บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 กู้หน้า

เฉิงเปียวเห็นพวกเขาสามีภรรยาพูดเป็นเอกฉันท์ เห็นว่าบังคับไม่สำเร็จ ก็โกรธจนโยนไพ่ลับออกไป

"ไม่ขาย?! ไม่ขายก็คืนเงินมา! คืนเดี๋ยวนี้! วันนี้ต้องคืน!"

ริมฝีปากหลิวอิงสั่นเล็กน้อย อ้อนวอนสะอึกสะอื้น "นี่อาลูก เมื่อวานเพิ่งแต่งงาน อาหยวนยังไม่ได้ไปทำงานในเมือง ที่บ้าน......ยังหาเงินมาคืนไม่ได้จริงๆ นายยอมๆ หน่อยเถอะนะ"

"ไม่ได้!" ภรรยาเฉิงเปียวบ้วนเปลือกเม็ดแตง พร้อมพูดเจื้อยแจ้วเดินออกมา "ลูกสะใภ้เธอเป็นคุณหนูคนโตมาจากเมืองกรุงไม่ใช่เหรอ? ครอบครัวพวกเธอไต่เต้ามาได้ ไม่มีเงินได้ยังไง?! อย่าพยายามหาข้ออ้าง!"

เสียงอาสะใภ้เปียวทั้งแหลมทั้งดัง พูดจาเอะอะโวยวาย "ไม่ขายที่ดินก็คืนมาเดี๋ยวนี้! ไม่คืนเราจะไปเคลียร์กันที่คณะกรรมการหมู่บ้าน! เป็นหนี้ไม่คืนเงิน มีกฎหมายคุ้มครองอยู่ไหม?!"

หลิวอิงละอายใจมาก เดินไปข้างหน้าพูดเสียงทุ้มต่ำ "นี่อาสะใภ้ลูก เบาเสียงหน่อย......เพื่อนบ้านแถวนี้ออกมากันหมดแล้ว......"

พื้นที่ชนบทนั้นเงียบสงบมาก หากบ้านไหนเสียงดังหน่อย ก็กระจายออกไปไกลทันที ตอนนี้บ้านใกล้เรือนเคียงก็วิ่งออกมามุงดูกันหมดแล้ว

อาสะใภ้เปียวจ้องเขม็งเธอ เท้าเอวพูดเสียงแหลม "ฉันจะเสียงดัง! ให้คนในหมู่บ้านรู้ว่าพวกเธอติดหนี้ไม่ยอมคืนเงิน!"

หลิวอิงก็ตกใจกลัวเธอจนปลายเท้าโซเซ น้ำตาไหลออกมาไม่หยุดหย่อน

เฉิงเทียนหยวนทำหน้าเย็นชาขึงขัง กำหมัดแน่น กำลังจะเกิดโทสะ----เซวียหลิงกอดแขนเขาเอาไว้ แล้วดึงเขากลับมา

วินาทีถัดมา เธอรีบเดินไปประคองหลิวอิง แล้วตะคอกเสียงดังใส่อาสะใภ้เปียว "ใครบอกว่าเราไม่คืน?! เรายังไม่ปรึกษากันเลยว่าจะถอนเงินยังไง ผ่านไปแป๊บเดียวก็มาโวยวายใส่ไม่หยุด! มีใครไม่รู้บ้างว่าพื้นที่ชนบทต้องใช้พื้นที่นาปลูกพืชไร่ทำมาหากิน ต้องขอบคุณคุณอากับอาสะใภ้ของเทียนหยวนจริงๆ นะคะ! ที่บังคับให้เราขายที่ดิน!"

เซวียหลิงเดินออกไปแล้วตวาดใส่ "คุณลุงคุณป้า ชาวบ้านทุกๆ ท่านในหมู่บ้าน พวกท่านลองมาตัดสินหน่อยสิคะ! ฉันกับพี่หยวนเพิ่งแต่งงาน คุณอา อาสะใภ้ก็มาทวงเงินถึงที่ บังคับให้ครอบครัวเราขายที่! พวกท่านว่ามีคนในครอบครัวทำเกินไปแบบนี้ด้วยเหรอ?"

สมัยก่อนเฉิงเปียวเป็นพวกเอ้อระเหยวันๆ ไม่ทำอะไร ภรรยาก็ไร้เหตุผล เอาเปรียบคนในหมู่บ้านอยู่ตลอด ทุกคนขัดหูขัดตามานานแล้ว

ตั้งแต่ได้กินขนมมงคลแสนอร่อยในเมืองของเซวียหลิง ทุกคนรู้สึกประทับใจสะใภ้ใหม่อย่างเธอแล้ว จึงแย่งกันพูดคล้อยตาม ว่ากล่าวที่เฉิงเปียวกับภรรยาทำเกินไป

"เขาจัดงานมงคลอยู่นะ! พวกนายทำแบบนี้----มันเกินไปแล้ว!"

"คนในหมู่บ้านเดียวกัน คนในครอบครัวเดียวกันแท้ๆ บังคับให้ขายที่ดินได้ยังไง! ครอบครัวเทียนหยวนนอกจากที่ดินพวกนี้ก็มีแค่บ้านอิฐดินสองหลัง ก็ไม่มีของมีค่าอะไรแล้ว ถ้านายเอาที่ดินไป ต่อไปจะให้พวกเขาไม่มีพืชไร่กินหรือไง?!"

"นั่นสิ! ไร้มนุษยธรรมเกินไปแล้ว!"

เซวียหลิงตะโกนแบบนี้ คนในหมู่บ้านก็ต่างพูดกัน ด่าสาปแช่งเฉิงเปียวกับภรรยาจนเละเลย

ในเวลานี้ เซวียหลิงก็ดึงเฉิงเทียนหยวนมาแล้วพูดเสียงทุ้มต่ำ "นายไปประคองแม่!"

เหตุการณ์วุ่นวาย เฉิงเทียนหยวนถือโอกาสไปประคองแขนคุณแม่ แล้วเห็นเธอวิ่งกลับไปที่ห้องหอ แถมยังปิดประตูเสียงดัง "ปัง!"

เขาขมวดคิ้วขึ้นมา----นี่เธอกลัวแล้วเหรอ?!

ว่ากันว่าสามีภรรยาเป็นเสมือนนกในป่าเดียวกัน แต่ยามเจอความยากลำบาก ภรรยาเขาก็บินหนีไปเอง

ยังไงแล้วเฉิงเปียวก็เป็นชายที่รักเกียรติยศโดยธรรมชาติ เห็นชาวบ้านชี้หน้าด่าตน ก็รู้สึกอึดอัดและกระอักกระอ่วน ไปซ่อนอยู่ด้านหลังภรรยาอวบของเขา

อาสะใภ้เปียวหน้าแดงคอแหบ ตั้งใจจะทำลายให้สิ้นซาก พูดเสียงแหลม "เกี่ยวอะไรกับพวกแก! ยังไงวันนี้ก็ต้องให้มันคืนเงิน คืนเงินไม่ได้ก็ชดใช้ด้วยที่ดิน! ทั้งหมดสองร้อยหยวน! พวกแกมีใครจะช่วยบ้านพวกมันคืนไหมล่ะ? คืนมาสิ?"

ช่วงต้นยุคแปดศูนย์ สถานที่ขนาดเล็กในชนบทอย่างหมู่บ้านตระกูลเฉิง สิบหยวนและห้าหยวนก็เป็นเงินก้อนโต ครอบครัวใครมีหนึ่งร้อยหยวน ก็ถือว่าเป็นเศรษฐีครึ่งตัวแล้ว

ช่วยพูดน่ะทำได้ แต่ช่วยคืนเงินน่ะไม่ได้อยู่แล้ว

พอคำพูดอาสะใภ้เปียวเพิ่งสิ้นสุด ตรงนั้นก็เงียบหมด แต่ละคนก้มศีรษะ บางคนถึงกับถอยหลังไปหลายก้าว

สองร้อยหยวน----นั่นมันเงินจำนวนมาก!

อาสะใภ้เปียวภูมิใจสุดขีด เหนียงสองชั้นกำลังแกว่ง เลิกคิ้วแล้วพูดขึ้น "ทำไม? มีปัญญาก็คืนมาสิ? ไม่มีปัญหาจะพูดพล่ามทำไม! ไสหัวไปซะ!"

จากนั้นมืออ้วนสกปรกของเธอก็ยื่นไปตรงหน้าแม่ของเฉิงเทียนหยวนแล้วตวาดใส่ "คืนมาเร็วๆ! คืนเดี๋ยวนี้!"

เฉิงเทียนหยวนกัดฟันกรอด แต่ยังคงเอ่ยปากอย่างใจเย็น "ห้าวัน! ชาวบ้านเป็นพยานให้ผมเฉิงเทียนหยวนด้วย ผมจะคืนภายในห้าวัน"

อาสะใภ้เปียวแค่นหัวเราะส่ายหน้าอย่างภาคภูมิใจ แล้วพูดเสียงแหลม "ไม่ได้! วันนี้ต้องคืน!"

"มีแบบนี้ที่ไหนกันเนี่ย......เขาเพิ่งแต่งงานไม่ใช่เหรอ? ที่บ้านต้องขาดแคลนเงินแน่ๆ"

"อาหยวนเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้นเสมอ! บอกแล้วว่าคืนได้ภายในห้าวัน ทำไมต้องบังคับแบบนี้ด้วยเนี่ย!"

"ให้เวลาคืนเงินหน่อยสิ แบบนี้มันเกินไปแล้ว!"

ชาวบ้านที่มีอายุก็ใจกล้ามากหน่อย โน้มน้าวเสียงทุ้มต่ำ

หลิวอิงเช็ดน้ำตา ตาแดงก่ำอ้อนวอน "นี่อาสะใภ้ลูก......อาหยวนบอกว่าห้าวันก็ห้าวันสิ ถือว่าฉันขอร้องเธอนะ!"

เธอเดินไปข้างหน้า ทำท่าจะคุกเข่าลง----

"แม่!" เฉิงเทียนหยวนลุกลี้ลุกลนจะประคองเธอ ก็มีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วโดยไม่คาดคิด เร็วกว่าเขาหนึ่งก้าว แล้วดึงหลิวอิงขึ้นมา

เซวียหลิงนั่นเอง!

เธอเชิดศีรษะขึ้น ตัวตรงตระหง่าน แล้วพูดเสียงดัง "ไม่ต้องรอห้าวันหรอก นี่สองร้อยใหม่เอี่ยม คืนให้พวกคุณ!"

ทุกคนล้วนงุนงงไปหมด!

เฉิงเปียวกับอาสะใภ้เปียวรีบแย่งมันไว้ สัมผัสธนบัตรสองร้อยมันวาวใหม่เอี่ยม ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อกันหมด

เซวียหลิงพูดขึ้นเสียง "หลักฐานการยืมล่ะ? รีบเอาออกมา!"

อาสะใภ้เปียวแอบกลืนน้ำลาย ควักหลักฐานการยืมออกมาจากกระเป๋าเฉิงเปียว แล้วยื่นออกมาให้อย่างอายๆ

เซวียหลิงรับมาดู แล้วส่งให้เฉิงเทียนหยวนด้านหลัง

"พวกคุณลุงคุณป้าวันนี้ช่วยเป็นพยานให้ด้วยนะคะ เงินที่ครอบครัวเฉิงเปียวให้พวกเรายืมคืนไปหมดแล้ว ถ้าต่อไปพวกเขากล้ามาหาเรื่องครอบครัวฉันอีก ก็อย่าหาว่าเราไม่เกรงใจ!"

อาสะใภ้เปียวจ้องเธอ พูดเยาะเย้ยอย่างไม่สบอารมณ์ "เป็นญาติกันกลับจะทำเราสินะ!"

เซวียหลิงตะคอกเสียงดัง "พวกคุณเป็นญาติที่ไหนกันฮะ! มาทวงเงินวันที่เราแต่งงาน แถมบังคับให้ครอบครัวเราขายที่ดินในราคาถูกอีก! มีญาติแบบนี้ด้วยเหรอ?!"

"นั่นสิๆ! ทำเกินไปแล้ว!"

"เอาแต่ข่มเหงคนอื่น!"

ชาวบ้านข้างๆ แย่งกันพูดขึ้น อาสะใภ้เปียวทำได้แค่อับอายไม่กล้าเอ่ยปากอีก

เฉิงเปียวกำลังถูธนบัตรใบเรียบมันวาวอยู่ อดไม่ได้ที่จะพึมพำ "เอาเงินมาจากไหน? ใหม่เกินไปหรือเปล่า? จะปลอมไหมเนี่ย?"

เซวียหลิงขึ้นเสียง "แหกตาดูให้ดี! นี่มันธนบัตรล็อตแรกที่พ่อฉันถอนมาจากธนาคารกลางโดยเฉพาะ เพื่อฉลองงานแต่งของฉันกับพี่หยวน! ถ้ากล้าพูดมั่วๆ ใส่ร้ายว่าเป็นของปลอม เราไปเคลียร์กันที่สถานีตำรวจท้องถิ่นเดี๋ยวนี้เลย!"

สมัยก่อนเฉิงเปียวเป็นนักเลง พอได้ยินคำว่า "สถานีตำรวจ" ก็ตกใจกลัวจนขาอ่อน รีบดึงภรรยาวิ่งหนีเตลิดไป

เหล่าชาวบ้านเห็นว่าไม่มีอะไรครึกครื้นให้ดูแล้ว ก็ทยอยแยกย้ายกันไป

เซวียหลิงมีสุภาพมาก มือหนึ่งถือเม็ดแตงถุงใหญ่ แล้วใส่มือพวกเขาทีละคน

"ขอบคุณมากๆ ค่ะคุณลุงคุณป้า! ว่างๆ มาดื่มชาที่บ้านนะ! ขอบคุณค่ะ! ขอบคุณค่ะ!"

......

หลังจากแม่เฉิงกลับมาถึงบ้าน ก็รีบถามเซวียหลิงด้วยความกระวนกระวาย "หลิงหลิง เธอเอาเงินเยอะขนาดนี้มาจากไหน?"

เซวียหลิงยิ้มตอบ "สินสอดทองหมั้นที่พ่อฉันให้ค่ะ"

หลังจากโรงงานปุ๋ยเคมีปิดกิจการ พ่อเซวียก็พาภรรยาและลูกสาวกลับเมืองหลวงบ้านเดิม ต่อมาก็ทำธุรกิจร่วมกับคนอื่น เจริญรุ่งเรืองขึ้นทุกวี่ทุกวัน

เขารู้สึกซาบซึ้งมาตลอดที่พ่อเฉิงช่วยชีวิตเขาไว้ ดังนั้นเมื่อเฉิงเทียนหยวนไปขอแต่งงานที่เมืองหลวง เขาจึงรับปากทันที

สองสามีภรรยาเฒ่ามีเซวียหลิงลูกสาวเพียงคนเดียว รักมากด้วย รู้ว่างานแต่งที่เร่งรีบทำให้เธอลำบากใจ จึงเตรียมสินสอดทองหมั้นมากมายหลายกล่องให้เธอ และเงินจำนวนสองพันหยวน

ในยุคที่ใช้เงินหน่วยเหมาได้ นี่เป็นเงินจำนวนมหาศาล!

แต่เธอไม่ได้พูดความจริง แค่บอกว่าสองร้อยหยวนนี้พ่อตนให้มา

แม่เฉิงวิ่งเข้าบ้านมาด้วยความชื่นชมยินดี บอกสามีแก่ของตนดีแค่ไหน ลูกสะใภ้เป็นเด็กดีมากแค่ไหน ยอมแม้กระทั่งเอาสินสอดทองหมั้นออกมาให้

เฉิงเทียนหยวนมองเซวียหลิงด้วยดวงตาซาบซึ้งเพิ่มขึ้น แล้วพูดเสียงทุ้ม "ขอบคุณนะ......เงินนี้ฉันจะคืนให้เธอในภายหลัง"

เดิมทีนึกว่าเธอวิ่งเตลิดไปเพราะความวุ่นวาย ใครจะรู้ว่าเธอไปหยิบเงินมาเพื่อกู้หน้าให้เขา----เขารู้สึกซาบซึ้งมาก

เซวียหลิงยิ้มสดใสน่ารัก เห็นรอบตัวไม่มีคน จึงจงใจแซวเขาอย่างซุกซน

"ไม่ต้องคืนก็ได้ ใช้ร่างกายแทน!"

ใบหน้าหล่อเหลาของเฉิงเทียนหยวนแดงก่ำคลุมเครือ หันหลังเดินออกไปอย่างกระอักกระอ่วน แผ่นหลังให้ความรู้สึกเหมือนตกที่นั่งลำบาก

เซวียหลิงหัวเราะฮิๆ อยู่ด้านหลัง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel