ตอนที่ 7 ผิดแผน
ตอนที่ 7
แม่ทัพหานอ่านเนื้อความในจดหมายจบ ยันกายลุกขึ้นยืน ออกคำสั่งให้ผู้ติดตามออกไปเตรียมรถม้า ส่วนตัวเขานั้นเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด ก่อนจะสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย
ยามเมื่อเจ้าของจวนหานก้าวเท้าผ่านธรณีประตูออกมา รถม้าขนาดกลางก็จอดรออยู่หน้าประตูจวนเรียบร้อยแล้ว
“ท่านแม่ทัพ จะไปที่ไหนขอรับ”
อาหลงที่นั่งอยู่นอกรถม้าเคียงข้างกับสารถีเอ่ยถามผู้เป็นนายหลังจากที่ย่างกรายเข้าไปนั่งภายในรถม้าเรียบร้อยแล้ว
“โรงเตี๊ยมยวี่ช่าน”
เสียงเข้มตอบกลับมา สารถีจึงบังคับม้าให้วิ่งไปทางทิศตะวันตกของจวน ทิศทางที่จะไป ไม่ใช่เขตเศรษฐกิจของเมืองหลวง ดังนั้นผู้คนจึงไม่ค่อยพลุ่งพล่านมากนัก
เวลาผ่านไป 2 เค่อ รถม้าขนาดกลางก็หยุดสนิทอยู่หน้าอาคารสองชั้น ที่อยู่ในสภาพค่อนข้างเก่า อีกทั้งยังไม่ค่อยมีแขกเหรื่อเข้ามาใช้บริการมากนัก
“ท่านแม่ทัพ เชิญด้านนี้ขอรับ”
เสี่ยวเอ้อเข้ามาต้อนรับแม่ทัพหนุ่ม เหมือนจะรู้อยู่ก่อนแล้ว ว่าจะมาใช้บริการที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้
หานห่าวซวนไม่ได้ซักถามอันใด ออกคำสั่งให้ผู้ติดตามกับสารถี พากันหาอะไรดื่มกินรออยู่ด้านล่าง ส่วนตัวแม่ทัพนั้นได้เดินตามหลังเสี่ยวเอ้อขึ้นไปยังชั้นสอง
ก่อนเสี่ยวเอ้อจะผายมือให้บุรุษหนุ่มรูปงาม เข้าไปในห้องห้องหนึ่งที่มีสตรีนางหนึ่งรออยู่ด้านในแล้ว
“หนิงเหมย คารวะท่านแม่ทัพเจ้าคะ”
จ้าวหนิงเหมยยอบกายทำความเคารพบุรุษที่เข้ามาภายในห้อง ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มหวาน ตามที่มารดาสอน เพื่อใช้มัดใจของชายหนุ่ม
“ทำไมถึงเป็นเจ้า”
เสียงเข้มเอ่ยถาม พร้อมนัยน์ตาเหยี่ยวกวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง มองหาผู้ที่ส่งสารนี้ไปถึงเขา แต่พบว่าภายในห้องมีเพียงบุตรีคนโตของใต้เท้าจ้าวเพียงเท่านั้น
รอยยิ้มหวานเจื่อนลงเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทีเย็นชาของอีกฝ่าย อีกทั้งในสายตาของเขาไม่มองมาทางนางเลยด้วยซ้ำ
“ฮันเอ๋อร์ฝากขนมนี้มาให้ท่านแม่ทัพ เป็นการตอบแทนที่ท่านเลี้ยงอาหารในคราวก่อน ส่วนน้องสาวข้านั้นออกไปรับสหายของนาง จึงฝากให้ข้ามาช่วยต้อนรับท่านแม่ทัพก่อน”
หนิงเหมยใจแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ไม่รู้ว่าแม่ทัพใหญ่แคว้นฉินผู้นี้จะเชื่อในคำโกหกของนางหรือเปล่า และจะยอมทานขนมที่อยู่ในกล่องหรือไม่
ห่าวซวนพอได้ยินว่าเป็นฝีมือของซีฮัน รีบแกะกล่อง มองขนมเฉียวกั่วหน้าตาน่าทาน เป็นรูปต่าง ๆ หลากหลายรูป แต่ยังไม่ยอมหยิบขึ้นมาทาน
จ้าวหนิงเหมยเห็นเช่นนั้น จึงขอตัวออกไปดูข้างนอกหน่อย ว่าน้องสาวกับสหายของนางมาถึงกันหรือยัง
“ท่านแม่ทัพยอมทานแล้วหรือเจ้าคะ” ปิงฟานพอเห็นคุณหนูใหญ่ออกมาจากห้อง ได้รีบออกจากที่หลบซ่อนเข้าไปสอบถามผู้เป็นนายทันที
“ตอนนี้ยังหรอก...เจ้ารีบกลับไปตามท่านพ่อท่านแม่มาที่นี่เร็วเข้า ข้าว่าปานนี้ท่านแม่ทัพคงทานขนมฝีมือน้องสาวตัวดีของข้าแล้วล่ะ”
“เจ้าคะ คุณหนูวางใจบ่าวได้เลย”
หนิงเหมยยืนมองสาวใช้ลงบันไดไปด้านล่างจนลับหายไปจากสายตา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมา แผนการของท่านแม่ช่างง่ายดายเหลือเกิน ตอนนี้ก็รออยู่ตรงนี้ก่อน รอเวลาให้แม่ทัพหนุ่มยอมตักขนมใส่ปาก ซึ่งหากนางเข้าไปเสนอหน้าตอนนี้ เขาอาจจะไม่ยอมทานก็ได้
ด้านหานห่าวซวนได้ใช้เข็มเงินทดสอบพิษ จนครบทุกชิ้นแล้ว เมื่อปลายเค็มยังคงเงาวับแวววาวเหมือนเดิม จึงลองหยิบขนมหนึ่งชิ้นขึ้นไปกัดกิน รสชาติของขนมนั้นอร่อยกว่าร้านที่ทำขายอยู่เป็นประจำเสียอีก
...นางช่างมีฝีมือทำขนมเป็นเลิศเสียจริง...
ไม่ถึงชั่วพริบตาขนมชิ้นแรกก็หมดไป มือหนาจึงเอื้อมไปหยิบขนมเฉียวกั่วขึ้นมาอีกชิ้น กำลังขยับจะเข้าปาก สตรีนางหนึ่งก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา ปัดขนมในมือจนตกลงไปบนพื้น
“ท่านแม่ทัพ ทานไม่ได้นะเจ้าคะ”
เสียงหวานสั่นพร่า จากการออกแรงวิ่งขึ้นบันไดมาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่นางต้องรีบ ไม่อย่างนั้นท่านแม่ทัพจะทานขนมที่พี่สาวของนาง ลักลอบวางยาปลุกกำหนัดเข้าไปแน่
“เหตุใดข้าจะทานไม่ได้ ในเมื่อเจ้าเป็นคนทำและยังเป็นคนนัดข้าออกมา บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะพูดด้วย”
“ข้าไม่ได้นัดท่านออกมา”
ซีฮันปฏิเสธ นี้คงเป็นฝีมือของพี่สาวที่ยืมชื่อของตน หลอกให้ท่านแม่ทัพออกมาแน่ หากตอนนั้นที่สุ่ยเซียนนำกล่องขนมไปส่งที่เรือนของพี่สาว แล้วดันลืมของเอาไว้ จึงย้อนกลับไปเอาอีกรอบ จนได้ยินพี่สาวกับมารดาคุยเรื่องแผนการจับท่านแม่ทัพมาเป็นสามีด้วยวิธีที่สกปรก
เมื่อสาวใช้มารายงาน ประจวบเหมาะพี่สาวรีบเดินทางออกจากจวน นางถึงได้รีบตามมา เพื่อห้ามปรามไม่ให้เกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้น แต่ไม่รู้ว่านางมาได้ทันเวลาหรือเปล่า
นัยน์ตาหงส์มองกล่องขนมที่เปิดอ้าเอาไว้ พอนับจำนวนดู พบว่าขนมเฉียวกั่วหายไปหนึ่งชิ้น
“ทะ...ท่านทานไปแล้วหรือ”
“ใช่ เจ้าทำขนมได้อร่อยมาก”
เมื่อเอ่ยตอบหญิงสาวไปแบบนั้น หานห่าวซวนเริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติในร่างกาย บรรยากาศรอบตัวที่ดูจะร้อนมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า หรือเป็นเพียงความร้อนจากร่างกายของเขากันแน่ หนำซ้ำยิ่งมีสตรีผู้งดงามยื่นทำตาเบิกกว้าง ยิ่งกระตุ้นอารมณ์กำหนัดภายในกายของบุรุษให้เพิ่มทวีมากขึ้น จนแก่นกลางกายขยายเหยียดปวดหนึบ
“ท่านแม่ทัพ ตั้งสติดี ๆ ก่อน ข้าจะไปตามคนมาช่วย”
เมื่อเห็นอาการไม่สู้ดีของแม่ทัพหนุ่ม ซีฮันจึงคิดจะออกไปตามคนมาช่วยเหลือ เพียงแต่ยังก้าวไปไม่ทันถึงประตู ร่างกายแกร่งกลับย่างกรายไปถึงก่อน หนำซ้ำยังลงกลอนปิดประตูเสียแน่นหนา
“จะทำอะไรนะเจ้าคะ”
ซีฮันเอ่ยถาม ริมฝีปากอวบอิ่มสั่นระริก สองเท้าน้อยขยับถอยหลัง หนีให้ห่างจากคนตรงหน้า ที่กำลังย่างสามขุมเข้าหานางเหมือนหมาป่าที่กำลังออกล่าเหยื่อ
“ทำโทษคนที่กล้าวางยาข้านะสิ”
แม่ทัพหนุ่มที่ร้อนรุ่มไปทั่วทั้งตัว แม้รู้ว่าสิ่งนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่ทว่าเพราะฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัด ทำให้แก่นกลางกายปวดร้าว ต้องการที่จะระบายอารมณ์ปรารถนาออก จึงทำให้เขาไม่อาจหักห้ามใจเดินตรงเข้าหากระต่ายน้อยที่อยู่ในอาการตื่นกลัว
“ไม่ ข้าไม่ได้ทำ”
ซีฮัน ขยับหนีจนกระทั่งรู้สึกว่าขากระทบเข้ากับสิ่งหนึ่ง พอหันหน้าไปมองพบว่า นางหนีจนมาชิดกับขอบเตียงแล้ว กำลังคิดจะขยับหนีไปทางอื่น แต่ก็ถูกฝ่ายล่าเข้ามาประชิดตัว และผลักร่างบอบบางนอนลงไปบนเตียง จากนั้นนางก็ถูกพันธนาการด้วยร่างกายที่แกร่งกว่า
“ท่านแม่ทัพ ได้โปรดตั้งสติดี ๆ ก่อน”
แต่เสียงวิงวอน หรือร้องไห้คร่ำครวญมิอาจหยุดยั้งอำนาจของยาปลุกกำหนัดได้
ไม่นานอาภรณ์ของบุรุษและสตรีก็ถูกขว้างปาลงไปกองรวมกันอยู่บนพื้น ตามมาด้วยเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจากการสูญเสียพรหมจรรย์ในคราแรก พอต่อมากลับกลายเป็นเสียงร้องตามอารมณ์ปรารถนาจากริมฝีปากของคนทั้งสอง
หลังจากอารมณ์ถูกปลดปล่อยจนหมดทุกหยาดหยดแล้ว สติของแม่ทัพหนุ่มเริ่มจะกลับคืนสู่สภาวะปกติเต็มร้อย เขารีบผละออกจากร่างกายขาวผ่อง ที่กำลังนอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ นัยน์ตาเหยี่ยวมองหยดสีแดงที่เปื้อนผ้าที่ปูเตียง สองมือกำหมัดแน่น...