บทที่ 4 ปากกรรไกร (2/2)
เธอไม่ตอบโต้กับเขา ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาก้มอ่านสัญญาในมือ บ้าน รถ ที่ดิน ทุกสิ่งที่เป็นของคุณพ่อ ถูกเอามาขายให้กับเขาจนหมดสิ้น ไม่รวมเงินสดห้าพันล้านที่คุณพ่อของเธอยืมมาเล่นการพนันในคาสิโนจนสิ้นเนื้อประดาตัว และไม่สามารถที่จะกู้ยืมเขาเพิ่มได้อีกแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นในสัญญาระบุอย่างชัดเจนว่า หากคุณกีรติ ประกอบกิจไพศาล ไม่สามารถนำเงินสดมูลค่าห้าพันล้านบาทมาใช้หนี้ภายในระยะเวลาสามเดือน จะถือว่าเงินส่วนนั้นคือค่าสินสอดของนางสาวเชอร์เบล ประกอบกิจไพศาล โดยที่นายชรัณ บริรักษ์สกุล มีสิทธิ์ในตัวนางสาวเชอร์เบล ประกอบกิจไพศาลโดยชอบธรรม
"สามเดือน ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ เงินมากมายขนาดนี้ใครจะไปหาได้ทัน พี่ฟลินท์ พี่มันขี้โกง"
เชอร์เบลชี้หน้าด่ากราดหาว่าเขาขี้โกงทั้งที่พ่อของเธอเป็นคนเซ็นมันเองแท้ ๆ เขาไม่ได้บังคับจับมือพ่อของเธอเสียหน่อย
"ฉันทำธุรกิจนะเชอร์เบล ไม่ได้ทำการกุศล" เขาตอบด้วยใบหน้านิ่งเฉย เงินคือสิ่งขับเคลื่อนก็ไม่แปลกที่เขาจะทำทุกอย่างตามระบบ
"มันเป็นแผนของพี่สินะ นี่พี่อยากแต่งงานกับเชอร์เบลขนาดนั้นเลยเหรอถึงได้ทำสัญญาบ้า ๆ แบบนี้ขึ้นมาอ่ะ พี่มันทุเรศสิ้นดี เหอะ"
เธอยกแขนขึ้นกอดอก ริมฝีปากเบะเม้มจนไม่น่าดู ฮ่า แบบนี้สิถึงจะเป็นเชอร์เบล ไอ้แววตาหวาดกลัวน่าสงสารแบบเมื่อกี้นะเหรอ เป็นการแสดงของยัยนี่ชัด ๆ ตอนนี้ใบหน้าของเธอแสดงสีหน้าเหยียดเขาไม่ต่างกับเมื่อสิบปีก่อนเลยสักนิด
"แล้วใครบอกว่าฉันจะแต่งงานกับเธอ!"
เขาตวาดลั่นเมื่อรู้สึกว่าเธอจะหลงตัวเองมากจนเกินไป ในสัญญาก็แค่ตัวหนังสือที่ระบุเอาไว้ให้ดูดีก็เท่านั้น คนยโสแบบเธอใครจะอยากแต่งงานด้วย
"ก็ในสัญญา...งั้นในสัญญานั่น..."
"ฉันก็แค่เขียนมันให้ดูดีหน่อยก็เท่านั้น คนอย่างเธอใครจะอยากเอามาทำพันธุ์ อย่ามั่นหน้าไปหน่อยเลยนะครับ คุณหนูเชอร์เบล"
ฟลินท์ลอยหน้าลอยตาเย้ยหยันเธอขั้นสุดใบหน้าของเขาดูมีความสุขแบบสุด ๆ ที่เธอกำลังทุกข์ใจ เขาเริ่มจะไม่ได้ต่างจากจากคนโรคจิตเท่าไหร่นัก
เพียะ
"ไอ้ทุเรศ สารเลวที่สุด!"
ด้วยความโมโหและหมดความอดทนกับฝีปากที่คมกริบราวกับกรรไกรพร้อมตัดให้ทุกสิ่งขาดเป็นชิ้น ๆ ทำให้เธอตวัดมือลงบนใบหน้าคมคายด้วยความลืมตัว
ฝ่ามือบางทั้งห้านิ้วฟาดลงบนแก้มซ้ายของเขาจนเจ็บจี้ด คำด่าทอหาว่าเขาสารเลวช่างน่าขำขัน ทั้งที่พ่อของเธอเป็นคนเซ็นเองแท้ ๆ แต่เขาดันโดนด่าซะงั้น มันใช่เรื่องที่ไหน
"ก่อนจะหาว่าฉันสารเลว โทษพ่อเธอจะดีกว่าไหม ฉันไม่เคยบังคับให้พ่อเธอเซ็น อ่อ แล้วก็อย่ากำแหงกับฉันให้มาก เธอมันก็แค่ยัยคุณหนูตกอับที่ไร้ค่าในสายตาฉันก็เท่านั้น!"
"พี่ก็ไม่เคยมีค่าในสายตาของเชอร์เบลเช่นกัน คนหยาบคาย!" เธอตอบกลับเขาได้อย่างเจ็บแสบเช่นกัน โดยเฉพาะแววตาที่ว่างเปล่าเหมือนเมื่อสิบปีก่อนไม่มีผิด
ความชาที่กำลังแทรกซึมเข้าแทนที่ความเจ็บปวดทำให้เขาเริ่มขาดสติ กลิ่นคาวคลุ้งของเลือดภายในปากทำให้เขาหมดความอดทน คงหมดเวลาที่เขาจะต้องมาเสียเวลาพูดดีกับเธอสักที
ครืดดดด ครืดดดด
ประจวบเหมาะกับเสียงโทรศัพท์ยังคงสั่นอย่างต่อเนื่อง แม้เขาจะทำลืมไปบ้าง แต่ตอนนี้ความโกรธทำให้เขาเปลี่ยนใจ ทำเรื่องสนุก ๆ จะดีกว่า
“รับโทรศัพท์มันสิ” เขาเอ่ยสั่งเธออีกรอบ
“รับทำไมคะ"
"รักมันมากไม่ใช่เหรอ ไอ้คาร์โลวน่ะ"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการรับสายด้วยล่ะคะ"
“ไม่รู้สิ แต่ตอนนี้ฉันแค่ต้องการให้มันคลั่งตายคาสายไปพร้อมกับเธอ!”
“พี่จะทำอะไร พี่ฟลินท์ ไม่นะ!” เธอถอยหลังหนีเมื่อฟลินท์ทำท่าทางที่พร้อมจะขย้ำเธอให้แหลกคามือ
“ทำให้เธอเห็นยังไงว่านอกจากสมองที่ดี อย่างอื่นฉันก็มีดีอีกเยอะ คอยดูให้เต็มตาก็แล้วกัน”
กรี้ดดดด