บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 พิธีปักปิ่น

เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่ใช่ความฝัน ฉู่อวี่หนิงที่ได้รับโอกาสให้เกิดใหม่ในร่างของตัวเองเมื่อสี่ปีที่แล้ว นางเริ่มนึกย้อนไปว่ามีอะไรที่เป็นจุดพลิกผันของตนเองบ้าง

อย่างแรกคือในพิธีปักปิ่น ผู้ที่มาร่วมพิธีต่างก็เป็นมิตรสหายของบิดาซึ่งเป็นคหบดีที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหนานอัน ทั้งร้านขายเสื้อผ้าสิ่งทอ ร้านขายกระเบื้องเคลือบ และโรงน้ำชา ต่างเป็นกิจการของฉู่เหยาบิดานางทั้งสิ้น

และด้วยเหตุนี้หลี่โม่เทียนจึงทำทุกอย่างเพื่อได้แต่งงานกับนาง ได้รับการสนับสนุนจนเลื่อนขั้นเป็นรองแม่ทัพในเวลาเพียงสองปี และสองปีให้หลังสร้างผลงานสังหารแม่ทัพของฝ่ายตรงข้ามด้วยฝีมือที่ดุดันไม่ปรานี จนได้รับตำแหน่งแม่ทัพและได้รับฉายาแม่ทัพปราบอุดร สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นหากไม่ได้นางและสกุลฉู่สนับสนุน

ฉู่อวี่หนิงมองตัวเองผ่านเงาสะท้อนในกระจกทองเหลือง ทรงผมมวยแกะสองข้างบัดนี้เปลี่ยนเป็นทรงใหม่ที่ดูต่างจากเดิม ส่วนล่างถูกปล่อยให้สลายอยู่กลางหลัง ส่วนผมด้านบนถูกจัดทรงเอาไว้อย่างสวยงาม พร้อมสำหรับพิธีปักปิ่นในวัยสิบห้าแสดงถึงความพร้อมในการออกเรือน

‘ชาติก่อนข้าหลงคารมและเลือกคนผิด ชาตินี้เจ้าจะไม่มีวันสมหวัง’ การย้อนกลับมาอยู่ในร่างตนเองในวัยเยาว์ สำหรับนางแล้วนี่คือการเกิดใหม่ หากจะเรียกสิ่งที่ผ่านมาว่าชาติก่อนก็คงไม่ผิดนัก และชาตินี้มีหรือว่านางจะยอมโง่อีกครั้ง

แต่หากไม่ได้รับการสนับสนุนเขาจะเป็นแม่ทัพและเจอกับอันเหม่ยหรงได้อย่างไร นางต้องการเอาคืนทั้งสองอย่างสาสม แต่จะให้เอาตัวเข้าแลกเองก็คงมีชะตาไม่ต่างกับชาติที่แล้ว

‘เช่นนั้นก็ปล่อยนางไป แค่หลีกให้พ้นจากหลี่โม่เทียนก็เพียงพอแล้ว หากไม่มีข้ามีหรือว่าเขาจะก้าวไปถึงตำแหน่งแม่ทัพ’ ความคิดจะแก้แค้นเริ่มลังเลเพราะอุปสรรคที่ยังคิดไม่ตก

“คุณหนูของบ่าวงดงามยิ่งนัก” สาวใช้คนสนิทที่อายุห่างกันเพียงหนึ่งปี กล่าวชื่นชมคุณหนูของตนด้วยน้ำเสียงที่ชื่นชมจากใจจริง

“เสี่ยวชิ่งของข้าก็งามไม่มีผู้ใดเทียบ” นางกล่าวชมกลับไป ทำเอาสาวใช้คนสนิทยิ้มแก้มปริด้วยความเขินอายและภูมิใจกับคำเยินยอนั้น

พลันประตูห้องนอนของฉู่อวี่หนิงก็ถูกเปิดออก ผู้ที่ก้าวเข้ามาคือลู่ชิงชิง เมื่อเห็นว่าเป็นมารดา นางจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปสวมกอดมารดาด้วยความคิดถึง

“ท่านแม่”

