาที่มีชีวิต
"เราเลิกคุยเรื่องนี้กันเถอะ เอื้อมกลับเข้าห้องไปได้แล้ว"
พูดจบคนอายุมากกว่าก็ตัดสินใจจ้ำอ้าวทิ้งสถานการณ์น่าปวดหัวไว้ด้านหลัง..ไม่ได้นึกกลัวว่าหญิงสาวขี้โรคจะมาเอาความทีหลัง อย่างที่ชู้รักเขาพูด..ชีวิตเอื้อมนางก็เหมือนลูกนกในมือพวกเขา..จะบีบก็ตายจะคายก็รอด!!!
แต่สิ่งที่ไตรรัตต์คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เมื่อความอดทนของกาญจนาจะถึงจุดสิ้นสุด..ความอยุติธรรมที่ลูกสาวได้รับ..พาอดีตพี่เลี้ยงผู้แสนดีสติแตก..เจ้าหล่อนกระชากแขนนายจ้างเข้าหาตัว
น้ำเสียงที่ใช้ด่าทอเกลียดชัง..หล่อนเกลียดเอื้อมนาง..เกลียดที่อีเด็กเวรนี้ได้อภิสิทธิ์ทุกอย่างที่ลูกสาวตนควรจะได้รับ..ทั้งที่กาญจนานั้นลืมไปว่าตัวหล่อนกับลูก ‘ไม่มีสิทธิ์’ กับทรัพย์สมบัติของตระกูลวรรณรุนชัยมาตั้งแต่แรกแล้ว
เพราะก่อนที่ไตรรัตต์จะแต่งงานกับมัณฑนา..ในอดีตเขาเองก็เป็นเพียงพนักงานบริษัทตำแหน่งเล็ก ๆ..หาได้มีทรัพย์สมบัติอะไรติดตัวมาด้วย
“ปล่อยเอื้อมเดี๋ยวนี้เลยนะ น้ากาญ!!”ร่างเล็กขู่ตอบเสียงสั่น ดวงตาดำสนิทเต็มไปด้วยความโกรธ..แต่ด้วยเรี่ยวแรงที่มีจากร่างกายที่ผุกร่อนนั้นกับมีเพียงน้อยนิด..ไม่สามารถที่จะสะบัดแขนออกจากมือของคนอายุมากกว่าได้
“เพราะมึงอีเอื้อม ลูกกูถึงต้องกลายเป็นลูกไม่มีพ่อ”
“น้ากาญ น้าบ้าไปแล้วหรือไง ปล่อยเอื้อมนะ”
“มึงต้องตายอีเอื้อม”
ก่อนที่ไตรรัตน์จะร้องห้าม...หญิงสาวผู้มีสถานะเป็นลูกสาวตามกฎหมายก็ถูกเหวี่ยงตกบันได..ร่างเล็กปลิวตกลงไปราวกับนกปีกหัก!!
....
ยัยน้องไม่น่ารอด