บท
ตั้งค่า

พานพบ

ทั้งที่เป็นเพียงเรื่องเล่า เหตุใดหัวใจของนางกลับบีบรัดอย่างน่าประหลาด แววตาของนักแสดงผู้นั้น ไม่เหมือนกำลังสวมบทบาท แต่ราวกับเป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจจริง

"เสด็จพี่..."

มู่หรงเซียวเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะหันไปหาพระเชษฐา

"การแสดงดีทีเดียว แต่ข้าว่ามันเศร้าเกินไป ข้าไม่อยากโศกเศร้าในคืนนี้... เราไปที่อื่นกันเถอะ"

มู่หรงเยวี่ยนหันมองน้องสาว ดวงเนตรลึกล้ำพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะพยักหน้ารับโดยไม่ซักถาม

ในค่ำคืนนี้ นางไม่ได้ต้องการความเศร้าเช่นนี้ นางไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า เรื่องราวบนเวทีนั้นเป็นเรื่องราวของใครกัน

"งั้นข้าจะจ่ายค่าอาหาร เจ้าทนไม่ไหวก็ออกไปรอด้านหน้าเสีย และที่สำคัญคืออย่าซุกซน"

มู่หรงเยวี่ยน พูดดักคอไว้ก่อน ด้วยรู้ดีว่าน้องสาวคนนี้มักหาเรื่องปวดหัวมาให้เขาเสมอ

"ข้ารู้แล้ว เสด็จ... เอ่อ พี่ใหญ่"

มู่หรงเซียวเอ่ยกลั้วหัวเราะ ก่อนจะหมุนกายเดินออกไป วันนี้นางยังคงสวมอาภรณ์บุรุษเช่นเดิม ทว่ารูปโฉมของนางกลับงามเกินไปจนมักจะกลายเป็นปัญหา

ขณะเดินออกมายังด้านหน้าโรงน้ำชา กลิ่นหอมประหลาด พลันโชยแตะจมูก นางหยุดชะงักโดยไม่รู้ตัว

หอม... และคุ้นเคยกับมันเหลือเกิน

แต่เป็นกลิ่นของสิ่งใดกัน? คล้ายกำยานจันทน์หอม ทว่ามีความเย็นเยียบเจือปนบางเบา ราวกับไอหมอกในยามรุ่งสาง

"อึก!"

มัวแต่เหม่อจนไม่ทันระวัง เท้าบางก้าวพลาดไปเบื้องหน้า และก่อนที่ร่างของนางจะร่วงลงสู่พื้น

"หมับ!"

ฝ่ามือใหญ่ของใครบางคนได้คว้าแขนของนางไว้แน่ สัมผัสอบอุ่นประคองร่างนางไว้อย่างมั่นคง และกลิ่นหอมประหลาดที่นางเพิ่งสูดเข้าจมูกเมื่อครู่ ก็ลอยอวลอยู่ตรงนี้จากตัวบุรุษผู้นี้

"ขอบคุณท่านมาก"

มู่หรงเซียวเงยหน้าขึ้น เสียงของนางแม้จะมั่นคงดี แต่หัวใจกลับเต้นแรงผิดจังหวะ

ภาพที่ปรากฏในสายตาคือบุรุษผู้หนึ่งที่มีรูปร่างสูงใหญ่ สง่างาม ดวงตาสีทองลึกล้ำราวกับพญาเหยี่ยว จ้องมองลงมาด้วยแววตายากจะหยั่งถึง

ราวกับสายลมอันเยียบเย็นปะทะเข้ากับผิวกาย ดวงตาคู่นั้นแม้จะสว่างไสว ทว่าแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นและอำนาจอันน่าหวาดหวั่น

สายตาที่จับจ้องราวกับ... นางเคยทำสิ่งใดให้เขาโกรธเคืองมาก่อน

"เอ่อ... คุณชาย ปล่อยข้าได้แล้วขอรับ"

บุรุษนิรนามยังคงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะปล่อยมือนางไปในที่สุด

"อาเซียว มีอันใดหรือ ทำไมสีหน้าของเจ้าดูไม่ดีเลย?"

เสียงของมู่หรงเยวี่ยนดังขึ้น พร้อมกับร่างของพระเชษฐาที่ก้าวมาหานาง

"ข้า..."

มู่หรงเซียวรีบหันกลับไปมองรอบตัว แต่บุรุษผู้นั้นหายไปแล้ว!

"ไม่มีอะไร เสด็จพี่... เอ่อ พี่ใหญ่ เรารีบกลับกันดีกว่า"

นางกระพริบตา ถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะรีบก้าวตามพระเชษฐากลับวังหลวงไป

ทว่า ดวงตาสีทองคู่หนึ่ง ยังคงจับจ้องแผ่นหลังของนางจากเงามืด สายตาที่ทอดมองราวกับว่ามีบางอย่างถูกจุดประกายในห้วงลึกของจิตใจ

สายตาที่เต็มไปด้วย "ความรัก" แต่กลับแฝงไว้ด้วย "โทสะ"

"เสด็จพี่ ข้ากลับมาแล้ว ไม่ทราบว่าโรงน้ำชาของข้าทำให้พึงพอพระทัยหรือไม่?"

เสียงทุ้มดังขึ้น พร้อมกับร่างของบุรุษสูงโปร่งผู้หนึ่งก้าวเข้ามาใกล้ เขาสวมอาภรณ์สีเขียวอ่อนตัดลายเงิน รูปโฉมหล่อเหลาแฝงแววเสน่ห์แบบคนเจ้าสำราญ ท่วงท่าสบายๆ ไม่รีบร้อน ทว่าดวงตากลับฉายแววเฝ้าระวัง

“หวังหย่ง” มองพระเชษฐาของตนด้วยความเป็นห่วง แม้จะเชื่อมั่นว่าไม่มีสิ่งใดทำให้พระองค์ไม่พอพระทัย แต่เขาก็อดถามไถ่ไม่ได้

"ข้าสบายดี"

สุรเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น หวังเฟิ่งเงยพระพักตร์ขึ้นจากถ้วยชา ดวงเนตรสีทองลึกล้ำจับจ้องบุรุษที่อยู่เบื้องหน้า

"หวังหย่ง ไม่ได้พบกันหลายปี เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง หรือเสเพลจนลืมไปแล้วว่าเจ้ายังมีงานรออยู่?"

"เสด็จพี่อย่าบังคับข้าเลย"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel