บท
ตั้งค่า

ปราบพยศ

“ฝ่าบาทเสียงร่ำลือ ไปถึงตำหนักของแม่ว่าสนมของเจ้าคนนี้ มีของเล่นพิเรนทร์ ทำเอาเหล่าสนมนางในรวมทั้งสนมเอกซินเหยาตกใจ แต่เจ้ากลับไม่เอาความ ไม่สั่งลงทัณฑ์นาง”

“เสด็จแม่นางยังเด็กเข้ามาในวัง เพราะถูกส่งตัวเข้ามาหาเต็มใจลูกเจ้ากล่าวโทษนางก็ไม่อาจทำ”

“ฮองเต้หลงใหลนางเพียงนี้เชียวหรือช่วงเวลาเพียงข้ามคืน”

“เสด็จแม่ตามกฎมณเทียรบาลสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยไทฮองไทเฮาเฟยลี่ เสด็จแม่ก็รู้” ไทเฮาเชิดใบหน้าขึ้น

“แต่นางเข้าเพียงวันแรกก้สร้างความปั่นป่วน”

“เสด็จแม่ลูกขอเถิดนางเพียงแค่รู้เท่าไม่ถึงการณ์”

“แม่ไม่ยุ่งเจ้าแล้ว ฮ่องเต้เดี๋ยวจะหาว่าแม่ทำลายกฎที่สืบทอดกันมา หนิงเอ๋ออยู่ที่นี่คอยรับบัญชาฝ่าบาท” หนิงเอ๋อน้อมคารวะหลี่จวิน

“ทรงพระเจิญหมื่นปีเสด็จแม่ หลี่จวินจะไม่ทำให้ไทเฮาผิดหวัง” สะบัดหน้าหนีไม่แม้แต่จะมองหน้าคะนิ้งด้วยซ้ำไป

“หนิงเอ๋อต่อไปนี้เจ้ามีหน้าที่...สำคัญดูแลปกป้องสนมอี๋เซียงและติดตามนางทุกฝีก้าว”

“อย่างนั้นหนิงเอ๋อก็ต้องเข้าไปในห้องบรรทมของฝ่าบาทกับข้านะสิ…^_^ ดีเลย555 เริ่มคืนนี้เลย” หลี่จวินยิ้มยียวน

“อยู่หน้าห้องบัญชาข้าและแท่นประหารของข้าสำหรับคนชอบแหกกฎ” คะนิ้งหน้าเง้า อุตส่าห์ คิดว่าจะฟลุ๊คแต่เปล่าเลยกับถูกดักคอ

“ไป๋จงต่อไป คอยสอดแนมนางอีกคน” หันไปสั่งองครักษ์หน้าหล่อ จื่อเย่ เดินวน รุ้สึกกระวนกระวายใจ กับการใกล้ชิด คะนิ้งเมื่อกี้

“จื่อเย่ เจ้าไม่จำเป็นต้องมาที่นี่บ่อยนัก ที่วัด มีอะไรขาดตกบกพร่องหรือไม่” จื่อเย่สะดุ้ง พยักหน้าส่ายหน้าไปมาพร้อมกัน

“หากมีอะไรบกพร่อง บอกกรมวังได้บอกว่าข้าอนุญาตเจ้าเต็มที่” คะนิ้งได้ทีกอดกระเป๋าเป้ เดินย่องออกมาหลี่จวินคว้าข้อมือทั้งดึงทั้งลากไปที่ห้องบรรทม หนิงเอ๋อกับเสี่ยวซุนวิ่งตามติดๆ

“เสี่ยวซุนปิดประตู”

“ฝ่าบาท ถนอมพระวรกายด้วย” เสี่ยวซุน เจ้าบ้า คิดว่าฝ่าบาทไม่รู้จักยับยั้งจะกินข้าวต้มตอนสายหรืออย่างไร หลี่จวินหันมองหน้าเสี่ยวซุนทำตาดุ

ถอยออกมาปิดประตูลงกลอน

เมื่อเข้ามาในห้องกลับเปลี่ยนท่าที จูงมือคะนิ้งไปนั่งที่เก้าอี้

“เคยมีใครทำเจ้าใจสั่นไหม” คำถามอะไรแบบนี้ คะนิ้งปรับตัวไม่ทัน

ส่ายหน้าไปมาริมฝีปากอุ่นแตะลงที่ปากบางของคะนิ้งแผ่วเบาอ่อนหวานอ่อนโยน คะนิ้งเองก็เผลอไผลไปกับสัมผัสอ่อนโยนจนลืมตัว หลี่จวินถอนริมฝีปากออก

“นางผู้มีกลิ่นหอม เจ้ารู้ไหมเจ้าทำให้น้องชายฝาแฝดของข้าใจสั่น” คะนิ้งยังคงส่ายหน้า

“ซึ่ง ข้าไปสู้ชอบใจนัก…ข้า…...” คะนิ้งรอฟังคำพูดที่เหมือนจะถูกลืนหายไป

“ข้าอยากลับบ้าน” พูดเฉไฉไปเสียทางอื่น หลี่จวินจ้องตากลมโต

ถูกของเจ้าวังหลวงแห่งนี้แม้ผู้คนพลุกพล่านแต่ยากจะหาคนจริงใจไว้ข้าพาเจ้ากลับไปเยี่ยมบ้าน” คะนิ้งอยากจะบ้าตายจะอธิบายอย่างไรว่ากลับอย่างไรได้ในเมื่อเธอยัง ไม่รุ้ว่าจะเริ่มตรงไหนดี อ๋อนึกออกแล้วหลี่จวินบอกว่าไทฮองไทเฮาเป็นผู้ส่งอี๋เซียงมา อย่างนั้นต้องสืบหาอี๋เซียงก่อนว่านางหายไปไหน

แต่จะว่าไปคะนิ้งก็จำได้ตอนอยู่บนแท่นนอนฝ่าบาทหรือแท่นนอนจะเป็นประตูมิติ คะนิ้งวิ่งแจ่่นไปที่แท่นนอนทิ้งตัวลงนอนทันที หลี่จวินมองตามงงๆ แต่สักพักก็เผลอยิ้ม

“เจ้ายอมเป็นของข้าแล้วหรือ” พูดอย่างนี้แสดงว่าเมื่อคืนรู้แล้วว่าไม่ได้มีอะไรกัน เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว คะนิ้งคิดในใจ

“ใครจะเป็นของท่าน” หลับตากลั้นลมหายใจนับหนึ่ง...สอง...สาม ลืมตาขึ้น ภาพที่เห็นตรงหน้าคือใบหน้าหล่อเหลาของหลี่จวินที่ก้มลงใกล้จะประกบริมฝีปากอยู่แล้วคะนิ้งผลักออกไว้แน่นไม่น่าเลยอยู่ในที่รโหฐานกับคนหล่อขนาดนี้สองต่อสอง เฮ้อใจละลาย หลี่จวินหัวเราะดังลั่น ขำท่าทีหลับตานับหนึ่งสองสามของ คะนิ้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel