4 นี่มันอะไรกัน
4
นี่มันอะไรกัน
เดมี่นั่งลงบนเตียงนอนเพื่อตั้งสติกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เดมี่พยายามเดินหาของหลายอย่างของเธอแต่ตอนนี้มันหายไปหมดแม้กระทั่งบัตรประจำตัวประชาชนของเธอยังเปลี่ยนอายุของเธอเป็น 28 ปีทั้งๆ ที่ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเธออายุแค่ 18 ปีเท่านั้น
“เราแก่ขึ้นมาสิบปีเลยหรอเนี่ย ชีวิตวัยรุ่นของฉันที่หายไป” เดมี่พูดขึ้นพลางนึกขึ้นได้ว่าที่จริงแล้วเธออยากตายให้มันจบๆ แต่พอได้กลับมาใช้ชีวิตตอนนี้เธอกลับเสียดายชีวิตวัยรุ่นของเธอ นั่นเป็นเพราะเธอทำอะไรไปโดยไม่คิดถึงตัวเหมือนมันกำลังสอนเธอว่าบางเรื่องมันก็ไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขได้เวลาที่คิดจะทำอะไรควรทำอย่างมีสติและคิดให้ดีไม่อย่างนั้นเธอก็ต้องมาเสียใจอย่างวันนี้
“ก็เธอเองไม่ใช่หรือไงเดมี่ที่เป็นคนทำให้มันหายไปโชคดีแค่ไหนที่เธอได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างนี้” เดมี่พูดกับตัวเองพร้อมกับเดินลงไปสำรวจรอบบ้านของเธอ
“ว่าแต่พ่อกับแม่ไปไหนทำไมไม่เห็นอยู่ที่บ้านเลย” เดมี่ที่นึกถึงพ่อกับแม่ของเธอเมื่อเห็นแม่บ้านก็ตรงเข้าไปถามทันที ป้าแม่บ้านก็ยังเป็นป้าคนเดิมเพียงแค่มีหน้าตาที่ดูแก่ขึ้นมาเล็กน้อย
“ป้าคะพ่อกับแม่ไปไหนคะ ทำไมหนูไม่เห็นพ่อกับแม่เลยล่ะคะ” เดมี่พูดขึ้นมาพร้อมกับยิ้มบางๆ เมื่อเห็นสีหน้าของป้าแม่บ้านที่ทำสีหน้าเจื่อนเมื่อได้ยินคำถามนี้จากเธอ
“นี่คุณจำไม่ได้หรอคะว่าพ่อกับแม่ของคุณเสียไปเมื่อสามปีก่อน” คำตอบที่เธอได้ยินมันทำให้แทบไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริงเพราะครั้งสุดท้ายที่เธอได้เจอพ่อกับแม่ของเธอก็คือสามวันก่อนที่เธอจะฆ่าตัวตาย” เดมี่ยืนอึ้งจนป้าแม่บ้านคิดว่าเธอต้องไม่สบายแน่ๆ เพราะเธอจำไม่ได้แม้กระทั่งว่าพ่อกับแม่ของเธอเสียไปแล้ว
เดมี่เดินเข้าไปในบ้านทั้งน้ำตาชีวิตของเธอตอนนี้ไม่เหลือใครแล้ว เดมี่ไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ในชีวิตของเธอมันเร็วเกินไปสำหรับเธอที่จะทำใจได้แต่นี่คงเป็นผลกรรมของเธอที่คิดฆ่าตัวตายโดยไม่นึกถึงพ่อกับแม่ของเธอ
เดมี่เดินเข้ามาในบ้านเมื่อเธอสังเกตดีๆ ก็เห็นที่ตั้งอัฐิของพ่อกับแม่วางไว้ข้างๆ กัน เธอเดินไปยืนร้องไห้ในทันที
“ทำไมเรื่องร้ายๆ ต้องเกิดขึ้นกับหนูด้วยทำไม” เดมี่พูดขึ้นมาเบาๆ พร้อมกับปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา
“ถ้าวันนั้นหนูคิดถึงพ่อกับแม่ให้มากกว่านี้ชีวิตของหนูคงไม่ต้องมาเป็นอย่างนี้หนูคงได้อยู่กับพ่อและแม่นานกว่านี้ หนูขอโทษ”
“ร้องไห้ทำไมคิดถึงพ่อกับแม่หรอคะ” นับสิบที่ลืมงานไว้ที่บ้านจึงกลับมาที่บ้านเห็นเดมี่ยืนร้องไห้จึงเดินเข้ามากอดจากด้านหลังพร้อมกับกระซิบข้างหูของเธอแผ่วเบา
“ไม่ต้องร้องนะมีนับสิบอยู่ด้วยทั้งคนนะ” เดมี่รู้สึกอบอุ่นหัวใจของเธอมากๆ ในยามที่เธอต้องการใครสักคนแล้วเขาก็เป็นคนที่เข้ามากอดเธออย่างนี้
“ขอบใจนะ” เดมี่ไม่รู้ว่าเธอกับเขารู้จักกันรักกันตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ถ้าในตอนนี้เวลานี้มีเขาอยู่ในชีวิตตอนนี้ก็แปลว่าเขาต้องรักเธอและเธอก็ต้องรักเขาแน่นอน
“ไม่เป้นไรเลยขอแค่ได้อยู่ข้างๆ เดมี่อย่างนี้สิบจะทำทุกอย่างให้เดมี่มีความสุขที่สุดนะ” นับสิบพูดแล้วก็หอมแก้มเธอก่อนจะขึ้นไปบนห้องเพื่อเอางานที่เขาลืมไว้
หลังจากที่นับสิบออกไปทำงานเดมี่ก็เริ่มหาข้อมูลภายในห้องนอนห้องทำงานและของต่างๆ ทำให้เธอรู้และเข้าใจว่าตอนนี้ในบ้านหลังนี้นอกจากบ้านแม่บ้านและคนสวนคนขับรถก็มีแค่หนุ่มแฝดสองคนเท่านั้นที่อยู่กับเธอ
“นี่เราไปทำยังไงอยู่ๆ ทำไมได้ผัวทีเดียวสองคนแล้วยังเป็นแฝดอีกหรือมันเป็นกรรมของคนสวยอย่างฉันนะ” เดมี่พูดคนเดียวแต่ติดตลกเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเธอจะภูมิใจหรืออะไรดีที่ได้ผัวแฝด
ในเมื่อความจริงตอนนี้เป็นอย่างนี้เธอก็ต้องใช้ชีวิตต่อไปเพราะเธอจะไม่ยอมทำร้ายตัวเองด้วยการฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหาอีกแน่ๆ เพราะยิ่งหนีปัญหา ปัญหาก็ยิ่งเพิ่มขึ้นต่อจากนี้ไม่ว่าเธอจะเจอกับปัญหาอะไรเธอจะสู้ให้ถึงที่สุด
เดมี่เป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่ทิ้งสมบัติไว้ให้เธอมากมายรวมไปถึงกิจการต่างๆ ทำให้ชีวิตของเธอไม่ได้ยากเกินไปที่จะใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย
เดมี่ที่อยู่บ้านคนเดียวก็เริ่มเบื่อขึ้นมาเธอจึงออกไปซื้อของชอปปิ้งข้างนอกให้สบายใจ เดมี่มาคิดไปคิดมาเธอก็รู้สึกว่าชีวิตของเธอมันประหลาดและแปลกเกินกว่าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเพราะถ้าเกิดเล่าไปคนฟังก็คงหาว่าเธอเป็นบ้าแน่ๆ
เดมี่เดินซื้อของไปเรื่อยๆ อยู่ๆ ก็มองไปเห็นเพื่อนสมัยเรียนของเธอซึ่งไม่ใช่ใครอื่นไกลนั่นคือต้นหอมนั่นเอง
“เดมี่ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ต้นหอมเดินเข้ามาทักทายเธอราวกับว่าเธอจำที่ทำกับเดมี่ไว้ได้ แม้ว่าเรื่องราวมันจะผ่านมาเป็นสิบปีสำหรับคนอื่นแต่มันแค่วันเดียวสำหรับเธอ เดมี่ยังคงเจ็บอยู่ไม่น้อยเพราะนี่คือต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอต้องมีชีวิตประหลาดอย่างนี้
“ไม่เจอนานก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไงอีกอย่างฉันก็ไม่อยากเธออยู่แล้วเพราะไม่มีอะไรที่ต้องให้ฉันอยากเจอเธอ” เดมี่พูดขึ้นมาต้นหอมทำหน้างงๆ
“นี่เดมี่เธอยังโกรธฉันเรื่องเมื่อสิบปีก่อนอยู่อีกหรอ เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วนะเธอน่าจะลืมๆ มันไปได้แล้วนะ ยังไงเราก็เคยเป็นเพื่อนกันนะ” ต้นหอมพูดขึ้นมาอย่างนั้นยิ่งทำให้เธอเกลียดต้นหอมมากขึ้นไปอีก “ใช่สำหรับเธอมันอาจไม่เป็นไรเพราะเธอเป็นคนกระทำไม่ได้เป็นคนถูกกระทำอย่างฉัน ฉันขอร้องเถอะนะเจอฉันที่ไหนอย่าทักฉันอีก ฉันขยะแขยงที่จะคุยกับคนอย่างเธอ” เดมี่พูดจบก็เดินออกไปจากตรงนั้น “ที่รักนั่นใครอ่ะเห็นคุยกันหน้าเครียดๆ” แฟนของต้นหอมเดินมาเข้ามาถามเธอหลังจากที่เขาเดินไปซื้อน้ำมาให้เธอ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะเพื่อนสมัยเรียน เรากลับบ้านกันดีกว่าเดี๋ยวลูกๆ รอนานจะงอแงกับคุณตาคุณยาย” ต้นหอมในวัย 28 ปีเธอแต่งงานกับอาทิตย์รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยทั้งสองคบหากันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยจนแต่งงานมีลูกด้วยกันสองคน