“เกิดอะไรขึ้น ทำราวกับไม่ได้เจอกันมานาน หรือลูกแม่ตื่นเต้นกับพิธีปักปิ่นจนทำตัวไม่ถูกแล้ว” น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเอ็นดู ฉู่อวี่หนิงเป็นบุตรีคนโตและเป็นบุตรีเพียงคนเดียวในบรรดาพี่น้องอีกสามคนที่เป็นชายล้วน

“ข้าแค่... ข้าแค่ตื่นเต้นอย่างที่ท่านพูด” อยากบอกว่าคิดถึงมารดาจับใจ ชาติก่อนดูแลพ่อแม่สามีไม่มีเวลากลับมาที่หนานอัน เหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาดเพื่อเป็นฮูหยินหลี่ที่แสนดี ไม่ได้กลับมาดูแลบิดามารดาเลยสักครั้ง

“ได้เวลาแล้ว ไปกันเถอะ” น้ำเสียงนั้นนุ่มนวลและเต็มไปด้วยความเมตตา

“สักพักลูกจะตามไปเจ้าค่ะ” พูดจบก็ยืนส่งมารดาที่รีบออกไปต้อนรับแขกเหรื่อ จากนั้นก็เดินกลับไปนั่งให้เสี่ยวชิ่งและสาวใช้ช่วยแต่งตัวให้แล้วเสร็จ

ไม่รู้ชาตินี้จะมีโอกาสได้แก้แค้นหรือไม่ แต่สิ่งแรกที่นางจะทำคือการใช้ชีวิตให้มีความสุขและคุ้มค่าไม่ให้เสียเปล่าแม้เพียงเค่อเดียว

ภายในห้องโถงของเรือนหลักมีแขกผู้มาเยือนมากหน้าหลายตานัก ฉู่เหยาและลู่ชิงชิงผู้เป็นภรรยากำลังต้อนรับแขกที่หน้าประตูโถง 

"คุณหนูท่านงดงามมากเจ้าค่ะ" เสี่ยวชิ่งชื่นชมตั้งแต่ตอนที่แต่งตัวจนถึงตอนนี้ก็ยังชมไม่ขาดปาก และก็เป็นจริงอย่างที่นางพูด ในเมืองหนานอันดรุณีที่งดงามที่สุดในเมืองก็คงไม่พ้นฉู่อวี่หนิงผู้นี้ 

ชุดที่คุณหนูใหญ่ฉู่สวมวันนี้เป็นชุดสีเหลืองอ่อนแซมรอยด้ายปักสีขาวเป็นลวดลายดอกไม้ ผมมวยเตรียมสำหรับการปักปิ่นเพื่อประกาศให้รู้ว่าย่างสู่วัยสาว ใบหน้าที่ไม่เคยประทินโฉมถูกแต่งแต้มอย่างเป็นธรรมชาติดูงดงามต่างจากเดิม

ครั้นเดินเข้าสู่บริเวณห้องโถงก็ถูกสายตาหลายคู่จับจ้อง พิธีนี้เป็นพิธีปักปิ่นของนางแต่มีหรือว่าบิดาจะพลาดในการที่จะเลือกหาคู่ครองให้นางในวันนี้

ชาติที่แล้วนางไม่รู้จุดประสงค์ของบิดา ปกติแล้วปิ่นที่จะจะใช้ในการปักมวยผมในพิธีปักปิ่นจะถูกจัด เตรียมขึ้นมาเอง มีทั้งปิ่นเงิน ปิ่นทอง ปิ่นหยก ที่จะให้นางเป็นคนเลือกด้วยตนเอง แต่ในพิธีปักปิ่นของนางกลับแฝงไปด้วยความหมายที่นางไม่รู้ ปิ่นแต่ละอันที่นางเลือกนั้นล้วนแต่เป็นของคุณชายสกุลอื่นที่ส่งมาทั้งสิ้น

บุพการีทั้งสองต่างลุ้นว่านางจะเลือกปิ่นปักผมอันไหน ชาติที่แล้วปิ่นที่นางเลือกก็คือปิ่นทอง เป็นปิ่นด้ามทองที่ประดับด้วยทับทิมสีแดงที่ล้อมรอบไข่มุกสีขาวที่ดูสะดุดตา 

ในตอนนั้นนางไม่รู้ว่าการเลือกปิ่นจะถือเป็นการหมั้นหมายกับเจ้าของปิ่นปักผมชิ้นนี้ เพราะหลังจากพิธีปักปิ่นไม่กี่วันก็มีโจรบุกเข้ามา หลี่โม่เทียนที่บังเอิญผ่านมาเข้ามาช่วยปกป้องนางและคนในครอบครัวเอาไว้ได้ มาคิด ๆ ดูแล้วมันคงไม่ใช่เหตุบังเอิญ ตอนนี้จึงได้เข้าใจแล้วว่า ทั้งหมดก็เป็นแผนการของเขา ที่จะเข้ามาใกล้ชิดกับนาง

หลี่โม่เทียนแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนและแสดงความรักอย่างเปิดเผย ตอนนั้นนางทั้งรักและเทิดทูนนายกองหลี่ยิ่งกว่าผู้ใด มอบหัวใจให้เขาจนหมดสิ้น จนกระทั่งบิดาเห็นแก่ความรักและซาบซึ้งใจที่เขาได้ช่วยเหลือเอาไว้ จึงได้คืนปิ่นปักผมชิ้นนั้นกลับไปเป็นการถอนหมั้นเพื่อเปิดทางให้แก่นางและชายโฉดผู้นี้

ด้วยเหตุนี้ นางจึงวิเคราะห์ได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นย่อมไม่ใช่ความบังเอิญ หลี่โม่เทียนต้องการเข้ามา หลอกลวงและหาวิธีที่จะได้คุณหนูที่ร่ำรวยที่สุดไปครอบครอง เพียงเพื่อให้สนับสนุนเขาให้ก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแค้นอยู่ในอก

“เลือกปิ่นที่ชอบสิหนิงเอ๋อร์” ฉู่ฮูหยินบอกแก่บุตรี พิธีการดำเนินมาจนถึงขั้นตอนที่จะต้องเลือกปิ่นปักผมแล้ว และนางก็เลือกปิ่นชิ้นเดิมอย่างไม่ลังเล 

“ข้าเลือกชิ้นนี้เจ้าค่ะ” ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนหวานแต่แฝงด้วยแววตาที่มุ่งมั่น ทำให้ผู้เป็นมารดาประหลาดใจเล็กน้อย

สตรีที่ได้รับมอบหมายให้ทำการปักปิ่นในพิธี หยิบหวีมาหวีผมตามขั้นตอนแล้วจัดมวยพอเป็นพิธี ก่อนจะหยิบปิ่นปักผมสีทองวาววับมาเสียบเข้าที่มวยผม เพื่อแสดงถึงช่วงวัยจากเด็กกลายเป็นหญิงสาวที่พร้อมสำหรับการออกเรือน

พิธีและขั้นตอนทุกอย่างเสร็จสิ้นลง ฉู่อวี่หนิงก็ไปยืนส่งแขกพร้อมกับครอบครัว พลางนึกย้อนถึงทรงจำที่แม้ว่าจะเลือนรางแต่บางอย่างที่สำคัญก็ยังจดจำได้ดี

เมื่อส่งแขกเหรื่อกลับไปหมดแล้ว คุณหนูฉู่กลับไปหอนอนของตน นั่งเคาะนิ้วที่โต๊ะอย่างใช้ความคิด ไม่ได้ตื่นเต้นกับพิธีเหล่านี้อย่างเช่นชาติที่แล้ว ที่เอาแต่หมุนตัวอยู่หน้ากระจกทองเหลืองชื่นชมความงามของตนในวัยสิบห้า

อีกสามวันจะมีโจรบุกเข้ามาในเรือนสกุลฉู่ แม้จะเป็นการจัดฉากจากหลี่โม่เทียน สุดท้ายตนเองและครอบครัวปลอดภัยแต่ก็เกิดความสูญเสีย

คนในเรือนถูกสังหารไปถึงสามคน หนึ่งในคืออาเหมาบ่าวรับใช้คนสนิทของบิดาที่เข้ามาปกป้องตอนที่นางถูกโจรฉุดคร่า นางจะทำอย่างไรดีถึงจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความสูญเสียนี้ได้

************************
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel