บทที่ 2 ฉันมาทำอะไรที่นี่ 1.2
"วันนี้ยกเลิกนัดไปก่อนก็แล้วกันนะครับแยกย้ายกันกลับบ้านดีกว่าตอนนี้พี่เองก็เหนื่อยเต็มทีเอาไว้นัดกันวันที่เบลล์ไม่ต้องทำงานก็ได้ครับ " คำพูดที่เหมือนต่อว่าอยู่กลาย ๆ ทำเอาเบลล์รู้สึกผิดขึ้นมา แต่ว่าตอนนี้พี่กรก็ยังไม่ได้กลับบ้านนี่นาถ้าอย่างนั้นเธอไปเซอร์ไพรส์ดีกว่า เบลล์คิดอย่างลั่นล้าบวกกับความคิดถึงแฟนหนุ่มที่ไม่ค่อยได้เจอ พอมีนัดเจอกันเธอก็ดันมาทำเสียเรื่องไปอีก เอาเป็นว่าหาเรื่องไปขอโทษพี่กรก็แล้วกัน เบลล์ขับรถออกมาจากที่ทำงานไปยังจุดหมายปลายทางทันที
เธอขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านจัดสรรขนาดกลาง สายตามองเข้าไปบ้านคนรักด้วยความรู้สึกแปลกใจเพราะรถที่จอดขนาบกันสองคันนั้นสะดุดตาเธอไม่น้อย รถฟอร์ดสี่ประตูนั่นใช่ของแฟนเธอแน่นอนไม่ต้องสงสัย แต่รถ BMW สีขาวมุกป้ายแดงคันนั้นมันเป็นของใคร เธอไม่รอให้ตัวเองสงสัยอีกต่อไป
เบลล์ลงจากรถแล้วไขประตูเข้าไปในบ้าน เพราะเป็นคนรักกันแค่เรื่องกุญแจบ้านเธอก็ต้องมีอยู่แล้ว แถมยังเข้าออกมาก็หลายครั้ง แต่ตอนนี้เธอกลับไม่มั่นใจว่าการเข้ามาในตอนนี้ของเธอนั้นมันจะดีหรือเปล่า
เบลล์เดินมาสำรวจรถ BMW ที่จอดอยู่ก่อนที่สายตาจะไปปะทะกับรองเท้าสั้นสูงสีแดงแปร๊ดที่วางคู่กับรองเท้าหนังมันเงาที่เธอนั้นจำได้ว่าเป็นของแฟนเธอ ภายในใจรู้สึกหวาดหวั่นอย่างบอกไม่ถูกหรือว่าเธอควรจะกลับดีนะ เบลล์คิดหนักกับสถานการณ์ตรงหน้าพลางเดินไปเดินมาอย่างครุ่นคิด และคิดถึงหลายเรื่องที่ผ่านมาระหว่างเธอกับแฟนหนุ่ม คิดถึงความผิดปกติที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไรน่าสงสัยเพราะเธอกับเขานั้นก็โทรคุยกันทุกวัน มาหากันทุกอาทิตย์นัดเจอกันข้างนอกบ้าง
แต่เอ๊ะ!! เบลล์นึกขึ้นมาได้ว่าตอนที่โทรคุยกันแฟนของเธอจะบอกเวลาที่แน่นอนว่าต้องเป็นช่วงไหนและทุก ๆ วันก็เป็นแบบนั้นมาตลอดโดยอ้างว่าต้องพักผ่อนต่อ ส่วนการที่นัดให้เธอมาที่บ้านนี้ก็เป็นแค่เฉพาะวันเสาร์เท่านั้นเพราะวันอาทิตย์เขาอ้างว่าพ่อแม่มาหาและเธอก็เข้าใจได้ว่าวันอาทิตย์ถือเป็นวันครอบครัวของเขา เพราะพ่อแม่ของเขาไม่ชอบเธอและเขาเองก็รู้เธอจึงหลีกเลี่ยงเพราะไม่อยากฟาดฟันกับบุพการีของเขาที่คอยแต่จะดูถูกเหยียดหยามเธอ ถึงไม่พูดแต่บางครั้งการที่ถูกมองด้วยสายตาที่ด้อยค่าเธอนั้นก็ทำเอาเธออยากจะด่ากราดอยู่เหมือนกัน ถ้าไม่ติดว่าเป็นพ่อแม่แฟนเธอคงถอนหงอกไปแล้ว
เบลล์รู้ว่าครอบครัวขอแฟนหนุ่มรังเกียจเธอมากขนาดไหน หลังจากเธอถูกพาไปพบพ่อแม่แฟนครั้งแรกเธอก็รู้แล้วว่าทั้งสองคนนั้นไม่ชอบเธอ เพียงเพราะว่าเธอเป็นแค่เด็กกำพร้าที่เติบโตมาด้วยการกัดฟันดิ้นรนมาด้วยตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ภูมิใจที่เธอมาถึงจุดนี้ได้ เธอเป็นถึงนักโภชนาการมือหนึ่งของประเทศมีชื่อเสียงไม่น้อย หลายที่ต้องการตัวเธอแต่ที่เธอเลือกมาทำงานงานที่นี่ก็เพราะต้องการอยู่ใกล้คนที่เธอรัก
เธอจึงละทิ้งโอกาสที่จะเติบโตแต่พวกเขาก็ยังดูถูก
ช่างเถอะ!! เบลล์คิด ก็มาถึงขั้นนี้แล้วเธอจะมาสนใจคนที่ด้อยค่าเธอทำไมกัน ชิ!ยิ่งคิดก็ยิงหงุดหงิด แต่ว่าตอนนี้เธอต้องตั้งสติก่อนนะยัยเบลล์ เธอจะมาเดินวนเวียน เวียนวนอยู่แบบนี้ไม่ได้ เบลล์ตั้งสติสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดถึงจะรู้สึกตงิดในใจก็ตามยิ่งเป็นคนเซ้นต์ดีอยู่ด้วย มีแฟนมาแล้วสามคนนอกใจเธอทั้งหมดสามคนและตอนนี้สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นซ้ำมันกลับตอกย้ำเธอ
เอาล่ะ..ยัยเบลล์อย่าเพิ่งคิดอะไรไปไกล เบลล์ปลอบใจตัวเองก่อนจะเดินตรงไปที่ประตูเธอหมุนลูกบิดพบว่ามันไม่ได้ล็อก เธอค่อย ๆ เปิดประตูแล้วเดินเข้าไปจะบอกว่าย่องก็ไม่ผิดนัก ในบ้านทุกอย่างยังดูเหมือนเดิมแต่สิ่งที่สะดุดตาของเธอคือกระเป๋าผู้หญิงที่วางอยู่บนโซฟา
เอาล่ะ!! เบลล์มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิด เบลล์ยังเชื่อมั่นอย่างนั้นทั้งที่ใจคิดไปไกลเบลล์เดินย่องขึ้นบันไดชั้นสองตรงไปยังห้องนอนที่คุ้นเคยไม่นานนักก็มายืนอยู่ที่หน้าห้องที่เปิดประตูแง้มไว้ แต่เสียงที่เล็ดลอดมาจากในห้องทำเอาเบลล์ตัวชาวาบไม่ต้องบอกว่าในห้องนั้นกำลังมีกิจกรรมอะไรเบลล์ยืนนิ่งแข็งค้างกับเสียงพูดเสียงครางที่ดังออกมาไม่หยุด และใช่เสียงผู้ชายเป็นเสียงของคนรักของเธออย่างแน่นอนแล้วยังจะได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกชื่อแฟนเธอตลอดเวลานั่นอีก
นังดีดี้อีนังสารเลว ไหนว่าเป็นรุ่นน้อง รุ่นน้องเhี้ยไรเอากันวะ!
"อ๊ะ พี่กร เสียวไหมคะดีดี้ทำดีหรือเปล่า"
"อ่าดีครับ ดีมากพี่ชอบ"
"ดีกว่าแฟนพี่ไหมคะ"
"อย่าไปพูดถึงเธอเลยครับ คนอะไรจืดชืดอย่างกับปลาตาย อ่าา..ดีดี้เก่งมากครับขย่มพี่แรง ๆ เลยครับ ซี๊ดดด"
เสียงชายหญิงสองคนที่พูดกันระหว่างทำกิจกรรมนั้นทำเอาเบลล์รู้สึกโกรธจัดจนควันออกหู ไม่ต้องรอช้าเบลล์ถีบประตูเข้าไปอย่างแรงจนสองคนที่กำลังมีความสุขจากกิจกรรมอันลามกพลันตกใจทั้งสองหยุดบรรเลงเพลงรักแล้วหันมามองเธอที่ยืนจังก้าอยู่หน้าห้องไม่บอกก็รู้ว่าตอนนี้เธอนั้นเดือดดาลขนาดไหน เท้าเรียวก้าวฉับ ๆ ไปยังสองร่างที่เชื่อมต่อกันอยู่ฝ่าเท้ายันไปยังผู้หญิงที่กำลังอ้าปากค้างมองมาที่เธอด้วยอาการตกตะลึง
ผลั๊ก!! เท้าเรียวยันไปที่ร่างเล็กของผู้คนนั้นเต็มแรงจนผู้หญิงคนนั้นกระเด็นตกเตียงพร้อมกับเสียงหวีดร้องด้วยความตกใจแต่เบลล์ก็ไม่สนเพราะตอนนี้เธอโกรธมาก สายตาที่พร้อมจะฆ่าคนหันไปมองคนรักที่กำลังตื่นตะลึงไม่รอช้าเธอปีนเตียงขึ้นไปอย่างหมายมั่น
ตุบ!! ตุบ!! เสียงฝ่าเท้ากระทืบไปยังช่วงกลางกายที่กำลังห่อเหี่ยวทำเอาผู้ชายตรงหน้าร้องอย่างโหยหวนเพราะมัวแต่อยู่ในอาการตกใจเลยไม่ทันได้ขยับตัวหนีจึงโดนฝ่าเท้ากระทืบลงมาเต็ม ๆ ทั้งจุกทั้งเจ็บจนหน้าดำหน้าแดงแต่เบลล์ก็ไม่ปล่อยให้ผู้ชายคนนี้รอดไปง่าย ๆ
"อ๊ากกกก!!"
"ไอ้กร ไอ้ชั่วสารเลวเอ๊ย..นอกใจกูยังไม่พอยังจะกูมาพูดว่ากูจืดชืด กูถามหน่อยมึงกับกูไปได้กันตอนไหนห๊ะ!!! ไอ้ปากไม่มีหูรูดอย่าใช้งานอีกเลยมึง" เบลล์กดฝ่าเท้าขยี้ซ้ำไปยังจุดนั้นของคนที่เคยพร่ำบอกว่ารักเธอ
เบลล์โถมตัวเองลงมาทั้งตัวก่อนจะผละออกแล้วตวัดเท้าเข้าไปบนใบหน้าผู้ชายตรงหน้าที่ไม่อยากเรียกว่าคนรักได้อีก เสียงเท้าตัดอากาศปะทะใบหน้าเสียงดังจนเธอพอใจ ให้สาสมกับการถูกทรยศ
"อ๊ากกกก ปล่อย โอ๊ยย!!ช่วยด้วยผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้ว เธอจะฆ่าผม ช่วยด้วย!!" เสียงร้องอย่างโหยหวยไม่ทำให้เบลล์หยุดสิ่งที่ทำ
ผลั๊ว!!
เบลล์จบทุกอย่างด้วยความรวดเร็วถึงแม้ในใจจะเจ็บปวดกับการกระทำของผู้ชายตรงหน้าก็ตามแต่ความเจ็บแค้นมันมีมากกว่าเธอขยี้จุดตายอีกครั้งส่งท้ายก่อนจะหันหลังวิ่งกลับออกมาสตาร์ทรถขับออกไป
จบสิ้นกันทีชีวิตรักอันแสนสุขตลอดห้าปี เบลล์ขับรถออกมาด้วยน้ำตานองหน้า ใครว่าเธอไม่เสียใจ
แม่ง..เจ็บฉิบหาย เhี้ยเอ๊ยแล้วจะร้องไห้อะไรนักหนา!
เบลล์ขับรถไปร้องไห้ไปเพราะน้ำตามันไหลไม่หยุดด้วยความเจ็บปวดและเสียใจเธอเหยียบทะยานพุ่งด้วยความลืมตัวดวงตาพร่ามัวเห็นไฟสีเหลืองอยู่ตรงหน้าแต่เท้ากับเหยียบคันเร่งแทนการแตะเบรกก่อนจะได้ยินเสียงบีบแตรลากยาวมาจากด้านข้างเบลล์หันไปมองด้วยความตกใจ ไฟกะพริบของรถบรรทุกที่แล่นตรงเข้ามาเหมือนกับโกรธแค้นมาแต่ชาติปางก่อนเพียงชั่วพริบตาเดียวทุกอย่างกับมืดไปหมด
เอี๊ยดดด....ปัง!!!