บทที่ 5 ฉันมาทำอะไรที่นี่ 1.5
เบลล์มองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเป็นประกาย ยัยตุ้ยนุ้ยต่อไปนี้ฉันจะใช้ชีวิตแทนเธอเองเธอคิดอย่างมีความสุข
...ชีวิตใหม่จ๋าเบลล์มาแล้ว...
เบลล์เข้ามาอยู่ในร่างยัยตุ้ยนุ้ยนี่ได้หนึ่งอาทิตย์แล้วเธอทำกิจวัตรประจำวันที่แปลกไปจากเดิมจนทุกคนคิดว่าเธอถูกผีเข้าแม้กระทั่งคุณปู่ที่มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง แต่เธอกลับยิ้มและพูดกับปู่เธอด้วยความจริงใจว่าตอนนี้เธอเปลี่ยนไปแล้ว
เพราะเหตุการณ์ที่เฉียดตายในครั้งนั้นทำให้เธอรู้ว่าการตายนั้นง่ายเพียงใดเพราะฉะนั้นต่อไปนี้เธอจะใช้ชีวิตของเธอให้มีความสุขเพื่อที่จะได้อยู่กับคุณปู่ไปนาน ๆ เพียงแค่นั้นคุณปู่เธอก็ยิ้มกว้างดีใจที่ได้ยินเธอพูดแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีสายตาหลายคู่ที่มองเธอเหมือนกับยังไม่แน่ใจว่าเธอนั้นเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ แต่เบลล์ก็ไม่สนใจยังทำตามที่ตัวเองต้องการ
ตอนนี้เธอหันมาปรับเปลี่ยนอาหารการกินทุกอย่างของเธอรวมถึงของคุณปู่เธอด้วย เธอส่งรายการอาหารพร้อมเครื่องปรุงต่าง ๆ ที่ต้องการให้แม่ครัวจัดการตามที่เธอจัดให้สำหรับหนึ่งอาทิตย์ และไม่ใช่เพียงแค่อาหารของเธอเท่านั้น ของคุณปู่เธอก็เป็นคนดูแลด้วยเหมือนกัน
โต๊ะอาหาร
"วันนี้หนูจะไปไหนรึเปล่า" เสียงแหบแห้งของคุณปู่ถามขึ้นเบลล์ตอบทันทีอย่างไม่ต้องคิดพลางตักอาหารทานไปด้วย
"เบลล์ว่าจะไปฟิตเนสค่ะ"
เคล้ง!! ทันทีที่เธอพูดจบช้อนในมือคุณปู่ก็ร่วงกระทบจานเสียงดังคำว่าเข้าฟิตเนสคงเป็นคำที่ทำให้ชายชราไม่น้อยเพราะรู้ว่าหลานสาวคนนี้ไม่ชอบการออกกำลังกายเป็นที่สุด พอเบลล์เห็นอาการตกใจของคุณปู่ก็หัวเราะออกมา
"คุณปู่คะ อย่าทำหน้าแบบนั้นแค่เบลล์ไปออกกำลังกายเองก็เบลล์บอกแล้วว่าเบลล์เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ นะคะ" เบลล์ส่งสายตาปริบ ๆ ส่วนคุณปู่หัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทางของหลานสาวที่ไม่เคยเห็น นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่เห็นความสดใสของหลานสาวคนนี้คิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เห็นซะแล้ว
"เอาเถอะดีแล้ว ๆ ยังไงปู่ก็ตามในหลานรักของปู่อยู่แล้ว" คนแก่พูดด้วยความอารมณ์ดี แต่นั่นก็ทำให้เบลล์คิดแย้งออกมาก็เพราะว่าคุณปู่ของเบลล์เป็นอย่างนี้ไง ยัยตุ้ยนุ้ยถึงได้เอาแต่ใจร้ายกาจถึงเพียงนั้น เฮ้อจะว่าไปแล้วถ้าจะผิดคนแรกที่เป็นต้นเรื่องก็คงจะเป็นคนแก่ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะนี่แหละ ตามใจเก่ง!
"แล้ววันนี้คุณปู่มีงานไหมคะ"
"เหมือนจะมีประชุมใช่ไหมเจนภพ" ไตรภพหันไปถามเลขากึ่งผู้รับใช้ส่วนตัวและได้รับคำยืนยัน
"ครับคุณท่านมีประชุมผู้ถือหุ้นตอนสิบเอ็ดโมงเช้าและก็มีอีกทีช่วงสิบสี่นาฬิกาครับ"
"โอเคค่ะถ้าอย่างนั้นเบลล์ไปเตรียมตัวดีกว่า คุณปู่ก็อย่างเครียดนะคะ สวัสดีค่ะลุงเจนภพเบลล์ไปก่อนนะคะฝากเตือนคุณปู่ให้ทานข้าวตรงเวลาด้วยแล้วก็ต้องเป็นอาหารตามที่เบลล์ส่งรายการให้นะคะ" เบลล์พูดจบก็ลุกจากเก้าอี้ไม่ลืมเข้าไปหอมแก้มเอาใจคนแก่และยกมือไหวคุณลุงเจนภพที่เป็นเพียงพนักงานคนหนึ่งซึ่งยัยตุ้ยนุ้ยนั้นไม่เคยทำเลยสักครั้งและนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ไตรภพนั้นรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ทันทีที่ร่างตุ้ยนุ้ยเดินออกไปไตรภพก็หันไปพูดกับเลขาด้วยใบหน้าที่เบิกบานใจ ตอนนี้เบลล์ยกมือไหว้เจนภพ เจนภพยังตั้งตัวไม่ทันเลยไม่ได้ยกมือรับไหว้เขาได้แต่ยืนนิ่งค้างอยู่แบบนั้นใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจพอหันมามองนายท่านก็เห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
"เป็นไงล่ะยัยตุ้ยนุ้ยของฉันเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ" เสียงแหบแห้งยินดีก่อนจะตักอาหารทานด้วยหัวใจที่ชุ่มฉ่ำพลางทำให้ชายวัยกลางคนยิ้มรับออกมายอมรับด้วยความยินดีไม่ต่างกัน
"ครับคุณท่านคุณหนูเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ " เพราะไม่มีใครไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ชายวัยกลางคนที่ทำงานกับคุณท่านมานานและเห็นความร้ายกาจของหลานท่านมาหลายครั้ง แต่หลังจากคุณหนูฟื้นจากการตกน้ำไม่รู้ว่าเป็นเพราะผ่านความตายมาแล้วอย่างที่คุณหนูได้พูดไว้หรือเปล่าทุกอย่างถึงได้ดีขึ้น ๆ แบบนี้
ส่วนเบลล์หลังจากเดินออกมาจากห้องอาหารก็เดินมายังสวนหลังคฤหาสน์เพื่อเดินออกมาย่อยก่อนที่จะไปอาบน้ำ เบลล์เดินมาเรื่อย ๆ จนมาหยุดที่สวนดอกไม้ เบลล์ที่เพิ่งเคยเดินเข้ามาหลังจากเข้ามาอยู่ในร่างนี้พอได้มองความสวยงามก็ให้รู้สึกถึงความเบิกบานใจ ไม่รู้ว่าในโลกที่เธอจากมานั้นจะมีใครนึกถึงเธอบ้าง ไม่ต้องพูดถึงไอ้ชั่วนั่นเพราะเธอไม่หวังให้มันมาร้องไห้ฟูมฟายที่เธอตายไป เธอแค่คิดว่าคนที่เธอรู้จักนั้นจะเศร้ากับการจากไปของเธอหรือไม่ อย่างคุณหญิงผกามาศและเพื่อนร่วมงานถ้ารู้ว่าเธอตายไปแล้วจะคิดถึงเธอบ้างไหมในฐานะคนรู้จักกันก็ยังดี เฮ้อเบลล์เอ๊ยดีแล้วที่เธอเข้ามาอยู่ในร่างนี้ เพราะอยู่ที่นั่นเธอก็ไม่มีใครอยู่ดี ชีวิตเธอนั้นโดดเดี่ยวยิ่งกว่าอะไรเลิกคิด ๆ
แปะ แปะ เสียงตบแก้มเสียงดังเพื่อเป็นการเรียกสติพร้อมใบหน้าอวบอูมที่ส่ายไปมาสลัดความคิดที่เหลวไหลเป็นท่าทางที่ดูแปลกประหลาดสำหรับคนที่มองมา
เบลล์หันมาสนใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าพลางยิ้มออกมาหลังจากคิดอะไรออกถ้าสวนดอกไม้นี้เต็มไปด้วยพืชผักล่ะ ใช่นอกจากสวนสวย ๆ จากดอกไม้เบลล์ยังอยากมีผักปลอดสารพิษไว้ทานเองอีกด้วยในเมื่อเธอมีเงินมากพอเพราะฉะนั้นเธอจะเสกมันขึ้นมาเบลล์ยิ้มกว้างจนนัยน์ตาปิดก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา เบลล์กดสั่งเมล็ดพันธุ์ทันทีในหัวตอนนี้มีแต่บรรดาพืชผักที่ตัวเองต้องการที่เหลือก็เรียกพลคนงานให้มาปรับพื้นที่เท่านั้น
"เรียบร้อยต่อไปนี้เบลล์เธอจะได้ทานผักสดจากสวนของเธอเองแล้วนะคุณปู่ก็จะได้ทานผักปลอดสารพิษเหมือนกัน" เบลล์พูดออกมาคนเดียวพร้อมเดินสำรวจพื้นที่ในหัวตอนนี้ก็วางแผนไปด้วย
ท่ามกลางคฤหาสน์ที่กว้างขวางยังมีคฤหาสน์อีกหลังที่ตั้งตระหง่านอยู่อีกฟากหนึ่ง ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนที่กำลังลองกล้องส่องทางไกลตัวใหม่ที่เพื่อนส่งมาให้เพราะตัวเองเป็นคนที่ชอบสะสม แต่ไม่คิดว่าการลองส่องกล้องในระยะไกลจะเจอกับผู้หญิงอ้วนร้ายกาจคนนั้น อันที่จริงพอเห็นว่าคนที่อยู่ในกล้องนั้นเป็นใครเหมันต์ก็เปลี่ยนทิศทาง แต่เพราะท่าทางแปลก ๆ กับใบหน้าที่กึ่งบึ้งกึ่งยิ้มดูน่าตลกทำเอาเหมันต์ชะงักก่อนจะปรับโฟกัสไปที่ร่างอ้วนกลมของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้น ไม่รู้เมื่อไหร่ที่จุดโฟกัสของกล้องจับอยู่ที่ยัยตุ้ยนุ้ยเพราะอาการที่แปลกประหลาดทำให้เหมันต์รู้สึกแปลกใจเพราะเท่าที่จำได้คนคนนี้ไม่น่าจะมีอารมณ์สุนทรีย์แบบนี้แถมช่วงนี้คนคนนี้ยังไม่เข้ามากวนใจเขาอีก ทั้งที่เธอคนนั้นต้องตามติดเขาอย่างกับตุ๊กแกช่างสรรหาเรื่องมาเจอ มานั่งเฝ้า แต่นี่ก็อาทิตย์หนึ่งแล้วที่ผู้หญิงคนนั้นหายเงียบไปก็ตั้งแต่ที่มีเรื่องทำร้ายร่างกายกันอาทิตย์ก่อน
น่าแปลก..