บท
ตั้งค่า

สนมคนงาม

“ใครจะปล่อยเจ้า อยู๋ในนี้มีแต่จ้องหาความสำราญใครจะ ให้เสียเวลาไปเปล่าๆ”

“กรี๊ดๆ ๆ ๆ ๆ ปล่อยเดี๋ยวนี้ข้าจะฟ้องศาลต้าหลี่ข้าไม่ได้เป็นอะไรกับเจ้า ข้าจะบอกทุกคนว่าโดนข่ม…..” ช้าไปริมฝีปากบางโดนประกบด้วยปากอุ่นคะนิ้งเบิกตาโพลง ยันอกกว้างแต่กลับโดนรวบแขนไว้ทั้งสองข้าง

“ฝ่าบาทสนมเอกซินเหยา มารอพบฝ่าบาท” เสี่ยวซุนมาช่วยชีวิตพอดี หยางหลี่จวิน หันไปตามเสียง คะนิ้งอาศัยที่เผลอสปริงตัวลุกขึ้นจากที่นอน เหลือบไปเห็นกระเป๋าเป้ของเธอวางอยู่ตั่งข้างแท่นบรรทม คว้ามากอดไว้แน่นมองดูชุดที่สวมเป็นชุดฮั่นฟูไม่ใช้เสื้อผ้าในโลกปัจจุบัน

ไม่รอช้า ซินเหยาเดินเยื้องกรายเข้ามาข้างในห้องอย่างถือวิสาสะ ย่อตัวอ่อนน้อม

“ฝ่าบาท ลืมแล้วหรือเพคะ วันนี้ฝ่าบาทบอกซินเหยาว่า ให้ซินเหยามาแต่เช้าจะสอนซินเหยายิงธนู” เสียงหวานปานน้ำผึ้งหยาดหยด คำพูดตัดพ้อกลายๆ คะนิ้งเผลอเบ้ปาก รู้สึกคันหูกับ เสียงออดอ้อนนั้น

เสี่ยวซุนสวมเสื้อคลุมให้หลี่จวิน

“อ่า..ขอโทษด้วยพระสนม ข้าลืมไปจริงๆ ดีเลยเช่นนั้นอี๋เซียงเจ้าก็ไปด้วยกัน” คะนิ้งส่ายหัวทำหน้าตาเหลอหลา

“บัญชาของข้า เจ้ากล้าขัดอย่างนั้นหรือข้าเป็นฮ่องเต้นะ เจ้าแค่สนมกล้าขัดบัญชาข้า โทษถึงตาย” คะนิ้งยังส่ายหน้าไปมา

เสี่ยวซุน ขยิบตาส่งสัญาณให้คะนิ้งเหมือนกับจะบอกว่า ยอมๆไปก่อน

“คือ...ให้ข้าอธิบายนะช้าๆ ชัดๆ ข้าก็แค่หลงมาที่นี่ ย้อนอดีตนะรู้จักไหม” พูดเองก็ตกใจเองว่าตัวเองย้อนอดีตมาหรือนี่

“ย้อนอดีต” ทั้งสามทวนคำพร้อมกัน

“ใช่ๆ ๆ แล้วคือถ้าเป็นไปได้...ตอนนี้ข้ามีเรื่องสำคัญอย่างเช่นการหาทางกลับบ้าน มันสำคัญกว่าการไปยิงธนูบ้าบอนั่น”

“พูดอะไร ในเมื่อไม่ยอมมานี่" ฮ่องเต้รวบร่างบางขึ้นพาดบ่า พาเดินออกจากห้องไปไม่สนใจว่าคะนิ้งจะว่าอย่างไร เหล่าขันทีและ นางในรวมทั้งสนมซินเหยาต่างพากันตกตะลึงกับสิ่งที่ฮ่องเต้หนุ่มทำ

“ปล่อยๆ ๆ ๆ”

“เงียบเสียงของเจ้าไม่เช่นนั้นข้าจูบปิดปากเจ้า ให้เหล่าขันทีนางในได้เห็น” คะนิ้งเงียบเสียงลงทันที

คะนิ้งขืนตัวไว้

“ไม่หิว” ฝ่าบาทสุดหล่อถอนใจก้มลงกระซิบข้างหู

“ข้าหิว และมากด้วย หากยังไม่ไปจะทำอะไรดีนะ….ให้เจ้าเป็นคนตัดสินใจ” คะนิ้งเดินลิ่วออกจากตรงนั้นใจเริ่มสั่น ไม่ได้หิวข้าวแต่รู้สึกประหลาด หลี่จวินยิ้มในหน้า

บนโต๊ะเสวยที่ถูกจัดเตรียมไว้ด้วยอาหารหลากหลาย ที่จัดแต่งสวยงาม คะนิ้งเพิ่งจะยิ้มออก แต่ระงับอาการไว้ หลี่จวินนั่งลงก่อนจะฉุดให้คะนิ้งนั่งตาม

“ฝ่าบาทวันนี้ซินเหยารู้ว่าจะเข้าเฝ้าฝ่าบาทแต่เช้าเลย เข้าไปในห้องเครื่องจัดเตรียม เครื่องเสวยแต่เช้า”

“ดี ฝีมือการทำอาหารของพระสนมนับว่าไม่เป็นรองใคร สนมอี่เชียงคงยังไม่เคยกินของพวกนี้เพราะเพิ่งจะ เข้าวังมา เช่นนั้นดูสนมเอกซินเหยากินให้ดูก่อนว่าเขากินกันอย่างไร” คะนิ้งหน้าบูดเพราะหิวเต็มทีแล้ว ซินเหยาหยิบตะเกียบคีบนู้นนี่ใส่ปากอย่างละชิ้นสองชิ้นทุกครั้งที่กินก้จะหันมายิ้มหวานให้หลี่จวินครั้งหนึ่ง คะนิ้งคิดว่าซินเหยาช่างลีลาเยอะออดอ้อนจนน่าหมั่นไส้

หลี่จวินหยิบตะเกียบคืบ ผักใส่จานให้ซินเหยาซินเหยา มองด้วยสายตาลึกซึ้ง คะนิ้งหันหน้าหนี ส่ายหัวเบื่อความรัก

“กินได้แล้วอี๋เซียง” คะนิ้งหยิบตะเกียบบ้าง หิวจนแทบจะกินได้ทุกอย่างกำลังจะคีบหมูชิ้นโตใส่ปากตะเกียบในมือของหลี่จวินก็คีบหมับเข้าที่ตะเกียบของเธอ

“เมื่อคืน ข้ารู้สึกว่า ...เจ้าอ้วนไปหน่อยกินผักดีกว่า” คะนิ้งถอนหายใจปล่อยตะเกียบวางบนจาน หลี่จวินเลือกคีบผักหลายอย่างส่งให้คะนิ้ง ซินเหยาคีบส่งผักของหลี่จวินเข้าปากช้าๆ อย่างครุ่นคิด

“กินอิ่มแล้ว ข้าขอตัวเลยละกัน” คะนิ้งกินผัดผักแปดอย่างจนอิ่มแปล้เตรียมตัวลุกจากที่นั่ง หลี่จวินฉุดมือไว้มองสบตา

“วันนี้ข้าไม่เลือกป้าย มีสนมอีกมากที่รอให้ข้าเลือกป้ายแต่วันนี้ข้า ยินดีอยู่กับเจ้าอีกคืนเช่นนั้น ห้ามไปไหนก่อนที่ข้าจะมีบัญชา”

“ยินดีเลยเหรอ ใช้คำผิดแล้วฝ่าบาทต้องบอกว่าขอร้องให้ข้าอยู่อีกคืน”

“ข้าเป็นฮ่องเต้ทำไมต้องขอร้อง ข้าชอบบัญชา” เถียงกันไปมาไม่สนใจซินเหยาแม้แต่น้อย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel