บทที่ 20 จิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ
หวังเจวียนเห็นคุณลุงร่างท้วมถามขึ้นมา ก็สะดุ้งรีบซ่อนขันน้ำไว้ด้านหลัง ทำท่าจะเดินไปซ่อนในสหกรณ์ร้านค้า
เซวียหลิงตาไวมือไว รีบเดินไปข้างหน้าหยุดเธอเอาไว้
"ทำไม? เธอสาดน้ำใส่ฉัน หนังสือกับของที่ฉันซื้อจากสหกรณ์ร้านค้าพวกเธอก็เปียกด้วย เธอไม่คิดว่าเธอควรเอ่ย 'ขอโทษค่ะ' เหรอ?!"
หวังเจวียนหลบหลีก มองคุณลุงร่างท้วมด้วยความหวาดกลัว
"ฉัน......ฉันเปล่า!"
เซวียหลิงยิ้มเยาะ แล้วหันไปมองคุณลุงร่างท้วม
"คุณลุงคะ คุณมาตัดสินดูหน่อย ก่อนหน้านี้ฉันซื้อของในสหกรณ์ร้านค้าพวกลุงมากมายขนาดนี้ ของหนักมากถือคนเดียวไม่ไหว เลยนั่งตรงนี้อ่านหนังสือรอแฟนฉันเลิกงานมารับฉัน แต่พนักงานของพวกลุงถือขันน้ำมาสาดฉัน แม้แต่คำขอโทษสักคำก็ไม่มี แถมยังไล่ให้ฉันออกไปอีก!"
เซวียหลิงชี้กางเกงตัวเองที่เปียกเยอะมาก แล้วหยิบหนังสือยับยู่ยี่ยื่นออกไป
"นี่หนังสือภาษาอังกฤษนำเข้าของฉัน มันแพงมาก! สหกรณ์ร้านค้าของพวกคุณทำแบบนี้ได้ยังไง? ลูกค้านั่งตรงมุม ไม่ได้ขัดขวางการทำธุรกิจของพวกลุงเลยด้วย ถึงขั้นต้องสาดน้ำไล่เลยเหรอ?"
คุณลุงร่างท้วมทำหน้าโกรธเกรี้ยว จ้องหวังเจวียนที่อยู่ข้างๆ เห็นด้านหลังเธอซ่อนขันน้ำเอาไว้ แล้วมองไปที่ม้านั่งกับพื้นที่เปียกชื้น ความโกรธที่สะสมจึงระเบิดออกมา
"หวังเจวียน! เธอทำอะไรฮะ?! ด้านหลังสหกรณ์ร้านค้ามีห้องน้ำกับบ่อน้ำไม่ใช่เหรอ? เธอมาสาดน้ำข้างนอกทำไม?! ฮะ?! เธอสาดใส่น้องเขา ไม่ขอโทษแถมไล่อีก----นี่เธอต้องการทำลายธุรกิจของฉัน ทำให้ชื่อเสียงสหกรณ์ร้านค้าฉันป่นปี้ใช่ไหม?!"
ชายร่างท้วมมีแรงเต็มเปี่ยม เสียงตะคอกก็ดัง ด่าจนหวังเจวียนตาแดง
"ฉัน......ฉัน......ฉันไม่ได้ตั้งใจ"
คุณลุงร่างท้วมโกรธจนยั้งอารมณ์ไว้ไม่อยู่ พูดขึ้นเสียงดัง "ฉันว่าเธอไม่อยากทำงานแล้ว! วางมาดอวดเบ่งเป็นคุณหญิงเกือบทุกวัน เธอเป็นคุณหนูประสาอะไร? เมื่อวานฉันให้เธอไปย้ายของ เธอเยี่ยมไปเลย กลับไปให้อาหยวนกับอาหมินย้ายมัน วันนี้เธอยังทำให้ลูกค้าไม่พอใจอีก! เธอกล้าดียังไง!"
หวังเจวียนร้องไห้ สีหน้าซีดเซียวส่ายหน้า พูดอย่างลุกลี้ลุกลน "เปล่านะคะ! มันไม่มีอะไรเลย! เถ้าแก่ ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้ว! ฉันผิดไปแล้ว!"
คุณลุงร่างท้วมโกรธจัดแล้ว ทำสีหน้าโหดเหี้ยม แล้วด่ารุนแรงอีกหนึ่งยก ยืนกรานที่จะไล่หวังเจวียนออก
ในเวลานี้ พนักงานในสหกรณ์ร้านค้าได้ยินกันหมด เฉิงเทียนหยวนกับเฉินหมินเดินออกมาอย่างลุกลี้ลุกลน
เฉิงเทียนหยวนเห็นเซวียหลิงผมเปียกเกินครึ่ง ผ้าปูก็เปียกเป็นวงกว้าง จึงรีบเข้าไปหา
"หลิงหลิง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้?"
ในใจเซวียหลิงมีความโกรธ แต่รู้ดีว่าจะพาลใส่ชายผู้เป็นที่รักของตนไม่ได้ จึงอธิบายเหตุผลง่ายๆ
เฉิงเทียนหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย นึกถึงพฤติกรรมปกติของหวังเจวียน แล้วเห็นสภาพย่ำแย่ของภรรยาสุดสวย ความโกรธในใจก็พุ่งขึ้นมา กำลังจะโมโหใส่
เซวียหลิงเห็นสีหน้าเขาไม่ดี ใบหน้าหล่อตึงเครียด จึงดึงเขาเงียบๆ ส่งสัญญาณให้เห็นคุณลุงร่างท้วมที่กำลังฉุนเฉียวอยู่
"ยังไงเธอก็เป็นเพื่อนร่วมงานของนาย นายอย่าเพิ่งพูดดีกว่า"
เฉิงเทียนหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย ได้ยินภรรยาพูดแบบนี้ ก็ต้องหายใจเข้าลึกๆ อดทนเอาไว้ก่อนชั่วคราว
หลังจากคุณลุงร่างท้วมตำหนิหวังเจวียนด้วยความโกรธไม่กี่ประโยค ก็หันไปมองเซวียหลิง แล้วยิ้มกว้าง
"คุณน้อง พนักงานฉันไม่ดีเอง! ฉันจะให้เธอขอโทษคุณ ขอโทษเดี๋ยวนี้! ไม่ใช่แค่นั้น ฉันจะไล่เธอออก! ออกทันที! เธอน่ารำคาญจริงๆ!"
เซวียหลิงยิ้ม แล้วพูดเสียงอ่อนโยน "เถ้าแก่ ฉันว่าช่างมันเถอะค่ะ พี่คนนี้คงไม่ได้ตั้งใจ หางานทำมันไม่ง่าย เธอโดนคุณสั่งสอน ก็ต้องรู้แล้วว่าตัวเองทำผิด คุณดูเธอสิคะ ร้องไห้แล้ว"
หวังเจวียนประหลาดใจมาก เงยหน้าที่น้ำตานองขึ้นมา มองเซวียหลิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ
คุณลุงร่างท้วมทำเสียงฮึดฮัด แล้วพูดด้วยเสียงหนักแน่น "เธออู้งานมาตลอด ฉันไม่ชอบเธอมานานแล้ว!"
หวังเจวียนกังวลใจแล้ว รีบเช็ดน้ำตา แล้วจับแขนคุณลุงร่างท้วมเอาไว้
"คุณลุงคะ! ลุงให้โอกาสฉันอีกสักครั้งเถอะนะ! เห็นแก่ที่เราเป็นคนบ้านเดียวกัน ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งนะคะ! ฉัน......ฉันจะตั้งใจปรับปรุงค่ะ! ต่อไปฉันไม่กล้าอีกแล้ว!"
คุณลุงร่างท้วมทำหน้าโกรธเกรี้ยว ทำเสียงเข้มไม่พูดไม่จา
เฉินหมินที่อยู่ข้างๆ หันหน้าไปมาด้วยความซื่อ ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เห็นหวังเจวียนน่าสงสาร ถึงในใจจะไม่ชอบที่ปกติเธอมักแอบอู้งานและบงการตน แต่พอเห็นเธอเป็นแบบนี้ เขาที่เป็นคนซื่อตรงและใจดีก็ทนไม่ค่อยได้
เขาพูดเสียงทุ้มอย่างอายๆ "เถ้าแก่ครับ ไหนๆ เจวียนเอ๋อร์เธอก็รู้ว่าตัวเองผิดไปแล้ว คุณก็ให้อภัยเธอสักครั้งเถอะนะครับ"
คุณลุงร่างท้วมรูจมูกโตทำเสียงฮึดฮัด แล้วพูดขึ้น "ฉันปล่อยเธอไปสักครั้งก็ได้! ถ้าไม่เห็นแก่ที่ชาวบ้านแนะนำเธอมา ฉันไล่เธอออกไปนานแล้ว!"
เฉิงเทียนหยวนเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วพูดเสียงเข้ม "หวังเจวียน เธอสาดน้ำใส่เมียฉัน เธอต้องขอโทษหล่อนนะ"
หวังเจวียนได้ยินว่าจะต้องเสียงาน ก็ตกใจกลัวจนตัวสั่น สมองขาวโพลน ได้ยินเฉิงเทียนหยวนพูดแบบนี้ ก็ทิ้งนิสัยซึนเดเระและความอารมณ์ร้อนไปหมดสิ้น โน้มตัวขอโทษเซวียหลิงไม่หยุดหย่อน
"ขอโทษค่ะ......ขอโทษค่ะ!"
คุณลุงร่างท้วมทำเสียง "ฮะ?" มองไปที่เซวียหลิงแล้วถามด้วยความประหลาดใจ "อาหยวน เมื่อกี้นายว่าไงนะ? เธอคือเมียนายเหรอ?"
เฉิงเทียนหยวนพยักหน้า แล้วอธิบาย "เราหมั้นกันมาหลายปีแล้ว สมรสแต่งงานกันเมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอมาที่นี่สองวันแล้ว วันนี้เพิ่งเช่าบ้าน มาซื้อของใช้ประจำวันที่นี่ กำลังรอผมเลิกงานครับ"
เซวียหลิงพยักหน้าให้กับคุณลุงร่างท้วม แล้วพูดขึ้น "คุณลุง สวัสดีค่ะ!"
คุณลุงร่างท้วมทำเสียง "เฮ้ๆ" ยิ้มแล้วเอ่ยชม "เมียอาหยวนหน้าตาดีมาก! เธอเป็นคนที่ไหน? ทำงานอะไร?"
เซวียหลิงตอบ "ฉันเป็นคนเมืองหลวงค่ะ เพิ่งมาหางานทำที่อำเภอหรงหวา ทำอยู่ที่สำนักหนังสือพิมพ์หรงหวา"
"ว้าว!" คุณลุงร่างท้วมหัวเราะ ทำหน้าชื่นชมยากที่จะซ่อน "ที่แท้ก็เป็นคนมีการศึกษา! ไม่แปลกใจที่อ่านหนังสือหรอก! สุดยอด! สุดยอด! เขียนหนังสือพิมพ์อะไรทำนองนั้น เป็นคนมีความสามารถสูงทั้งนั้น!"
หวังเจวียนที่อยู่ข้างๆ แอบเหลือบมองเซวียหลิง ก้มศีรษะลงอย่างละอายใจ
เดิมทีนึกว่าเฉิงเทียนหยวนเป็นคนชนบท คนที่แต่งงานด้วยจะต้องเป็นแค่สาวน้อยท้องถิ่นในชนบท
เธอชอบเฉิงเทียนหยวนมานานแล้ว เขาตัวสูงใหญ่หน้าตาหล่อ ขยันหมั่นเพียรแสวงความก้าวหน้า เป็นคนซื่อสัตย์ด้วย สร้างอนาคตที่ดีได้ไม่ช้าก็เร็ว น่าเสียดายที่เขามักจะทำหน้าตาเย็นชาบูดบึ้ง นอกจากเกรงอกเกรงใจในการทำงานแล้ว ก็ไม่เคยสนใจตน
เธออาศัยที่ตัวเองมาจากในเมือง เป็นคนบ้านเดียวกันกับเถ้าแก่ มักชอบทำตัวเหนือกว่าผู้อื่น แต่พบว่าเฉิงเทียนหยวนไม่เห็นคุณค่ามันเลย ไม่พอใจเขามาก
คิดว่าที่สหกรณ์ร้านค้ามีพนักงานหญิงแค่สองคน อีกคนแต่งงานไปแล้ว ยังไงเขาก็ต้องเลือกตน ทำตัวหยิ่งผยองรอเฉิงเทียนหยวนมาจีบ ใครจะไปรู้ว่าแค่แป๊บเดียวก็พบว่าเขาแต่งงานแล้ว!
ไม่ใช่แค่แต่งงาน ภรรยายังหน้าตาสวยมากด้วย ถึงขนาดพามาที่อำเภอ!
ในใจเธอทั้งอิจฉาและโกรธ เห็นสองสามีภรรยารักกันหวานเลี่ยน ตั้งใจมาอวดความรักที่สหกรณ์ร้านค้า แถมเฉิงเทียนหยวนก็ใส่ใจเอาน้ำชาไปให้ เธอเห็นแล้วโกรธจนกัดฟันกรอด!
นึกว่าเซวียหลิงเป็นแค่สาวน้อยในชนบท จงใจแสร้งทำตัวมีความรู้อ่านหนังสือตรงประตูทางเข้าสหกรณ์ร้านค้า อยากทำให้เซวียหลิงอับอาย จึงแอบไปด้านหลังเงียบๆ ตักน้ำหนึ่งขัน แล้วสาดใส่ทันที
ใครจะไปรู้ว่า----เถ้าแก่บังเอิญมาเห็นเข้า!
คิดไม่ถึงเลยว่าเฉิงเทียนหยวนจะแต่งงานกับภรรยาที่มาจากเมืองใหญ่ แถมทำงานที่สำนักพิมพ์ เป็นผู้มีการศึกษาอย่างแท้จริง!
นึกถึงตัวเองเคยเรียนถึงแค่ชั้นประถมหนึ่ง รู้ตัวอักษรแค่ไม่กี่คำ รู้สึกละอายใจและรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยสุดๆ