บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

“พี่ พวกที่เหลือมันเริ่มรู้ตัวกันแล้ว พวกมันกำลังตามมา!” ตี๋ที่โดนหิ้วปีก และเป็นคนเดียวที่หันหน้าไปอีกทาง ซึ่งเป็นทางโกดังพอดี เอ่ยเตือนพี่ทั้งสองคนที่ช่วยหิ้วปีกลากเขาอยู่ด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก

“เอ่อ ยังไม่ต้องห่วง เดี๋ยวหัวหน้าก็ช่วยยิงสกัดให้ก่อนเองแหละ ตอนนี้พวกเรารีบหนีไปหาที่หลบกันก่อน” โอ๊ตบอกไปพลาง ออกแรงลากตี๋ต่อไปพลาง

“ผมขอโทษ เพราะความเซ่อซ่าของผม ทุกคนเลยเดือดร้อนกันหมด แล้วหัวหน้าจะไม่เป็นไรใช่มั้ย เราควรจะกลับไปช่วยหัวหน้าก่อนหรือเปล่า” น้ำเสียงของตี๋เริ่มสั่นครือ ทั้งรู้สึกผิด และเป็นห่วงหัวหน้าที่ยังไม่ได้หนีออกมาพร้อมกัน

“ห่วงตัวเองก่อนเถอะ!!” ทั้งโอ๊ตและภามพูดออกมาพร้อมกัน

“กลับไปก็ไปเป็นตัวถ่วงเปล่าๆ หัวหน้าเก่งจะตาย เคลื่อนไหวคนเดียวคงสะดวกกว่า” โอ๊ตเอ่ยเสริม พร้อมกับออกแรงลากตี๋ต่อไป

“เฮ้ย สามคนนั้นน่ะ ถ้ายังไม่หยุดพวกกูยิ่งแน่” เสียงจากชายสวมชุดดำดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสัญญาณว่าพวกนั้นตามมาจะทันพวกเขาแล้ว โอ๊ตกับภามรีบออกแรงวิ่งโดยที่ยังหิ้วปีกลากตี๋ต่อไป

ปัง! ปัง! หัวหน้าพยายามช่วยยิงสกัดอีกครั้ง

“เฮ้ย พวกเรา ยังมีพวกมันซ่อนตัวอยู่ทางนั้นอีก แบ่งคนแยกไปค้นทางนั้นด้วย” เมื่อสังเกตเห็นทิศทางกระสุน หนึ่งในชายสวมชุดดำก็บอกคนอื่นๆ ให้ไปค้นหาคนที่ซุ่มยิ่งอยู่ด้วย

“พวกพี่ทิ้งผมไว้ตรงนี้แหละ กลับไปช่วยหัวหน้าเถอะ หัวหน้าเป็นผู้มีพระคุณของผม ผมไม่อยากให้หัวหน้าตายเพราะผม” เมื่อได้ยินว่าศัตรูรู้แล้วว่ามีอีกคนซ่อนตัวอยู่ ตี๋ก็เริ่มดิ้น โวยวายให้โอ๊ตและภามทิ้งเขาไว้ และไปช่วยหัวหน้าซะ

โอ๊ตและภามมองหน้ากันอย่างชั่งใจ ว่าจะตัดสินใจกับสถานการณ์ตอนนี้อย่างไรดี จะให้พวกเขาทิ้งตี๋ที่เป็นเหมือนน้องชายคนเล็กของกลุ่ม พวกเขาก็ทำไม่ลง แต่อีกใจก็เป็นห่วงหัวหน้า คนที่เป็นเหมือนทั้งพ่อและพี่ชาย ที่คอยดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี ตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ามาสังกัดในหน่วยจนถึงปัจจบัน

“โอ๊ต นายพาตี๋หนีไปหาที่ซ่อนก่อน ถ้าเป็นไปได้ ไปหาคนมาช่วยด้วย เดี๋ยวฉันกลับไปช่วยหัวหน้าเอง” ในที่สุดภามก็เอ่ยเสนอทางเลือก

“ได้ นายก็ระวังตัวด้วย”

“พี่!!! นั่นมันอาร์พีจี!!!!” เสียงตี๋ตะโกนออกมาอย่างตกใจสุดขีด

ตู้มมม!!!! ผลัก! อั๊ก!!

ยังไม่ทันที่ภามจะได้ไปช่วยหัวหน้า หรือโอ๊ตจะได้ลากตี๋ไปไหน เสียงระเบิดจากปืนอาร์พีจีก็ดังขึ้นบริเวณที่พวกเขาอยู่ ร่างของภามโดนแรงระเบิดพัดกระเด็นไปตกบนพื้นไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุอย่างแรง

ภามรีบพยายามทรงตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่แรงระเบิดทำให้สายตาของเขาพร่าไปหมด ภามเห็นภาพตรงหน้าสั่นไหวจนเป็นภาพซ้อนจำนวนมาก อีกทั้งยังมีเสียงวิ้งดังก้องในหู จนเขาหัวศีรษะไปหมด ทรงตัวแทบไม่อยู่ เขาพยายามเพ่งมองภาพตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงโอ๊ต และตี๋

ภาพตรงหน้าของภาม เป็นร่างของโอ๊ตกับตี๋นอนกองอยู่บนพื้น ตามร่างทั้งสองเต็มไปด้วยเลือด และรอยไหม้ แต่ด้วยความที่สายตายังเกิดภาพซ้อนอยู่ทำให้เขาไม่มั่นใจนักว่าทั้งสองคนยังขยับได้หรือไม่ ภามรีบตะเกียดตะกายตรงไปยังร่างของทั้งสอง ก่อนที่จะเหลือบไปเห็นร่างที่เขาจำได้ว่าเป็นหัวหน้ากำลังวิ่งมาจากอีกทางเช่นกัน

โดยที่ไม่ต้องสั่งการหรือพูดอะไรกัน หัวหน้าคว้าไปที่คอเสื้อด้านหลังของโอ๊ตเตรียมลากไปตรงโขดหินขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าไม่ไกลนัก ภามจึงลากคอเสื้อของตี๋ที่ร่างเล็กกว่าตามหัวหน้าไป

ทันทีที่หัวหน้า และภามลากเพื่อนทั้งสองมาหลบหลังโขดหินได้ ทั้งคู่รีบจับชีพจร และแนบหูลงไปที่หน้าอกของเพื่อนคนที่ตนเองลากมาเพื่อฟังเสียหัวใจ แต่กลับไม่มีสัญญาณชีพของเพื่อนทั้งสองแล้ว หัวหน้าเงยหน้าขึ้นมามองภาม เอื้อมมือไปตบที่บ่าเบาๆ พร้อมสายหน้า เป็นเชิงบอกว่าเพื่อนทั้งสองไม่มีชีวิตอยู่แล้ว

“แล้วนายอาการเป็นยังไงบ้าง” หัวหน้ากระซิบถาม เมื่อสังเกตุเห็นว่าภามมีเลือดออกมาจากขมับซ้ายเล็กน้อย

“ผมไม่เป็นไรครับ แต่พวกเราจะทำยังไงต่อดีครับ” ภามตอบเสียงเบา และปรึกษาวิธีหลบหนีกับหัวหน้า เนื่องจากเขาได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวาย และเสียงฝีเท้าของศัตรูเริ่มใกล้เข้ามาทางนี้แล้ว

“เรื่องโกดังเราคงต้องพักไว้ ตอนนี้หนีกันก่อน แต่ยังไงฉันก็อยากพาร่างของโอ๊ตกับตี๋กลับไปด้วย นายไหวหรือเปล่าภาม” หัวหน้ากล่าวเจตนาของตน แต่ก็ยังไม่วายถามความคิดเห็นของภามด้วย

แม้ในฐานะหัวหน้าหน่วยเขาจะอยากนำร่างของลูกน้องในทีมทั้งสองกลับไปด้วยให้ได้ แต่ภามที่โดนแรงระเบิดมาก็สภาพย่ำแย่ไม่น้อย เขาจึงไม่แน่ใจว่าภามจะลากร่างตี๋หนีไปด้วยกันไหวไหม

“ไม่ต้องห่วงครับหัวหน้า ผมไหว” ภามตอบ

ภามไม่ใช่คนอ่อนแอ ร่างกายของเขาได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เพียงแค่แรงกระแทก กับแผลที่ขมับนิดหน่อย ไม่มีทางทำให้คนอย่างเขาล้มได้ อีกทั้งเขาเองก็คิดเหมือนหัวหน้า ตราบใดที่เขายังไหว ยังไงเขาก็จะไม่ยอมทิ้งร่างเพื่อนไว้ที่นี่แน่ อย่างน้อยเพื่อนของเขาต้องได้รับการจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ

ขลุก.. ขลุก.. ขลุก..

ไม่รู้ว่าเสียงโหวกเหวกโวยวายจากอีกด้านของโขดหินหินก้อนใหญ่นี้เงียบลงตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่กลับมีเสียงกลิ้งของสิ่งของบางอย่างดังขึ้นมาแทน

“หนีไป!!!” ตู้มมม!!!

ร่างของภามกระเด็นไปอีกทางอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะแรงระเบิด แต่เป็นเพราะแรงผลักจากหัวหน้า ที่ทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ บอกให้เขาหนีไป ก่อนที่จะใช้ร่างของหัวหน้าจะบังระเบิดไว้ให้

ครั้งนี้ภามไม่จำเป็นต้องเข้าไปสำรวจว่าหัวหน้ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะนอกจากเลือดที่ไหลออกมาจำนวนมากกับรอยไหม้ตามร่างกายแล้ว บริเวณช่องท้องของหัวหน้ายังถูกระเบิดเป็นรูกว้าง จนเขาสามารถมองเห็นกระเพาะ และลำไส้ที่อยู่ภายในตัวของคนตรงหน้าได้

ภามหลับตาลงอย่างไม่อยากเห็นภาพตรงหน้า

“เฮ้ย! มึงเข้าไปดูสิ ว่าแม่งตายห่าไปหมดรึยัง” เสียงคนสั่งการดังมาจากอีกด้านของโขดหิน ทำให้ภามเรียกสติกลับมาอีกครั้ง

ภามมองไปที่ร่างของคนที่เป็นเปรียบเสมือนครอบครัวของเขาทั้งสามร่าง ก่อนหน้านี้ทุกคนยังคุยกันอย่างสนุกสนาน หัวหน้ายังชวนพวกเขาไปเลี้ยงข้าวหลังเลิกงาน และจะไปเล่นเกมกันต่อที่บ้านของโอ๊ต รวมถึงตี๋น้องชายคนเล็กของหน่วยที่ไปด้วยกันไม่ได้เพราะมีนัดไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง แต่ตอนนี้คนที่เขารักทั้งสามกลับอยู่ในสภาพร่างอาบเลือด และมีกลิ่นหนังไหม้ ภาพตรงหน้ากลับติดตา จนภามไม่สามารถลบมันออกไปได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel