ยิงธนูบ้าบอ
“เจ้าว่าข้าผิด” ชี้มือมาที่อกกว้าง
“ป้าววววแต่ ฝ่าบาทต้องทรงปล่อยให้ฉันเอ้ยข้า ไปขี้ไปตดบ้าง”
“เจ้าปวดท้องหรือ” แววตาทีเล่นทีจริง
“ไม่...เฮ้อ.ข้าหมายถึง แค่เปรียบเปรย”
“ได้แต่ต้องอยู่ในสายตาและ เสี่ยวซุน ตามหนิงเออร์ให้มารับใช้นางคอยจับตามองนาง” คะนิ้งเบ้ปากแลบลิ้น
“ฝ่าบาท หนิงเออร์เป็นถึงองครักษ์วังหลัง ทำไมต้องมาติดตามคนคนเดียวที่รั้งตำแหน่งสนมด้วย” หยางจื่อเย่น้องชายฝาแฝดของ หลี่จวินที่ใบหน้าเย็นชาเรียบเฉยเอ่ยปากทักท้วงเมื่อเข้ามาถึง คะนิ้งหันไปพอดีสบตาสายตาเย็นฉาแม้ใบหน้าจะละม้ายหลี่จวิน แต่ใบหน้าที่เหมือนมีหน้าเดียวไม่เคยยิ้มให้ใครนั้น เย็นชานัก
“ใครสน” คะนิ้งหลุดปากขมุบขมิบ
“นาง อาศัยทีข้าเผลอคิดหนีออกจากวังหลวงอย่างเดียว”
“แล้ว ฝ่าบาทยังจะรั้งนางไว้”
“นางได้ชื่อว่าเป็นสนม แล้วเมื่อคืนข้ากับนาง ในรอบหลายปีมานี้ ข้า ไม่เคย ร่วมห้องกับใคร เมื่อคืนเป้นเพราะไทฮองเฮาส่งนางมาข้าถึงปฏิเสธไม่ได้ แล้วหากในครรภ์ของนางมี องค์รัชทายาทอยู่เล่าไม่เป็นการผิดต่อบรรพชนหรืออย่างไร”
“ฝ่าบาท ตามกฏของ ตระกลูเรา ฝ่าบาทต้องเลือกหญิงที่ฝ่าบาทรักเพียงหนึ่งเดียวเพื่อที่จะให้กำเนิดองค์รัชทายาทลืมไปแล้วหรือ”
“ตามกฏว่าไว้อย่างนั้น แต่ใช่ว่าข้าจะไม่มีสิทธิ์เลือก แล้วเมื่อคืนข้าเมาหนักไป เผลอไผล ทั้งที่ยังไม่ได้ทำความรู้จักนาง” คะนิ้งเลิกคิ้วสูงนี่เธอมาฟังเรื่องอะไรเรื่องการสืบพันธ์ของราชวงศ์ สำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ
“ไทฮองไทเฮาส่งนางมาเพื่ออะไรกันแน่ เช่นนั้นหากฝ่าบาทไม่ทรงโปรดนางก็ส่งนาง ไปทำแท้งกับหมอหลวง” จื่อเย่ แนะนำน้ำเสียงเรียบเฉย
“หยุด” คะนิ้งอดรนทนไม่ไหวจะไร้มนุษยธรรมเกินไปหรือเปล่า
“สามหาว” จื่อเย่ตวาด หลี่จวินเผลออมยิ้ม
คะนิ้งยกมือขึ้นชี้หน้าจื่อเย่
“เจ้า..เจ้าๆ ๆ ๆ หน้าตาก็ดีหล่อเหลาเอาการแต่ทำไม่เลือดเย็นขนาดนี้ ฟังให้ดีดี ข้ากับฝ่าบาทของเจ้า เราไม่ได้มีซัมติงอะไรทั้งนั้น เมื่อคืนต่างคนต่างนอน แล้วข้าก็เป็นสาวพรมจรรย์อยู่ด้วย หากมีอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายตัวเองทำไมจะไม่รู้เพราะฉะนั้น ห้ามนำข้าไปทำแท้ง แล้ว ข้าก้ไม่ได้พิศวาส ฝ่าบาทหน้าหล่อนั่นเลย ตอนนี้อยากกลับบ้านแค่ขอปืนคืนเท่านั้นส่วนอื่นข้าจัดการเอง เข้าใจไหม” จื่อเย่นับประคำในมือหลับตาเฉย ไม่ใส่ใจคำพูดของคะนิ้ง
“ข้าไม่ให้ไป วังหลวงคิดว่าจะเข้าออกง่ายๆ หรืออย่างไร”
“ทำไมก็แค่เดินออกไป” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืน ก้าวเดินออกไปทันที กระบี่ด้ามทองประดับด้วยพลอย เป็นของพระราชทานกูกยกขึ้นขว้างหน้าไว้พอดี คะนิ้งกวาดขาพลิกตัวไปทางด้านหลังยก ร่างใหญ่ของใครอีกคนทุ้มลงพื้นเสียงดังสนั่น ไป๋จงรู้สึกเจ็บแต่ก็พยายาม ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะกลัวเสียหน้า ก้มเก็บกระบี่ที่หล่นลงพื้น ใบหน้าหล่อเหลาของไป๋จง ทนระงับความเจ็บปวด หลี่จวินเห็นท่าไม่ดีคว้าตัวคะนิ้งมากอด กดรมฝีปากลงบนปากนุ่ม อย่างแรงต่อหน้าหลายคน ที่ไม่คิดว่าหลี่จวินจะกล้าแสดงบทรักต่อหน้าคนอื่น ถอนริมฝีปากออกคะนิ้งดิ้นรนทุบอกตุบตับ
“จำไว้ นี่คือบทเรียน อย่าได้แสดงความห้าวหาญเก่งกาจเช่นนี้อีก อี๋เซียงไม่เช่นนั้น เจ้าจะอายคนอื่นไม่เลิก” กระซิบแผ่วเบา ข้างใบหูลมหายใจร้อนผ่าวรินรดต้นคอ
จับแขนทั้งสองข้างที่ทุบตุบตับ ให้จ้องตาคม ภายใต้สายตา ดุดัน
โมโห ฝ่าบาทโมโหคะนิ้งจับอาการได้ก็มันเผลอ คะนิ้งได้สายดำเทควันโด้ แล้วยังเป็นนักแม่นปืนคุณพ่อเป็นถึงสารวัตรปราบปรามซื้อเป้ามาให้หัดยิงปืนตั้งแต่อายุได้หกขวบ คุณแม่เองก็ใช่จะนุ่มนิ่มเป็นคุณครูสอนพละ แล้วเธอจะเรียบร้อยได้อย่างไร ใบหน้าสวย เชิดหยิ่งแต่ดวงตากลับสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
หลี่จวิน เดินไปจบบ่า ไป๋จง
“เป็นอะไรไหม” ไป๋จงยิ้มเสียเท่ห์ คะนิ้งเบ้ปาก
“ไป่จงคารวะสนมอี๋ซียง”
“หนิงเอ๋อไปไหน” หลี่จวินถาม
“หนิงเออร์ตามเสด็จไทเฮา ข้ากระหม่อมจึงจำต้องมาแทน” คะนิ้งหันมองไป่จงเต็มท่าทางก็ดีหล่อก็หล่อทำไมยอมมาเป็นองครักษ์หนอ
“ไม่ได้ ตามหนิงเอ๋อนางเท่านั้นที่คู่ควร เจ้ามีเพียง อารักขาข้าก้พอแล้ว ไป๋จงถอยออกไปทันที ซินเหยาเองก็หลบออกไปเงียบๆ
“ฝ่าบาท หนิงเอ๋อตามเสด็จไทเฮาเกรงว่า..”
“นางเป็นคนของข้า” แหมคงจะเป็นเมียคนที่เท่าไหร่อีกล่ะสิ คะนิ้งคิดในใจ แต่เผลอทำปากขมุบขมิบ หลี่จวินมองยิ้มมุมปาก
“ข้ารู้ว่า เจ้าคิดอะไรเกินเลยอี๋เซียง….หึงข้าใช่ไหม จนกระทั่งตอนนี้ข้าก็ยัง มีเจ้าคนเดียวแม้ว่าหนิงเอ๋อจะ..หน้าตาดีไม่น้อยแต่คืนนี้เจ้าก็ยังคง ต้องร่วมห้องกับข้าอยู่ดี” ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เมื่อกี้ยังโกรธเธออยู่เลยเปลี่ยนอารมณ์ไวจริง
“จะมีกี่เมียก็เรื่องของท่าน”
“สนม3000นาง หกตำหนัก”
“ใครสน”
“นั่นไงเจ้าหึง สะบัดเสียงใส่ข้า” จื่อเย่ มองคนนู้นทีคนนี้ที
“หึ ถ้าเหมือนเขาค่อยน่าสนใจหน่อย” คะนิ้งเดินไปใกล้จื่อเย่แกล้งสบตา เย็นชานั้นจื่อเย่หน้าแดงหันซ้ายหันขวา
“อย่างเขานี่ถึงจะเรียกว่าน่าสนใจ” ใบหน้าของจื่อเย่และคะนิ้งใกล้กันเพียงนิด หลี่จวินมองตาม
“สนม อี๋เซียง เจ้าช่างไร้ยางอาย ทำเรื่องผิดศีลธรรม ทั้งที่เป็นสนมกับทำตัวเหมือนนางคณิกา” เสียงทรงอำนาจ ดังก้องเข้ามาไทเฮามาพร้อมหนิงเอ๋อและไป๋จง คงอีตาไป๋จงไปฟ้องแน่
“ไทเฮาเสด็จจจจ เสี่ยวซุนเพิ่งจะตะโกนบอก” ถวายพระพรกันพรึบพรับ หลี่จินคว้ามือคะนิ้งให้ ก้มลงถวายพระพร