บท
ตั้งค่า

บทที่ 10 การเจอกันครั้งแรกของพระเอก 1.5

"แล้วเรื่องถอนหมั้นคุณท่านคิดว่ายังไงครับ" เพราะเรื่องที่คุณหนูแจ้งกับเจ้านายว่าต้องการถอนหมั้นเพราะรู้ว่าคู่หมั้นนั้นไม่ได้รักใคร่ในตัวเองและยังพูดอีกว่าคู่หมั้นของคุณหนูนั้นรักใคร เขาและคุณไตรภพที่ได้ยินก็ต่างพากันตกใจไม่คิดว่าคู่หมั้นของคุณหนูจะรักกับผู้หญิงคนนั้น แต่พอได้รับการยืนยันจากคุณหนูอย่างหนักแน่น คุณไตรภพก็เหมือนกับพูดไม่ออกอยู่เหมือนกัน เพราะคิดว่าทั้งสองคนนั้นเหมาะสมกันแล้วยิ่งตอนนี้คุณหนูก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีมาก ๆ เขายังคิดว่าทั้งคู่เหมาะสมกันเลยถึงแม้จะไม่เคยเห็นทั้งคู่เดินเคียงข้างหรือใกล้ชิดกันแต่เหมือนกับเป็นความรู้สึกข้างในลึก ๆ ว่ามันเป็นอย่างนั้น

ไตรภพที่ได้ยินเลขาคนสนิทพูดก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ นี่เป็นอีกเรื่องที่คิดไม่ตกเพราะผู้ชายคนนั้นอันที่จริงเป็นคนที่ไตรภพอยากฝากฝังหลานสาวคนเดียวให้ แต่ถ้าเป็นอย่างที่หลานสาวพูดว่าคู่หมั้นของเธอรักใคร ไตรภพก็จะไม่รั้งผู้ชายคนนั้นเอาไว้ แต่ต้องขอคุยกันให้เข้าใจกันอีกสักครั้งก่อน ถ้าได้รับการยืนยันจากผู้ชายคนนั้นว่ามีคนรักจริงไตรภพก็จะจบยกเลิกเรื่องการหมั้น

เพราะตอนนี้เขาให้ความสำคัญของหลานสาวเพียงคนเดียวมาก ถ้าหากต้องแต่งงานไปแล้วไม่มีความสุขคนแก่อย่างเขาคงตายตาไม่หลับ

"สงสัยต้องให้นายโทรนัดคุณจักรกฤติเร็ว ๆ นี้" ถึงแม้ว่าคฤหาสน์อยู่ใกล้กันและเป็นครอบครัวที่รู้จักคุ้นเคยกันมานานไตรภพก็ไม่ค่อยได้คุยกับจักรกฤติมากนักเพราะแต่ละคนก็หัวหมุนอยู่กับการทำธุรกิจของตัวเอง นานครั้งถึงจะมีพบปะกันบ้างและเรื่องนี้เห็นมีว่าจะรอไม่ได้ถ้าเกิดมีข่าวเรื่องคู่หมั้นของหลานสาวกับผู้หญิงคนอื่น ถึงแม้จะเป็นคนที่ผู้ชายคนนั้นรักแต่มันก็ส่งผลกระทบต่อหลานสาวเขาอย่างแน่นอนไตรภพเองก็คิดว่าดีแล้ว

"นัดวันเสาร์หน้าเลยก็แล้วกันดูว่าทางนั้นว่างไหมฉันมีธุระสำคัญจะคุยด้วย"

"ครับนายท่าน" เจนภพรับคำสั่งแล้วจดกำหนดการนัดหมายลงในไอแพดอย่างเลขาที่ดี

ไตรภพมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างคิดเสียว่าผู้ชายคนนั้นไม่มีวาสนากับหลานสาวของเขาเอง

แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องราวมันไม่ได้เป็นแบบนั้น

...

ทางด้านของเบลล์หลังจากส่งคุณปู่แล้วเธอก็เดินเข้ามาที่สวนผักที่เธอลงมือปลูกเอง เบลล์มองพื้นที่ที่เคยว่างแต่ตอนนี้กลายเป็นโรงเรือนขนาดเล็กที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เบลล์ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เธอจัดนู่นตกแต่งนี่ไปเรื่อยนอกจากจะใช้เพาะปลูกผักต่าง ๆ เบลล์ยังจัดเป็นสวนมุมสวยงามโชว์ต้นไม้และใช้เป็นมุมพักผ่อนอีกด้วย เบลล์รู้สึกภูมิใจไม่น้อยที่ได้ทำอะไร ๆ ตามที่ตัวเองต้องการ ในโลกปัจจุบันเธอไม่เคยได้พัก ทำงานหามรุ่งหามค่ำมาตั้งแต่เด็ก ชีวิตมีแต่การทำงานสิ่งที่ทำให้เบลล์ผ่อนคลายหายเหนื่อยจากการทำงานน่าจะเป็นการอ่านหนังสือนิยายที่เธอชื่นชอบเท่านั้น และตอนนี้เธอก็ยังชื่นชอบอยู่ จะว่าไปก็เพราะนิยายไม่ใช่เหรอที่ทำให้เธอมีชีวิตใหม่คิดแล้วก็ตลกกับชีวิตที่พลิกผัน อยากของคุณแม่นางฟ้าคนนั้นที่ส่งเธอมามีชีวิตใหม่ ขอบคุณที่เธอมีจิตใจเมตตาจนเบลล์อยากจะยกย่องให้เธอเป็นนางฟ้าแม่ทูนหัวเบลล์คิดไปยิ้มไป

ทางฝั่งของนางฟ้าที่เบลล์ยกย่องให้เป็นนางฟ้าแม่ทูนหัวอันที่จริงเธอเป็นเพียงยมทูตฝึกหัด

อันที่จริงเบลล์นั้นดวงยังไม่ถึงฆาตแต่เพราะความผิดพลาดเป็นความสะเพร่าของเธอที่ไม่ได้ตรวจดวงชะตาให้ดีก่อน ดวงวิญญาณที่ บริสุทธิ์ของเบลล่าเลยถูกเธอพามา เธอเพิ่งมารู้ตอนที่กำลังจะส่งวิญญาณดวงนี้เข้าสู่นรกแต่กลายเป็นว่าวิญญาณโปร่งแสงของเธอนั้นจิตใจกลับขาวสะอาดซึ่งเกิดจากการสั่งสมบุญ หลังจากยมทูตฝึกหัดตรวจสองดวงชะตาอีกครั้งจึงรู้ว่าเธอทำเรื่องร้ายแรงอย่างมหันต์ ยมทูตฝึกหัดจึงไปขอความช่วยเหลือจากยมทูตอาวุโสและแจ้งเรื่องราวเหล่านั้น

ยมทูตอาวุโสแนะนำว่าให้หาชีวิตใหม่ให้เธอยมทูตฝึกหัดก็คิดไม่ตกว่าการหาชีวิตใหม่ให้คนคนหนึ่งที่ตายไปแล้วนั้นไม่ง่าย แต่ชั่วพริบตาเดียวสิ่งที่สะท้อนกลับมาภายในจิตใจของยมทูตฝึกหัดก็คือนิยายรักเรื่องหนึ่งที่เธอเห็นว่าคนที่เธอพรากชีวิตมาชอบอ่าน เธอส่งผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในนิยายเรื่องนั้น แต่ลืมระบุว่าต้องเป็นตัวไหน ชีวิตของเบลล์จึงได้เข้ามาในนิยายที่ถูกเขียนให้เป็นตัวร้าย แต่สิ่งที่ดีเริ๊ดในชีวิตของยัยตัวร้ายในนิยายก็คือความร่ำรวยของครอบครัวที่ชาตินี้ก็ไม่มีทางใช้เงินหมด ยมทูตฝึกหัดจึงไม่รู้สึกผิดที่เบลล์เข้าไปอยู่ในร่างของตัวร้ายเพราะวิญญาณของเบลล์นั้นเต็มไปด้วยความดีงามของบุญกุศลที่สั่งสมมาหลายชาติไม่ใช่แค่ชาติปัจจุบันชาติเดียว

"ต่อไปนี้ก็ใช้ชีวิตให้ดีขอโทษด้วยจริง" ยมทูตฝึกหัดกล่าวก่อนภาพที่ปรากฏตรงหน้าจะหายไป

เบลล์ใช้เวลาอยู่ในสวนไม่นานเพราะเธอต้องไปออกกำลังกายต่อ หลังจากเดินสำรวจพวกผักออร์แกนิคที่ปลูกเติบโตงดงามดีเธอก็เดินขึ้นห้องไป วันนี้เบลล์เลือกสวมชุดออกกำลังกายที่เพิ่งซื้อมาหลังจากมั่นใจในรูปร่างตัวเองพอสมควร เบลล์ภาพสะท้อนของเธอที่หน้ากระจกจากสาวอ้วนหนักแปดสิบสี่กิโลกรัมตอนนี้เป็นสาวอวบน้ำหนักเพียงหกสิบสี่กิโล ต้องขอบคุณที่หน้าอกของเธอไม่ยุบตามไปด้วย แหนะก้นยังงอนอีกต่างหากเบลล์หันไปมาสำรวจร่างกายชุดที่ใส่นี่เน้นรูปร่างให้เด่นขึ้น โชว์ส่วนสัดให้น่ามองเธอไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเอง แต่ก้นกับนมเธอเด่นเด้งขึ้นมาจริง ๆ เบลล์มองด้วยความภาคภูมิใจพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างกับคนบ้า

บ้าบอน้ำหนักเธอลงยี่สิบโลเลยนะยัยเบลล์ นี่แหละความพยายามของเธอ

เก่งมากนะตัวเธอ เบลล์ชี้ไปยังคนที่อยู่หน้ากระจกชมตัวเองอย่างหน้าไม่อายด้วยท่าทางกระดี๊กระด๊าเพราะทุกอย่างมันเป็นเรื่องจริงไม่มีใครชมตัวเองเก่าเท่ากับเธอแล้ว

เบลล์ออกจากบ้านหลังช่วงเวลาพีคไทม์เพราะไม่อยากอยู่บนถนนนาน ๆ ถึงเธอจะเป็นคนที่ชอบขับรถเองแต่ก็เกลียดการอยู่บนรถนาน ๆ เหมือนกัน เบลล์ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มาถึงฟิตเนสเธอจอดตรงที่จอดประจำเพราะตรงช่องวีไอพีเบลล์ถอยรถเข้าซองอย่างคล่องแคล่วและรวดเร็วเพราะไม่อยากให้รถหรูคันหลังรอนาน เบลล์จอดรถและมองรถหรูที่ถอยเข้ามาจอดข้าง ๆ เธอเองก็อยากเห็นหน้าเจ้าของรถ Ferrari ราคาไม่ต่ำกว่าสามสิบล้านเหมือนกันเพราะมันกลบ Porsche ของเธอไม่เห็นฝุ่นแต่เหมือนกับว่าเจ้าของรถจะเล่นตัวไม่น้อยยึกยักไม่ออกมาสักที ช่างเหอะเบลล์คิด..คงหล่อตายล่ะ!

เบลล์ลงจากรถพร้อมกับแว่นกันแดดที่ยังสวมอยู่ไม่ลืมหยิบกระเป๋าใบเล็กสำหรับใส่ของจุกจิกกับแก้วน้ำส่วนตัวเธอกดล็อกแต่ยังไม่ทันจะเดินเข้าไปด้านในเธอก็นึกได้ว่าลืมโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้าง ๆ กับกระเป๋าเบลล์หันกลับมาที่รถของเธอหูแว่วได้ยินเสียงปิดประตูรถแต่เธอก็ไม่ได้สนใจ เบลล์วางแก้วเก็บความเย็นสีชมพูบนหลังคารถแล้วเปิดประตูโทรศัพท์ของเธอนอนแอ้งแม้งอยู่บนเบาะข้างคนขับจนเกือบจะหล่นน่าจะเป็นตอนที่เธอเลี้ยวแรงไปหน่อยทำให้โทรศัพท์ไถลไปจนสุดขอบเบาะ เบลล์ยกเข่าข้างหนึ่งขึ้นวางลงบนเบาะคนขับยืดตัวขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ทำให้ก้นเด้งลอยเด่น พอได้โทรศัพท์เบลล์ก็ลงจากรถปิดประตูไม่ลืมกดล็อกแล้วเธอก็เดินฮัมเพลงเข้าไปในฟิตเนสอย่างอารมณ์ดี แว่นกันแดดแบรนด์เนมถูกยกขึ้นมาเหน็บไว้เหนือศีรษะอย่างเป็นสไตล์ แต่เธอไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธออยู่ในสายตาคู่หนึ่งอยู่ตลอดเวลาและสายตาคู่นั้นก็ไม่ละจากก้นสวยกลมกลึงของเธอเลย

เบลล์พูดตอบพนักงานที่กล่าวทักทายเธอตลอดทางเข้าและยิ้มให้กับสองสาวประชาสัมพันธ์ที่คุ้นหน้าแวะพูดคุยเล็กน้อย

"เป็นไงจ๊ะสาว ๆ วันนี้ยุ่งไหมคะ" เบลล์พูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานเหมือนกับที่พูดคุยกับคนที่บ้านแต่คนที่เคยเป็นคนแปลกหน้าอย่างพนักงานนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเขินทั้งที่คุณเบลล์เป็นผู้หญิงแต่กลับดูมีเสน่ห์น่าค้นหาเหลือเกิน เอาจริง ๆ สายตาของคุณเบลล์ดูแพรวพราวคล้ายกับกำลังหว่านเสน่ห์

"ไม่เลยค่ะคุณเบลล์วันนี้ออกกำลังกายให้สนุกนะคะ" หนึ่งในสาวประชาสัมพันธ์พูดด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้มใบหน้าของเธอแดงระเรื่อเหมือนกำลังเขินอาย เพื่อนอีกคนหนึ่งก็ยืนหน้าแดงเหมือนกัน

"ขอบใจจ่ะไปละ" เบลล์พูดพร้อมกับโบกมือให้สองสาวแต่ในใจอดแปลกใจกับสองสาวไม่ได้เพราะสาว ๆ นั้นทำตัวแปลกๆ ทั้งยังหน้าแดงใส่เธอแต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไร

"อื้อ..แกคุณเบลล์นี่น่ารักจัง" หนึ่งในสาวประชาสัมพันธ์พูดพร้อมกับทำคล้ายกับหลงเสน่ห์ สายตาชื่นชมยังมองไปทางที่เบลล์เดินเข้าไปอย่างไม่วางตา

"เออจริงฉันเห็นด้วยกับแกเลยเรื่องนี้" เพื่อนร่วมงานเห็นด้วยแล้วหันมามองเพื่อนพร้อมกับสะกิดพูดกระซิบกระซาบ

"ไม่เห็นเหมือนข่าวที่เคยพูดถึงเลย"

"ข่าวอะไร พูดถึงยังไงเหรอ"

"ก็ข่าวซุบซิบที่ว่าคุณเบลล์เป็นคุณหนูชอบเอาแต่ใจชอบเหวียงวีน แต่ที่เห็นมาตลอดทั้งเดือนมันไม่ใช่เลย"

"จริงดิทำไมฉันไม่เคยเห็นข่าว"

"ก็ข่าวมันเก่าแล้วไงแล้วช่วงนี้คุณเบลล์ก็ไม่ได้มีท่าทางแบบที่คนพวกนั้นชอบเอาไปลงข่าว คุณเบลล์ทั้งนิสัยดีทั้งน่ารักแถมความพยายามเป็นเลิศเพียงเดือนเดียวเธอเปลี่ยนจากหุ้นไซซ์ XXL เป็นไซซ์ L ฉันละโคตรทึ่ง"

"เออจริงฉันก็ทึ่งเหมือนกันแล้วดูดิเปลี่ยนจัดชัดเจนอย่างกับคนละคน"

สองสาวยังคงหันหน้าพูดคุยอย่างกันสนุกปากจนลืมไปว่ากำลังทำหน้าที่อยู่ถึงไม่เห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งยืนทำหน้าทะมึนเยื้องอยู่ทางด้านข้าง ในมือของเขายังถือแก้วเก็บความเย็นที่มีสีสันไม่เข้ากับหน้าตา เสียงดังกระแอมดังขึ้นหนึ่งครั้งพร้อมกับร่างตระหง่านที่เข้ามาหยุดตรงหน้าสองสาวพร้อมกับเสียงเข้มน่าเกรงขาม

"งานการไม่ทำสงสัยจะไม่อยากได้เงินเดือน"

"บะ..บอส สะ..สวัสดีค่ะ ขะ..ขอโทษค่ะ"

"ขะ..ขอโทษค่ะ"

สองสาวยกมือไหว้เจ้าของฟิตเนสพร้อมกับก้มหน้างุดยอมรับผิด เหมันต์ปรายตามองชื่อที่ติดอยู่บนเสื้อของสองสาวประชาสัมพันธ์ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในด้วยใบหน้าที่กำลังออกอาการคุกรุ่นทั้งที่ก่อนเข้ามายังอารมณ์ดี ๆ อยู่เลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel