แม่หมูในเล้า
บทที่ 4 แม่หมูในเล้า
ใต้เท้าลู่ไป๋เหวินมองใบหน้าที่แน่วแน่คำพูดที่หนักแน่นของบุตรสาวพอเข้าใจว่าครั้งนี้บุตรสาวตนเองทำอย่างที่เอ่ยมาจริง ๆ หากตอนนี้นางไม่อยากแต่งกับผู้ใดก็ดีเช่นกันเขาเองก็ไม่อยากบังคับเพราะที่ผ่านมาชีวิตของเสี่ยวลี่เหมยน่าสงสารมามากพอแล้ว เมื่อครั้งที่นางนอนไม่ฟื้นเขาทุกข์ทรมานใจอย่างมาก เฝ้าภาวนาให้บุตรสาวฟื้นขึ้นมาไม่ว่านางต้องการสิ่งใดเขาพร้อมทำให้เสมอ
"หากเจ้าต้องกาเช่นนั้นข้าเองก็ไม่ขัดเจ้า แต่เจ้าอย่ามาร้องไห้ฟูมฟายทีหลังก็แล้วกัน"
"ไม่มีวันนั้นแน่นอนเจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าออกเดินทางก่อนนะเจ้าคะ" เสี่ยวลี่เหมยยิ้มกว้างพร้อมเดินออกไปจากห้องของใต้เท้าลู่ไป๋ไปทำตามที่นางกล่าวมา
เสี่ยวลี่เหมยย่างกรายออกจากเรือนด้วยเรือนร่างใหม่จากสตรีที่อวบอ้วนบัดนี้ได้กลายเป็นสตรีร่างบางเรียวขายาวใบหน้าผ่องใสมีชีวิตชีวาขึ้นไม่ได้น่าเบื่อเหมือนเมื่อก่อน
นางออกเดินทางกับสาวใช้ทั้งสองคนกับผู้คุมม้าอีกหนึ่งคน จวนท่านจวิ้นอ๋องห่างไกลจากเรือนของนางมากนัก เมื่อเดินทางมาถึงครึ่งทางท้องของเสี่ยวลี่เหมยก็เริ่มเรียกร้องอาหาร นางจึงเปิดหน้าต่างดูด้านนอกพบว่าบัดนี้รถม้าเคลื่อนมาถึงหมู่บ้านของท่านอ๋องแล้ว
"นี่เจ้า! ข้าอยากแวะโรงเตี๊ยมสักครู่ เจ้าช่วยหยุดรถม้าด้วย"
"คุณหนูจะเข้าโรงเตี๊ยมทำไมกันเจ้าคะ นี่ก็ใกล้ถึงจวนท่านอ๋องแล้ว" ลู่อินได้เอ่ยถามที่จู่ ๆ คุณหนูก็สั่งให้หยุดเกี้ยว
"ตอนนี้ข้ารู้สึกหิวนะ แวะโรงเตี๊ยมสักครู่คงไม่เป็นอะไร พวกเจ้าก็คงจะหิวเหมือนข้าใช่หรือไม่? มาเถิดลงมาเพิ่มกำลังเสียก่อนแล้วค่อยไปพบท่านอ๋อง"เมื่อรถม้าหยุดนิ่งตามคำสั่ง เสี่ยวลี่เหมยลุกขึ้นพร้อมสั่งให้สาวใช้ตามตนเองลงมา
"นั้นสิเจ้าคะ จะทำการใหญ่ต้องเพิ่มพลังเสียก่อน" ไป๋เซ่อเอ่ยเสร็จก็ลุกตามคุณหนูของนางเดินลงมา ส่วนลี่อินส่ายหัวไปมาก่อนจะเดินตามมาเช่นกัน
เสี่ยวลี่เหมยตื่นเต้นอย่างมาก ตั้งแต่นางเข้ามาอยู่ในร่างนี้ไม่เคยได้ออกมาจากเรือนเสียที นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ออกมาและได้มาริ้มลองอาหารของโรงเตี๊ยมตามแบบซีรี่ส์ที่นางเคยดู
เดินเข้ามาผู้คนต่างพากันมองรูปร่างของเสี่ยวลี่เหมยกันเป็นตาเดียวเรือนร่างสะโอดสะองเย้ายวนตาเหล่าบุรุษที่นั่งดื่มหรือแม้แต่บุรุษที่นั่งอยู่กับภรรยา ลี่อินกับไป๋เซ่อยิ้มอย่างชื้นชมที่เห็นผู้คนสนใจคุณหนูของนางมากกว่าเป็นสายตาเหยียดหยาม
"คุณหนูผู้สูงส่งมานั่งทางนี้ขอรับ " เด็กหนุ่มลูกจ้างของโรงเตี๊ยมได้ออกมาต้อนรับนำพาเสี่ยวลี่เหมยไปนั่งที่โต๊ะที่ว่างอยู่ นางเดินตามไปพร้อมนั่งลงบนเก้าอี้ ยิ้มกว้างให้เด็กหนุ่มพร้อมถามรายการอาหาร
“ที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้มีอาหารอันใดอร่อยบ้าง”
"โรงเตี๊ยมของเราอร่อยแทบทุกอย่างเลยขอรับ ไม่ทราบว่าคุณหนูอยากกินอะไรหรือขอรับ " เสี่ยวลี่เหมยครุ่นคิดนางมาที่นี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชื่ออาหารเหมือนกันกับโลกของนางอยู่หรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นการขายหน้านางจึงยิ้มมุมปากก่อนจะสั่งกับเด็กหนุ่มผู้นั้น
"อืม เช่นนั้นเจ้าก็จัดอาหารที่เลื่องลืออร่อยที่สุดของโรงเตี๊ยมมาให้ข้าสามสี่อย่างเถิด "
"ขอรับ คุณหนูจิบชาที่อาหารสักครู่" เอ่ยเสร็จเด็กหนุ่มเดินหันหลังเข้าครัว ส่วนเสี่ยวลี่เหมยนางกวักมือเรียกสาวใช้ให้มานั่งร่วมโต๊ะเพื่อกินอาหารกับนางโดยไม่ถือตัว
"ลี่อิน ไป๋เซ่อมาสิมานั่งกินอาหารกับข้า"
"คุณหนูเจ้าคะ ข้ามิกล้า"
"มาเถอะน่า อย่าให้ข้าต้องออกคำสั่ง" เสี่ยวลี่เหมยชักสีหน้าทำให้สาวใช้ทั้งสองต้องทำตามที่นางบอก
ไม่นานนักอาหารก็ได้ยกมาตั้งตรงหน้าของพวกนาง เสี่ยวลี่เหมยตื่นตาไม่รีรอจับตะเกียบคีบอาหารเข้าปากทันที
"ค่อย ๆ กินก็ได้เจ้าค่ะคุณหนูเดี๋ยวจะติดคอเอาได้นะเจ้าคะ"ลี่อินขำขันคุณหนูของตนเองดวงตาลุกวาวนานเท่าไหร่แล้วที่นางไม่เห็นแววตาเช่นนี้ของคุณหนู
"ก็มันอร่อยนี่น่า^ ^ พวกเจ้าเองก็กินด้วยสิจะนั่งมองข้าอย่างเดียวหรืออย่างไร รีบกินจะได้รีบเดินทางต่อ" แม้จะมีอาหารอยู่ในปากนางก็เอ่ยออกมาพรางคีบอาหารเข้าปากต่อ สาวใช้ทั้งสองเมื่อเห็นว่าอาหารที่นี่อร่อยก็อยากลองกินบ้างไม่รีรอคว้าตะเกียบมาครีบเนื้อเข้าปากเช่นกัน
ทั้งสามกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้นก็ได้ยินโต๊ะข้าง ๆ กำลังพูดจาซุบซิบนินทาสตรีนางหนึ่งอยู่แถมบทสนทนาช่างสนุกปากพวกเขาเสียจริง
"นี่ ๆ เจ้ารู้หรือไม่ว่าบุตรสาวของใต้เท้าลู่ไป๋เหวินมีใบหน้ารูปร่างราวกับหมู ข้ารู้สึกสงสารท่านอ๋องเสียจริงที่ต้องหมั้นหมายกับนาง ทั้ง ๆ ที่ตนเองสามารถหาพระชายาได้ดีกว่านางตั้งมากมาย" ชายผู้หนึ่งได้เอ่ยขึ้น
"เจ้าไม่รู้อะไร ที่ท่านอ๋องหมั้นหมายกับสตรีที่ขี้ริ้วขี้เหร่เพราะอำนาจเงินทองของใต้เท้าลู่ไป๋เหวินอย่างไรล่ะ หากเป็นข้าจะไม่ขอมีอำนาจและหาพระชายาที่มีใบหน้างดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์ดีกว่ามีอำนาจแต่ต้องนอนเคียงข้างกับพระชายาหมูอ้วนขี้เหร่ข้าไม่เอาด้วยหรอกได้ยินมาว่าเป็นโรคร้ายด้วยข้าคงนอนไม่หลับเป็นแน่หากนอนข้าง ๆ นาง ฮ่า ฮ่า" ชายอีกผู้ได้หัวเราะออกมาเสียงดังอย่างขบขัน ทำให้เสี่ยวลี่เหมยรู้สึกโมโหที่เขากล่าวหาร่างที่นางเข้ามาอยู่ในตอนนี้ พูดอีกอย่างคือคนพวกนี้กำลังต่อว่านางอยู่ สาวใช้ทั้งสองเห็นสีหน้าแววดุดันของคุณหนูทั้งสองหยุดกินทันที เพราะตั้งแต่ดูแลคุณหนูมาไม่เคยเห็นนางเป็นเช่นนี้สักครา
"ฮ่า ฮ่า นั้นสิข้าเองก็มิอาจจะทนอยู่กับนางได้ หากนางมิได้เกิดมาเป็นบุตรสาวของใต้เท้าก็ไม่ต่างจากแม่หมูในเล้า" ทั้งสองพูดไปหัวเราะไปโดยไม่รู้เลยว่าบัดนี้มีสตรีที่มิอาจทนได้กำลังแพร่รังสีและเดินมาหาพวกเขาที่โต๊ะพร้อมนั่งลงที่เก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่