บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ได้งานแล้ว!

บทที่ 5

ได้งานแล้ว!

เรื่องในชาติก่อนถือเป็นประสบการณ์ของชาติก่อน สิ่งสำคัญกว่าคือเสิ่นหยาง ต่อให้นางกลายเป็นของคนอื่นไปแล้ว ผู้ชายคนนั้นยังคงยึดติดในตัวนาง ต้องการพานางกลับมาใช้ชีวิตร่วมกับเขา ถึงนางกับเขาจะไม่มีความรักระหว่างกันก็ตาม

ฉินหรูไม่เข้าใจความคิดของเสิ่นหยาง รู้เพียงว่าไม่อยากกลับไปอยู่กับเขา และไม่อยากให้คุณชายใหญ่สกุลอวิ่นรู้ว่าอดีตของนางไม่ได้ขาวสะอาด นางจึงวางแผนกำจัดเสิ่นหยาง

เรื่องราวจากนั้นอย่างที่รู้ๆ กัน นางตาย และย้อนกลับมาเมื่อสามปีก่อน

ตอนนี้นางทำได้แค่เลี้ยงดูอาเหยาให้ดี และรอให้เสิ่นหยางกลับมา เรื่องต่อจากนั้นค่อยคิดกันอีกที

.....

ตั้งแต่หน้าประตูโรงเตี๊ยมจนถึงห้องโถงภายใน ผู้คนมากมายยืนดูพร้อมวิพากษ์วิจารณ์การประลองทำอาหาร

ฉินหรูเดินผ่านฝูงชน เข้าไปหาชายสูงวัยที่อายุราวๆ หกสิบกว่า เขานั่งโต๊ะกลางห้อง ตรงหน้าของเขาเต็มไปด้วยอาหารที่ทำจากเต้าหู้ ทั้งยังถูกเสี่ยวเอ้อทยอยยกออกมาจากครัวทีละจาน

เพียงมองปราดเดียวก็รู้ทันทีว่าอาวุโสท่านนั้นคือพ่อบ้านเซวีย

ฉินหรูเดินเข้าไปหาอาวุโสท่านนั้นพร้อมกับยิ้มจนเห็นฟันขาว

“ท่านคงเป็นพ่อบ้านเซวีย?”

“ถูกต้อง ทำไมรึ” พ่อบ้านเซวียหันมาตอบ พร้อมถามด้วยสีหน้าสงสัย

“การประลองทำอาหาร ท่านกำหนดเพศและอายุของผู้เข้าประลองหรือไม่เจ้าคะ”

ฉินหรูวางตัวนอบน้อม ระหว่างคุยกับพ่อบ้านเซวียที่นั่งอยู่ นางจะค้อมตัวลง

พ่อบ้านเซวียสังเกตฉินหรูตั้งแต่หัวจรดเท้า สักครู่ก็พยักหน้าทีหนึ่ง “ขอแค่ไม่ได้มาทำอาหารเล่นๆ ข้าให้โอกาสทุกคน”

ฉินหรูได้ฟังอย่างนั้นพลันยิ้มสดใสออกมา “อย่างข้าเข้าทดสอบได้หรือไม่เจ้าคะ”

พ่อบ้านเซวียเลิกคิ้วมองฉินหรูอีกครั้ง

ผู้หญิงคนนี้อายุไม่ยังเต็มยี่สิบปี สวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบ รู้ทันทีว่าเป็นผู้หญิงบ้านนอก น่าจะทำอาหารเป็นแค่ไม่กี่อย่าง คงมาเพราะอยากได้เงินสองตำลึงเหมือนกับคนอื่นๆ แต่นางกลับวางตัวดี ผิวพรรณสะอาดสะอ้าน น่าประทับใจ

“เช่นนั้นเจ้าลองดู” พ่อบ้านเซวียบอก

หญิงสาวย่อกายพลางตอบขอบคุณ หลังจากนั้นเสี่ยวเอ้อก็เดินนำฉินหรูมายังห้องครัวหลังโรงเตี๊ยม

ฉินหรูมองวัตถุดิบบนโต๊ะ ส่วนใหญ่เป็นเต้าหู้และผัก

หญิงสาวครุ่นคิด สักครู่ นางหยิบหัวไชโป๊ออกมาสับ หั่นเต้าหู้กับเห็ดหอม เมื่อเตรียมวัตถุดิบพร้อมแล้ว นางหยิบกระทะขึ้นตั้งบนเตา ใส่น้ำมัน ผัดวัตถุดิบที่เตรียม จากนั้นก็ปรุงรส ท่าทางคล่องแคล่วของนางเรียกสายตาคนรอบข้างให้หันมอง

เมื่อทำอาหารเสร็จเรียบร้อย เสี่ยวเอ้อก็ยกอาหารออกมาให้พ่อบ้านเซวียชิม

แวบแรกที่เห็น สีหน้าของพ่อบ้านเซวียฉายแววตะลึง พอคีบผัดเต้าหู้เข้าปาก คราวนี้พ่อบ้านเซวียปิดบังความประหลาดใจบนใบหน้าไม่มิด

“ผัดเต้าหู้จานนี้เจ้าได้สูตรมาจากไหน?”

“ข้าคิดขึ้นมาเองเจ้าค่ะ”

จริงๆ แล้วฉินหรูฝึกทำอาหารจากบ้านสกุลอวิ่น อาศัยครูพักลักจำ พลิกแพลงสูตร และยังขอคำแนะนำจากพ่อครัวใหญ่จึงได้ผัดเต้าหู้จานนี้

เรื่องในอดีตช่างมันก่อนเถอะ นางอธิบายเพิ่มว่า “เต้าหู้มีรสจืด หากปรุงรสชาติให้เข้มข้นจะทำให้เต้าหู้จืดๆ มีรสกลมกล่อมเจ้าค่ะ อีกอย่าง พ่อบ้านเซวียไม่ได้กำหนดเงื่อนไขว่าต้องเป็นเมนูเจเท่านั้น ข้าจึงทำรสชาตินี้ขึ้นมา”

“อย่างนี้นี่เอง ไม่เพียงมีพรสวรรค์ เจ้ายังมีไหวพริบด้วย”

ชาวบ้านที่มาชมเรื่องสนุก พอได้ยินพ่อบ้านเซวียชมผู้เข้าประลองหญิงครั้งแรก ต่างก็พูดออกเป็นสองเสียง

ทางหนึ่งบอกว่าฉินหรูมีพรสวรรค์ คิดค้นสูตรอาหารเก่ง ทางหนึ่งบอกว่าแค่บังเอิญทำออกมาอร่อยเท่านั้นเอง ไม่ว่าอย่างไร ฉินหรูไม่สนใจ อาหารของนางเข้าตาพ่อบ้านเซวียก็พอ

“เจ้าเข้าใจถูกแล้ว อาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ ไม่จำเป็นต้องมีรสจืด แล้วเต้าหู้พวกนี้เจ้ายังทำอย่างอื่นได้อีกหรือไม่”

“ได้เจ้าค่ะ”

หลังจากตอบพ่อบ้านเซวียด้วยสีหน้ามั่นใจ ฉินหรูเข้าครัวอีกครั้ง คราวนี้นางทำเต้าหู้นึ่งเต้าซี่กับเต้าหู้ผัดซอสเผ็ด ทั้งสองจานยังคงมีรสชาติเข้มข้น พ่อบ้านเซวียจึงถาม

“เลือกทำแต่อาหารรสจัดเล่า”

“ข้าได้ยินว่าฮูหยินผู้เฒ่าเซวียกินข้าวไม่ลงมาสักพักแล้ว อาหารรสจัดจะช่วยเรียกน้ำย่อยทำให้อยากกินอาหารอย่างอื่นเจ้าค่ะ”

พ่อบ้านเซวียชมฉินหรูว่า ดี!

จากนั้นก็เป็นรู้กัน ฉินหรูชนะการประลองทำอาหาร ได้เงินมาสองตำลึง และยังถูกจ้างให้เป็นแม่ครัวชั่วคราว
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel