3 เกิดใหม่ท่ามกลางหนุ่มแฝด
3
เกิดใหม่ท่ามกลางหนุ่มแฝด
ความฝันของเธอดำเนินมาถึงตอนสำคัญที่เธอเองก็ไม่อยากเชื่อว่าเธอได้เสียพรหมจรรย์ของเธอไปแล้วแม้ว่ามันจะเป็นความฝันแต่ในความรู้สึกของเธอมันเหมือนจริงจนเธอรู้สึกได้ถึงความเสียวซ่านนั้น
“อือ อ่า ซี๊ด อ่า” เสียงร้องครวญครางของเดมี่ที่ดังก้องไปทั่วทั้งความฝันของเธอ ท่อนเนื้อขนาดเขื่องของนับสิบกำลังทะลุทะลวงรูหวานของเธออย่างตั้งใจพร้อมกับเจ้าของท่อนเนื้อที่มีสีหน้าบูดเบี้ยวเมื่อขยับแกนกลางกายของเขาเข้าออกในร่างกายยของเธออย่างเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น
“อ่า เดมี่ อ่า" เสียงครางกระเส่าของชายหนุ่มดังขึ้นมาไม่ขาดสายเมื่อเขาใกล้จะจุดสุดยอด จนในที่สุดเขาก็ดึงแท่งร้อนของเขาออกมาแล้วรูดชักปล่อยน้ำรักใส่ปากของเธอ
เดมี่ที่กำลังฝันก็คิดว่าเธอกล้ากลืนมันลงไปได้อย่างไร เรื่องราวความฝันของเดมี่ในครั้งนี้คือเรื่องจริงที่ได้เกิดขึ้นมา เธอจะต้องได้รับเรื่องราวของเธอที่ผ่านมาตลอด 10 ปีจนกว่าเธอจะจำเรื่องราวของเธอได้
เดมี่สะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อเธอฝันเรื่องราวการร่วมสัมพันธ์สวาทครั้งที่สองแต่เป็นครั้งแรกของเธอกับนับหนึ่ง เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่านับหนึ่งกำลังดูดเม้มที่เต้าอวบของเธออย่างแรงจนเธอรู้สึกเจ็บไปทั้งเต้าอวบของเธอ
“นี่นายกำลังทำอะไรฉัน อย่านะ” เดมี่พูดขึ้นมาพลางดันศีรษะของเขาให้ออกไปจากเต้าอวบของเธอที่ตอนนี้เขาซุกหน้าเข้ามาราวกับว่าเด็กที่กำลังงอแงจะกินนมของแม่
“ก็ทำในสิ่งที่เคยทำไง เมื่อกี้ยังครางบอกให้ดูดนมให้แล้วทำไมมาผลักออกอย่างนี่ล่ะ” เดมี่ได้ยินที่นับหนึ่งพูดขึ้นมาเธอก็กำลังงงว่าเขาหมายความว่าอย่างไร เพราะมันเหมือนในฝันของเธอมากที่เธอร้องครวยครางขอร้องให้เขาดูดเม้มยอดอกขย้ำขยี้เต้าอวบของเธอ
“หรือว่าเราฝันดังไปเขาเลยได้ยิน” เดมี่มึนงงและสับสนไปหมดแต่เวลานี้เธอไม่มีเวลามึนงงและสับสนแล้วเพราะอีกคนก็ดุดเม้มยอดอกอีกข้างของเธอ ตอนนี้เต้าอวบของเธอมีชายหนุ่มสองคนกำลังดูดเม้มมันพร้อมๆ กัน
“อ่า ซี๊ด” แม้ความคิดของเธอกำลังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ความเสียวซ่านที่เธอได้รับในตอนนี้มันช่างทำให้เธอต้องร้องครางออกมาเสียงกระเส่า
“อือ อ่า ซี๊ด” เสียงครวญครางของเธอดังขึ้นมากว่าเดิมเมื่อเธอถูกอุ้มให้นอนบนตัวของนับสิบโดยมีแท่งร้อนของเขาเสียบคาไว้อย่างนั้น แล้วยังมีท่อนเนื้อของนับหนึ่งกระแทกเข้ามาอีก เดมี่ไม่รู้เลยว่าเธอทนไปได้ยังไงที่มีแท่งร้อนขนาดเขื่องของทั้งสองหนุ่มเสียบเข้ามาพร้อมๆ กัน ความเสียวซ่านที่อยากจะบรรยายออกมาได้
เดมี่ปล่อยให้สองหนุ่มกระแทกแท่งร้อนของเธออยู่อย่างนั้น เธอร้องครางออกมาสุดเสียงแต่ในขณะที่หนุ่มๆ กำลังกระแทกแท่งร้อนเข้ามาในตัวของเธออยู่นั้นเธอก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าตอนนี้เธอพึ่ง 18 ปีแต่ทำไมเธอรู้สึกว่าเต้าอวบของเธอมันใหญ่ขึ้นมากก่อนที่เธอจะตายหรือการมาเกิดใหม่จะทำให้เธอบิ๊กเบิ้มขึ้น
เดมี่ที่คิดเรื่องนั้นอยู่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่ามันเป็นไปได้อย่างไรสองหนุ่มก็จับแท่งร้อนของพวกเขาดึงออกมาจากรูสวาทของเธอแล้วจับมันมารูดชักจ่อที่ปากของเธอแล้วก็ฉีดน้ำรักของพวกเขาออกมาพุ่งใส่ปากของเธอ เดมี่ดูดเลียแท่งร้อนทั้งสองแท่งสลับกันไปมาอย่างรู้งาน แม้แต่เธอเองก็ยังงงว่าเธอทำเหมือนเธอเคยทำและเธอก็รู้สึกคุ้นเคยกับการกระทำอย่างนี้อย่างไม่น่าเชื่อ
หลังจากที่ทั้งสามคนเสพสมความสุขกันจนสำเร็จตามปรารถนาก็นอนกอดกันหลับไปอีกครั้งจนเช้าของวันใหม่
เมื่อฟ้าสางเดมี่ที่นอนหลับไปด้วยความเพลียคราวนี้เธอตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นสองแฝดแล้วเธอมองไปรอบๆ ห้องอีกครั้งคราวนี้เธอก็ต้องตกใจอีกรอบเมื่อภายในห้องนอนของเธอมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปทั้งเตียงนอนทั้งผ้าปูที่นอนและของทุกอย่างในห้องนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแม้แต่รูปถ่ายที่วางอยู่ข้างเตียงที่เคยเป็นรูปถ่ายของเธอกับพ่อและแม่ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นรูปถ่ายของเธอกับแฝดหนุ่มที่มีเธอยืนอยู่ตรงกลาง
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรว่ะเนี่ย แล้วรูปถ่ายนั่นเราไปถ่ายตอนไหน นี่มันเป็นไปได้ยังไง” เดมี่ยังไม่เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนนี้เธอคิดว่าเรื่องราวของเมื่อคืนถ้าเธอหลับแล้วตื่นขึ้นมาเรื่องราวแปลกๆ มันก็จะหายไปเพราะเธอคิดว่ามันเป็นความฝันเท่านั้นแต่มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดเลยเพราะนอกจากมันจะไม่หายไปแต่มันเพิ่มความประหลาดใจให้เธอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย
“เราว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดยมทูตต้องทำอะไรผิดพลาดไปแน่ๆ” เดมี่พยายามหาว่าความผิดพลาดอะไรที่เกิดขึ้นในตอนนี้
เดมี่มองเห็นนาฬิกาที่แขวนติดผนังบอกว่าตอนนี้จะเที่ยงแล้ว เธอนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีสอบเธอรีบวิ่งไปอาบน้ำเพื่อแต่งตัวไปโรงเรียนแต่เมื่อเธอมาเปิดที่ตู้เสื้อผ้าเธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อเสื้อผ้าของเธอไม่มีชุดนักเรียนเลยสักชุด เดมี่เริ่มไม่เข้าใจจนไม่รู้ว่าเธอจะทำยังไงต่อไปเธอจึงเดินออกมาจากห้องนอนของเธอ ภาพบ้านชั้นล่างที่เธอคุ้นเคยแต่สิ่งที่เธอไม่คุ้นเคยก็คือของใช้ต่างๆ มันเปลี่ยนแปลงไปหมด เธอเดินไปที่ห้องครัวก็พบโน๊ตที่สองแฝดแปะไว้ “ไปทำงานก่อนนะรักนะครับ นับสิบ/นับหนึ่ง” เดมี่อ่านมันแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเพราะเรื่องราวมันเร็วมากเร็วจนเธอไม่เข้าใจ
เดมี่เดินไปเปิดทีวีเพื่อดูละครที่เธอชอบแต่พอเปิดทีวีขึ้นมาแล้วเห็นนักข่าวที่กำลังอ่านข่าวพูดวันที่ขึ้นมาเธอแทบไม่อยากเชื่อหูของเธอว่าสิ่งที่เธอได้ยินมันเป็นเรื่องจริงไปได้ยังไง
“สวัสดีค่ะ คุณผู้ชม สวัสดีตอนเที่ยงของวันที่แปดมิถุนายนสองพันห้าร้อยหกสิบหก”
“พ.ศ. สองพันห้าร้อยหกสิบหกอย่างนั้นนี่มันเรื่องบ้าอะไรตอนที่เรากินยาฆ่าตัวตายเราเรียนอยู่ชั้นม.6 พ.ศ. 2556 นี่มันเป็นไปได้ยังไง” เดมี่รีบวิ่งไปดูปฏิทินทันทีว่าปีนี่พ.ศ. อะไรเมื่อเธอดูปฏิทินแล้วไม่พอใจเธอวิ่งขึ้นไปดูมือถือของเธอบนห้องก็ยิ่งตอกย้ำว่าตอนนี้พ.ศ. 2566
