ตอนที่ 1 “สวมหมวกเขียว?”[4]
“ฮู... เอ่อ แม่นางหาน ท่านคงจะไม่นั่งอยู่เช่นนี้ไปตลอดใช่หรือไม่?”
“ข้าขอแนะนำให้ท่านรีบเก็บข้าวแล้วออกไปจากที่นี้โดยเร็วเถิด ก่อนที่นายน้อยจะเปลี่ยนใจแล้วไปแจ้งเรื่องของท่านกับทางการ”
“ไปเถอะขอรับ ข้าจะช่วยแม่นางเอง” หานว่านอี้ได้ยินเสียงเอ่ยเตือนเช่นนั้นจึงได้สติ
ใช่แล้ว นางจะมานั่งอยู่ที่นี่ไม่ได้ นางยังตายไม่ได้เพราะนางยังมีลูกน้อยให้ต้องดูแล ถึงสุดท้ายแล้วไต้เว่ยจะไม่ยอมรับลูกของนาง แต่เด็กคนนี้ก็ยังคงเป็นลูกของนางอยู่ดี เช่นนั้นแล้วนางก็จะดูแลเขาให้ดีที่สุด
“ขอบคุณท่านพ่อบ้าน” หานว่านอี้ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาแล้วพยุงตัวเองขึ้นเดินตามพ่อบ้านกลับไปที่ห้องของตน
นางเก็บเสื้อผ้าสองสามชุดและเครื่องประดับอันน้อยนิดที่ติดตัวมาตั้งแต่ยังอยู่กับบิดามารดา ของมีค่าทั้งหลายที่อดีตสามีมอบให้นางไม่หยิบมาแม้แต่ชิ้นเดียว และเมื่อเก็บข้าวของทุกอย่างครบ นางจึงเดินตามพ่อบ้านออกมาจากเรือน
“รถม้างั้นหรือ... พ่อบ้าน ข้าคงไม่จำเป็นต้องใช้มัน ข้าไม่มีตำลึงจ่ายค่ารถม้า” หานว่านอี้ปฏิเสธที่จะใช้บริการรถม้าที่พ่อบ้านเตรียมไว้ให้ซึ่งจอดรอไว้อยู่หน้าเรือน
“แม่นางหาน รถม้านี้ฮูหยินใหญ่สั่งให้ข้าเรียกมาเองขอรับ เรื่องค่าจ้างฮูหยินใหญ่จัดการเรียบร้อยแล้ว แม่นางอยากให้รถม้าไปส่งที่ใดเขาจะไปส่งให้ถึงที่ ท่านไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องนั้นเลย” พ่อบ้านเอ่ยตอบออกไปเสียงราบเรียบ
“เช่นนั้นหรอกหรือ... ฝากขอบคุณท่านแม่--- เอ่อ ฮูหยินใหญ่ด้วย ข้าขอลา” หานว่านอี้คำนับพ่อบ้านครั้งหนึ่ง ก่อนจะหันหน้าไปทางเรือนหลักของตระกูลไต้แล้วคำนับลงอีกรอบอย่างนึกขอบคุณในความกรุณาที่นี่มีต่อนางตลอดมาก่อนจะขึ้นรถม้าจากไป
โดยที่นางไม่ได้รับรู้เลยว่าใต้ต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงากับผู้ที่อยู่อาศัยในตระกูลใหญ่หลังนี้ ได้มีไต้เว่ยถือไหสุรายืนมองอดีตฮูหยินของตนเองจนรถม้าวิ่งลับสายตาไป
“นายน้อย ส่งแม่นางหานขึ้นรถม้าไปแล้วขอรับ” พ่อบ้านเดินกลับเข้ามารายงานให้เจ้านายตนเองรับทราบ เพราะความจริงแล้วเป็นนายน้อยไต้เว่ยต่างหากที่จัดการเรื่องรถม้าให้กับอดีตฮูหยินของตน
“คนขับรถม้าไว้ใจได้หรือไม่” ไต้เว่ยเอ่ยถามขึ้นเสียงเบา
“เป็นเจ้าประจำที่เรียกใช้อยู่บ่อย ๆ ขอรับ”
“เช่นนั้นก็ดี"
ไต้เว่ยได้ยินเช่นนั้นก็โบกมือไล่พ่อบ้านออกไป ส่วนตัวเขาก็เดินกลับเข้าไปยังห้องนอนที่ครั้งหนึ่งเขาได้เคยกอดก่าย และใช้ชีวิตร่วมกันกับนางอย่างมีความสุข แต่จากนี้จะไม่มีอีกต่อไปแล้ว
“อี้เอ๋อร์ เหตุใดกัน ทำไมเจ้าจึงใจร้ายทำร้ายข้าเช่นนี้ทั้งที่ข้ารักและทะนุถนอมเจ้ามาเสมอ ทำไม…”
ไต้เว่ยเอ่ยรำพันออกมาก่อนจะยกไหสุราขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด และเมื่อสุราในไหไม่เหลือสักหยดเขาจึงปาไหสุราไปกระทบกับฝาผนังห้องอย่างไม่ไยดี เหมือนกับคำถามของไต้เว่ยที่หานว่านอี้คงไม่ได้ยิน คำถามของไต้เว่ยเองก็คงไม่ได้รับคำตอบเช่นกัน