ตอนที่ 8 รับผิดแทน
ตอนที่ 8
“เจ้ากล้าดีอย่างไร ถึง...”
หานห่าวซวนดวงตาวาวโรจน์ด้วยเพลิงโทสะ มองสตรีที่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียงกว้าง อยากจะเข้าไปจับตัวนางเขย่า ๆ ให้แรง ๆ ที่นางกล้าเอาตัวเข้ามาพัวพันกับเขา
“ท่านแม่ทัพ ฮึก ๆ ข้าไม่ได้ทำ”
ใบหน้างามอาบไปด้วยหยดน้ำใสที่เอ่อล้นขึ้นมาไม่ขาดสาย เนื้อตัวก็ปวดระบมไปหมด โดยเฉพาะส่วนของร่างกายด้านล่าง จิตใจดวงน้อย ๆ ก็ยิ่งจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ยามคิดย้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หมดไปแล้วความบริสุทธิ์ที่เฝ้ารักษามาตามคำสั่งเสียของมารดา ไหนจะบิดาอีกถ้าท่านรู้ความจริง จะผิดหวังในตัวนางมากเพียงไหนหนอ
แล้วกุ้ยฟางเล่าจะมองนางว่าเป็นสหายรัก ที่ทรยศแย่งบุรุษที่นางชอบหรือเปล่า
และที่สำคัญ สายตาของบุรุษที่กำลังแต่งกาย มองนางด้วยความโกรธเกลียด ไม่เหลือแววของความอบอุ่นเหมือนครั้งก่อน ๆ เลย
“เจ้ารู้ไหม โทษของการวางยาข้า มีโทษถึงชีวิต เจ้าจะบอกเจ้าไม่ได้ทำ ถ้าอย่างนั้นคงเป็นพี่สาวของเจ้าทำ แล้วเจ้ามารับเคราะห์แทนอย่างนั้นหรือ”
“ขะ...ข้า”
ซีฮันอึกอัก แม้พี่สาวจะทำเรื่องเลวร้ายลงไป นางก็ไม่อยากให้พี่สาวต้องจบชีวิตลง แล้วจะทำอย่างไรดี จะสารภาพความจริงยืนกรานต่อว่าตนไม่ได้ทำ หรือจะยอมรับความผิดทั้งหมดไว้เอง
นิ่งคิดอยู่นาน หญิงสาวก็คิดตก ใช้ผ้าห่มพันปิดร่างกายเปลือยเปล่า พร้อมกับเปลี่ยนมานั่งคุกเข่าโขกศีรษะลงบนพื้นเตียง
“ซีฮัน ขออภัย ที่กล้าล่วงเกินท่านแม่ทัพ ความผิดครั้งนี้ หากท่านจะลงโทษด้วยชีวิต ข้ายอมเจ้าคะ”
หานห่าวซวนโกรธสตรีตรงหน้า จนไม่รู้จะโกรธอย่างไร ทำไมนางถึงมาก่อเรื่อง ตอนที่เขามีงานสำคัญต้องทำด้วย
“โธ่โว้ย”
มือหนาจึงหันไประบายอารมณ์ด้วยการชกหมัดไปที่กำแพงห้องแทน จนหลังมือหนาตอนนี้มีเลือดไหลซึมออกมา
ซีฮันรีบลงจากเตียงมาคว้าจับมือที่ใหญ่กว่าเอาไว้ ไม่ให้ทำร้ายตนเองอีก
“ท่านแม่ทัพ หากโกรธแค้นข้ามาก ก็ทุบตีข้าเถิด แต่อย่าได้ทำร้ายตนเองเช่นนี้เลย ดูเถิดหลังมือของท่านเลือดซึมออกมามากแล้ว”
“อย่ามาแตะต้องตัวข้า เจ้าไม่รู้หรอกว่า...เอาเป็นว่าข้าเกลียดเจ้า รังเกียจสิ่งที่เจ้าทำ”
ร่างบอบบางที่เข้ามาดูชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้ถูกคนที่นางเป็นห่วง จับเหวี่ยงลงไปกองอยู่บนพื้น จังหวะเดียวกับที่ประตูห้องถูกพังเปิดออก
“หยุดนะ ท่านแม่ทัพ กล้าย่ำยีเหมยเอ๋อร์ของข้าหรือ”
ใต้เท้าจ้าวเดินจ้ำอ้าวเข้ามาภายในห้อง ใบหน้าของชายสูงวัย โกรธขึ้งไม่แพ้กับอีกบุรุษ หลังปิงฟานกลับไปรายงานว่าบุตรีคนโต ถูกท่านแม่ทัพฉุดคร่าเข้าห้องในโรงเตี๊ยม จึงรีบเดินทางมาโดยเร็วที่สุด
“โธ่ ๆ เหมยเอ๋อร์ของแม่ หมดสิ้นแล้วความบริสุทธิ์”
จ้าวฮูหยินรีบถลาเข้ามาดูสตรี ที่กองอยู่บนพื้นห้อง ร่างกายอันเต็มไปด้วยรอยแดง มีเพียงผ้าห่มเท่านั้นที่ใช้พันกายเอาไว้ แต่พอได้เห็นชัดเต็มสองตา แววตาของหญิงสูงวัยเบิกกว้าง เผลออุทานออกมาเสียงดัง
“ซีฮัน ทำไมถึงเป็นเจ้า”
“อะไรนะ”
ใต้เท้าเจ้ารีบเข้ามาดู พบว่าคนที่ถูกฉุดคร่าไม่ใช่บุตรีคนโต แต่เป็นบุตรีคนเล็กต่างหาก
“นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
ปิงฟานหลบสายตาของเจ้านายทั้งสอง นางเองก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงได้ผิดฝาผิดตัวไปได้ คนที่อยู่ในห้องนี้ดันเป็นคุณหนูเล็ก แล้วคุณหนูใหญ่ของตนเล่า ไปอยู่เสียที่ไหน ถึงให้คนอื่นมาปาดหน้าเอาได้
“เกิดอะไรขึ้นนะหรือ ใต้เท้าจ้าว ถามบุตรีของท่านเอาเองเถิด ว่าอยากได้ข้าเป็นสามีถึงขั้นกล้าวางยาปลุกกำหนัดข้าเชียวหรือ”
ใต้เท้าจ้าวมองใบหน้าของบุรุษอ่อนวัยกว่าสลับกลับใบหน้างามของบุตรีคนเล็ก จะให้เชื่อในคำพูดของแม่ทัพหนุ่มผู้นี้ได้อย่างไร ในเมื่อฮันเอ๋อร์บุตรีที่รักมากของเขา นางประพฤติตนดีมาตลอดตามหลักคำสอนหญิง นางย่อมไม่มีวันทำเรื่องต่ำทรามเช่นนี้แน่
“ไม่จริงใช่ไหมฮันเอ๋อร์ ลูกไม่ได้ทำ ลูกถูกแม่ทัพผู้นี้ฉุดคร่าใช่ไหมลูก”
ซีฮันปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมายกใหญ่ ไม่รู้จะอธิบายกับทุกคนอย่างไรดี หากพูดความจริงไปก็กลัวว่าพี่สาวจะต้องโทษถึงชีวิต
“อย่าเอาแต่ร้องไห้สิ ตอบพ่อมาว่าลูกไม่ได้ทำ” น้ำเสียงของใต้เท้าวิงวอนขออย่าให้บุตรีทำอย่างที่แม่ทัพหนุ่มกล่าวหา
“ท่านพี่ เห็น ๆ อยู่ ที่ฮันเอ๋อร์เอาแต่เงียบ แสดงว่าที่ท่านแม่ทัพพูดเป็นความจริงทุกอย่าง ทำไมกันนะลูกไม่ฟังคำที่มารดาผู้นี้คอยอบรมสั่งสอนเลย”
หลังจากหายจากตกใจ ที่คนในห้องไม่ใช่บุตรีของตน จ้าวฮูหยินใหญ่ รีบใส่สีตีไข่ป้ายความผิดทั้งหมดให้บุตรของสตรีที่มาแย่งความรักไปจากสามีของตนทันที
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกขอโทษ”
ซีฮัน คลานเข้ามาจับเท้าของบิดา ก่อนจะเงยใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตาขึ้นมองสบสายตาของชายสูงวัย ที่บัดนี้แสดงออกมาว่าผิดหวังในตัวนางเพียงใด
ใต้เท้าจ้าวเสียใจและอับอายกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก แต่กระนั้นบุตรีของตนก็เป็นฝ่ายเสียหาย ในเมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แล้ว คงต้องจัดการให้ซีฮันแต่งเข้าจวนหานให้ได้
“ท่านแม่ทัพ ข้าขอโทษกับสิ่งเลวทรามที่บุตรีข้าทำ ข้ารับรองว่านางกลับไปจะได้รับโทษหนักสุดของจวนจ้าวแน่ แต่ว่าไหน ๆ ท่านกับนางก็ได้เสียกันแล้ว เพื่อรักษาชื่อเสียงของสองตระกูลเอาไว้ ท่านตกแต่งนางเข้าจวนเถิด”
“ใต้เท้าจ้าว เป็นตระกูลท่านกระมังที่จะอับอายขายขี้หน้ากับการกระทำของบุตรี”
ชายสูงวัยสะอึก ไม่รู้จะตอบโต้กลับไปอย่างไร กับเรื่องงามหน้าที่บุตรีทำ แล้วถ้าหากแม่ทัพหนุ่มไม่ยอมแต่งนางเข้าจวน ตระกูลจ้าวคงได้ย้ายสำมะโนครัวไปอยู่เมืองอื่นแน่
หานห่าวซวนข่มความโกรธเอาไว้ ที่ทุกอย่างทำให้แผนการของเขาเกือบพัง แต่ในเมื่อเรื่องมันเป็นเช่นนี้ เขาคงต้องหาทางพลิกแพลงให้ทุกอย่างกลับมาอยู่ในแผนการเดิมให้ได้
“เห็นแก่ที่ท่านเคยเป็นสหายสนิทของบิดาข้า ข้าจะรับนางเข้าจวน แต่อย่าได้หวัง ว่าข้าจะมองนางแบบบุรุษอื่นที่มองภรรยาที่รักของพวกเขา เพราะข้าแสนจะชิงชัง กลับวิธีการที่นางลงมือทำ”
กล่าวจบแม่ทัพหนุ่มก็หุนหันออกจากห้อง สวนกลับสุ่ยเซียนที่พึ่งกลับมาจากการตามหาคนสนิทของแม่ทัพหนุ่ม ซึ่งกว่าจะตามหาตัวเจอ นางจึงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดกลับคุณหนูของตน
“คุณหนู เกิดเรื่องอันใดขึ้น ทำไมเสื้อผ้าของคุณหนูจึง...”
พอมองดูเสื้อผ้าที่ถูกถอดออก สาวใช้ตาลุกวาวอย่าบอกนะว่า คุณหนูมาห้ามท่านแม่ทัพไม่ทัน จนต้อง...
“แต่งตัวให้นายของเจ้า กลับไปข้าจะลงโทษเจ้าทั้งสองให้เข็ด โทษฐานทำข้าขายหน้า”
ใต้เท้าจ้าวเองก็หุนหันออกจากห้องไป อยากจะมุดแผ่นดินหนีหายไปจากตรงนี้เลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าต่อไปจะกล้าแบกหน้าออกไปเจอผู้คนได้อีกหรือเปล่า
“สุ่ยเซียน ท่านพ่อคงเกลียดข้าแล้ว รวมถึงท่านแม่ทัพด้วย”
เมื่อทุกคนกลับออกไปจนหมด สตรีร่างบอบบางโผเข้ากอดสาวใช้ข้างกายเอาไว้แน่น อยากจะยึดเหนี่ยวเอาไว้ ในยามที่เจอเรื่องเลวร้ายเช่นนี้
“คุณหนูไม่ได้บอกทุกคนหรือเจ้าคะ ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือของคุณหนูใหญ่”
“...”
เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ร้องไห้อยู่เงียบ ๆ ไม่ยอมตอบคำถาม สุ่ยเซียนรู้ได้ทันทีว่าคุณหนูของนาง ต้องทำตัวเป็นคนดีรับผิดแทนคนอื่นอีกเป็นแน่...