บทที่ 4 ฉันมาทำอะไรที่นี่ 1.4
"เธอเป็นใคร" เสียงอ่อนหวานพูดที่ขึ้นทำเอาเปรียวสะดุ้งเฮือกมองคุณหนูที่ทำท่าแปลกไปสายตามองล่อกแล่กไปมาเหมือนกับว่าไม่คุ้นเคย ทั้ง ๆ ที่นี่ก็เป็นห้องที่คุณหนูอยู่มาตั้งแต่เด็ก แต่เหมือนกับว่าเธอนั้นจ้องคุณหนูนานเกินไปพอเห็นสายตาคุณหนูที่ตวัดมองมาเธอก็ทรุดลงนั่งตัวสั่นด้วยความกลัวสองมือยกกุมหัวทันทีดูก็รู้ว่ากลัวขนาดไหน
"คุณหนูอย่าทำอะไรเปรียวเลยนะคะ" เสียงร้องไห้ของเด็กสาวตรงหน้าทำเอาเบลล์งุนงงหนักกว่าเดิม นี่ยัยตุ้ยนุ้ยเธอนี่มันร้ายกาจนักนะ ขนาดคนที่อยู่ข้างการของเธอยังจะทำร้ายได้ลงคอ
เบลล์รู้สึกหดหู่กับความโหดร้ายของนางร้ายในเรื่องยัยตุ้ยนุ้ยนั่นร้ายจริง ๆ แหละอะไรไม่ได้ดั่งใจก็เอามาลงกับคนรับใช้ที่ชื่อเปรียวทุกครั้ง เปรียวถือว่าเป็นที่รองมือรองเท้าถูกทุบตีระบายอารมณ์มาตลอด ดูอย่างตอนนี้สิหลักฐานบนใบหน้าของเปรียวยังมีรอยช้ำเป็นสีม่วงอยู่เลยและคิดว่าภายใต้เสื้อผ้าของเปรียวนั้นก็ยังมีรอยเล็บจากการหยิกอยู่แน่ ๆ ในเนื้อหายังระบุอีกว่าเปรียวนั้นเป็นเด็กที่โตมาจากสถานเลี้ยงกำพร้าแล้วปู่กับย่าของยัยตุ้ยนุ้ยที่เป็นเจ้าของสถานที่นั้นนำเปรียวมาเลี้ยงเพื่อให้เป็นเพื่อนเล่นมาตั้งแต่เด็ก ถึงเปรียวจะอยู่ดีกินดีแต่เพราะยิ่งโตมาหน้าตาของเปรียวก็มีความสวยสดใสไปตามวัยแถมยังหุ่นดีไม่อ้วนตุ้ยนุ้ยเหมือนกับเบลล์ แต่เพราะความขี้อิจฉาเบลล์จึงทำร้ายเปรียวและไม่เคยพูดจาดีด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเปรียวก็ยังยืนเคียงข้างเจ้านายของเธอจนวาระสุดท้าย เบลล์อดสงสารตัวประกอบอย่างเปรียวไม่ได้จริง ๆ
แต่ไม่เป็นไรในเมื่อตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้แล้ว ถึงแม้จะเข้ามาเป็นตัวร้ายที่เธอเพิ่งสาปแช่งให้นางร้ายไม่ตายดีก็ตามแล้วยังเป็นตามที่เธอสาปแช่งเอาไว้อีก ชิ!!ก็ใครจะคิดล่ะ ว่าเธอจะเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้กันล่ะ!! เบลล์ครุ่นคิดก่อนจะคิดออกก็ถ้าเธอไม่อยากมีจุดจบแบบในนิยายเธอก็ไม่ควรเล่นไปตามบท
ใช่แล้ว...ต่อไปนี้นิยายเรื่องนี้เธอจะเป็นคนกำกับบทเอง!
เริ่มเลอออ...
"เปรียวต่อไปนี้เปรียวเรียกฉันว่าคุณเบลล์ก็พอนะคุณนงคุณหนูอะไรไม่ต้องเรียกแล้ว แล้วก็ไม่ต้องกลัวอะไรขนาดนั้นเห็นแล้วขัดตาชะมัด เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันจะไม่ทำร้ายเธอแล้ว ได้ยินที่ฉันพูดไหม" เบลล์พูดกับเปรียวที่ยังมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นตัวยังสั่นด้วยความกลัว เบลล์มองเปรียวที่เงยหน้าขึ้นมามองเธอด้วยสายตาที่เหมือนเห็นผี เอ๊ะหรือว่าเปรียวมีจิตสัมผัสเห็นว่าเธอเป็นวิญญาณจริง ๆ เอไม่สิ!ในนิยายไม่มีเนื้อหาแบบนั้นนี่นาหรือเพราะว่าสิ่งที่เธอพูดออกไปเมื่อกี้ พอเบลล์คิดได้แบบนั้นเธอก็ยิ้มกว้างส่งให้เปรียวอีกครั้งและปฏิกิริยาจากเปรียวก็บอกว่าเธอนั้นคิดไม่ผิด เหมือนเปรียวจะช็อกไปแล้ว เอาเถอะแค่นี้พอก่อนไม่อย่างนั้นเปรียวได้ช็อกไปจริง ๆ แน่
ส่วนเปรียวที่ได้ยินคุณหนูตัวเองพูดดวงตาของเธอแทบถลนออกมานอกเบ้า ไม่อยากเชื่อหูเลยด้วยซ้ำแล้วคำพูดเมื่อกี้คืออะไรเธอไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหมแต่จะเป็นไปได้จริงหรือ เปรียวมองคุณหนูด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย พอคุณหนูตื่นขึ้นมาก็มีอาการแปลก ๆ แถมในตอนนี้คือสายตาของคุณหนูที่มองมาที่เธอด้วยสายตาต่างจากเมื่อก่อนอย่างกับคนละคน เมื่อก่อนนี้คุณหนูของเธอมักจะมองมาที่เธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ซึ่งเปรียวก็ไม่รู้ว่าเธอไปทำอะไรให้คุณหนู เธอไม่แม้แต่จะขัดใจคุณหนูด้วยซ้ำถึงแม้คุณหนูจะทุบตีทำร้ายร่างกายเธอขนาดไหนเธอก็ไม่ปริปากฟ้องใครและยังเชื่อฟังคุณหนูเป็นอย่างดีทำตามที่คุณหนูสั่งทุกอย่างถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องไม่ดีก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีสักครั้งที่คุณหนูจะมองด้วยสายตาอบอุ่นอย่างตอนนี้
แปลก คุณหนูแปลกจริง ๆ นั่นแหละ เปรียวคิดอย่างคนที่อยู่กับคุณหนูมานานเพียงแค่เห็นความผิดปกติเล็กน้อยเธอก็สามารถจับสังเกตได้ แต่ว่าจะเป็นไปได้ยังไงกันคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้จริงเหรอ
"หึ หึ"
เบลล์ที่เห็นเปรียวทำท่าตื่นตะลึงมองเธอจนตาแทบจะปลิ้นออกมาจนดูน่าตลกก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้จริง ๆ แต่เสียงหัวเราะของเธอนั้นยิ่งทำให้เปรียวช็อกหนักมากขึ้นเพราะนานแล้วที่เธอไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของคุณหนูนอกจากใบหน้าที่บึ้งตึงกับดวงตาที่แข็งทื่อเท่านั้น
"เอาเถอะ ๆ ฉันขอนอนพักสักหน่อยก็แล้วกัน เออแล้วก็หาอะไรมาให้ฉันกินด้วยนะเอาแค่สลัดอกไก่จานเดียวพอเอาน้ำสลัดงานะ" เบลล์สั่งคนรับใช้ก่อนจะนอนลงไปอีกครั้ง ปล่อยให้เปรียวมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายก่อนจะวิ่งออกไปเพื่อทำเอาหารเข้ามา
เบลล์ที่แกล้งหลับก็ลุกขึ้นสายตามองไปรอบ ๆ ห้องนอนใหญ่ที่มีสภาพอึมครึมไม่เข้าใจรสนิยมของยัยตุ้ยนุ้ยเลยจริง ๆ อยู่เข้าไปได้ยังไง โคตรจะหดหู่ แต่ว่าวันนี้วันที่เท่าไรแล้วนะ เบลล์พึมพำกับตัวเองมือบางหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูรุ่นใหม่ล่าสุดขึ้นมาดู ดวงตาของเธอเบิกกว้างนี่เธอกลับเข้ามาในเรื่องที่เพิ่งจะเริ่มเองหรือเนี่ยะ ช่วงต้น ๆ นี่ยัยตุ้ยนุ้ยนั้นแสดงความร้ายกาจออกมาเต็มที่เหมือนกับว่าคนเขียนบทนั้นโกรธแค้นนางเอกมาแต่ชาติปางก่อนถึงวางพล็อตให้นางเอกโดยยัยตุ้ยนุ้ยรังแกสารพัด
ชิ!เริ่มเกลียดคนเขียนบทขึ้นมาแล้วนะ ต่อไปนี้ฉันจะกำกับเองแล้วนะเบลล์สัญญากับตัวเองแน่วแน่
แต่ว่า..อันดับแรกเธอต้องเปลี่ยนห้องนอนให้น่าอยู่ก่อน เบลล์เดินไปที่หน้าต่างที่มีผ้าม่านสีเข้มปิดสนิทสองมือของเธอสะบัดผ้าม่านแยกออกกว้างไปคนละด้านก่อนจะเบิกตาโพลงกับภาพวิวตรงหน้า
โอ้วว...สวรรค์ของแทร่ ยัยเบลล์เอ๊ยตายแล้วไม่เสียเปล่าจริง ๆ อย่างน้อยเกิดมาในนิยายก็ไม่แย่ ทั้งสระน้ำทั้งลานหน้าบานที่กว้างเสียจนสามารถนำเฮลิคอปเตอร์มาจอดได้ เธอมองจากตรงนี้ยังไม่เห็นรั้วที่หน้าบ้านเลยด้วยซ้ำไม่ต้องบอกก็รู้ว่าปู่ของเธอนั้นรวยมากขนาดไหนตอนนี้เหมือนกับว่าเธอนั้นยืนอยู่บนหอคอยงาช้าง ยัยตุ้ยนุ้ยเอ๊ยเธอพลาดแล้วแค่ผู้ชายคนเดียวไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนั้น ชีวิตความสุขอยู่ตรงหน้าแท้ ๆ ทั้งที่เธอมีคุณปู่ที่รักเธอเสียยิ่งกว่าอะไรตามใจไปเสียทุกอย่างกลับวิ่งไล่ตามความรักจากคนที่ไม่ได้รัก เพียงแค่สายตาเขาก็ไม่เหลือบมองช่างน่าสมเพชจริง ๆ
เบลล์มองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเป็นประกาย ยัยตุ้ยนุ้ยต่อไปนี้ฉันจะใช้ชีวิตแทนเธอเอง