บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

ณ จวนสกุลหลิว

ภายในเรือนชมจันทร์ แสงสีทองในยามรุ่งอรุณส่องทะลุช่องหน้าต่างที่สลักลวดลายเป็นรูปดอกโบตั๋น ผ่านผ้าม่านโปร่งบางเข้ามาทอดทับร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงกว้าง ก่อนที่จะสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย

หญิงสาวลุกพรวดพราดขึ้นมานั่ง มือหนึ่งกุมหัวใจที่ยังสั่นสะท้าน รู้สึกได้ถึงเหงื่อเย็นๆ ที่ผุดพรายไปทั่วใบหน้า แพขนตาสั่นระริกเมื่อเพ่งมองไปรอบ ๆ เพื่อปรับสายตาให้คุ้นชินกับแสงสว่างภายในห้อง

เจ้าของใบหน้างดงามพยายามปรับลมหายใจให้เป็นปกติ ขณะเดียวกันก็กวาดสายตาไปรอบตัว พร้อมกับนึกทบทวนถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มันช่างคล้ายกับภาพฝันมากกว่าจะเป็นเรื่องจริง

ภาพในความทรงจำทำให้ร่างบอบบางเกิดอาการสั่นไหว สองมือรีบลูบไล้ไปตามเนื้อตัว สำรวจดูว่านี่เป็นร่างกายของมนุษย์หรือว่าสุนัขกันแน่ จากนั้นจึงค่อยถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

ว่าแต่... ที่นี่คือที่ไหน?!

หลิวฟ่านซีรู้สึกตื่นตระหนก พลางก้มลงสำรวจตัวเองอีกครั้ง คิดในใจว่าก่อนหน้านี้ตนเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ร่างกายแข็งแกร่ง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ตรงกันข้ามกับร่างใหม่ที่เพิ่งได้รับมา กลับกลายเป็นเพียงสาวน้อยวัยสิบหกย่างสิบเจ็ดปี รูปร่างผอมบางราวกับจะถูกลมพัดปลิวไปได้อย่างง่ายดาย

สายตากวาดมองเครื่องแต่งกายที่สวมใส่ ดูแล้วเหมือนอยู่ในยุคจีนโบราณ แต่ไม่อาจบอกได้ว่าเป็นสมัยไหนหรือราชวงศ์ใด บางทีดินแดนแห่งนี้ อาจไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับโลกที่ตนเคยรู้จักเลยก็เป็นได้

ทว่าเพียงแค่ชั่วอึดใจเสียงบานประตูก็ถูกเปิดออก ตามด้วยก้อนขนสีขาวขนาดใหญ่พุ่งทะยานเข้ามาในห้องด้วยความรวดเร็ว

“โฮ่ง!”

“...”

“ฟื้นแล้วหรือ ข้าเป็นห่วงแทบแย่ เห็นเจ้าไม่ยอมตื่นขึ้นมาสักที!”

ปฏิกิริยาแรกของคนบนเตียงคือชะงักงัน ตามด้วยกระถดตัวถอยห่างออกไปด้วยความตกใจสุดชีวิต สุนัขพูดได้ในโลกนี้ มันเป็นเรื่องปกติอย่างนั้นหรือ? นี่มันโลกอะไรกัน!!

“มะ...หมาพูดได้!”

หลิวฟ่านซีจ้องมองสุนัขตัวกลมขนปุกปุยด้วยความตกตะลึง ในใจได้แต่คิดว่า...นี่คงเป็นร่างใหม่ของพวกลูกน้องหนึ่งในสามคนที่ตนได้เห็นภาพก่อนมาโผล่ที่นี่กระมัง

“ชู่วว เบา ๆ สิ! หมาปกติพูดได้ที่ไหนกันล่ะ นี่ข้าเองเฉินห่าวยังไงล่ะ!”

เฉินห่าวเป็นรุ่นพี่ของหลิวฟ่านซีที่กรมตำรวจ ทั้งสองทำงานร่วมกันมานานหลายปี ถึงแม้เขาจะมีฝีมือและความสามารถ แต่เพราะเป็นคนพูดจาขวานผ่าซาก ไม่ชอบทำงานเอาหน้า เกลียดการประจบประแจงเจ้านาย ทำให้หน้าที่การงานของเขาไม่ค่อยก้าวหน้าสักเท่าไหร่

จนกระทั่งบรรดารุ่นน้องต่างพากันเลื่อนตำแหน่งแซงหน้าไปหมด ส่วนเขาที่ยังย่ำอยู่กับที่ ก็กลายมาเป็นมือเป็นเท้าให้แก่หลิวฟ่านซีแทน โดยมีหญิงสาวคอยเป็นกันชนลดแรงปะทะระหว่างผู้บังคับบัญชาให้กับเขา

“พี่เฉินจริง ๆ ด้วย!”

หลิวฟ่านซีพูดพลางใช้สองมือพุ่งไปขยำหน้ากลม ๆ ที่เต็มไปด้วยขนสีขาวปุกปุยของอีกฝ่ายอย่างอดใจไม่ไหว คิดไม่ถึงว่าเฉินห่าวที่เคยมีใบหน้าไม่เป็นมิตรและมีนิสัยขวางโลก จะกลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่สุดแสนจะน่ารักตัวนี้ได้

“ใช่ ข้านึกจะเปลี่ยนใจก็ไม่ทันการซะแล้ว นี่มันเหมือนหลอกลวงกันชัด ๆ ไหนไอ้ระบบเฮงซวยนั่นบอกจะให้ข้าได้เกิดใหม่ มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม งานการไม่ต้องทำ มีอาหารชั้นเลิศให้กินอิ่มหนำ มีคนมาคอยปรนนิบัติป้อนข้าวป้อนน้ำให้ถึงปาก แถมยังได้หลับนอนในห้องของสาวน้อยวัยละอ่อนทุกคืน ทำไมไม่บอกก่อนล่ะว่าส่งให้มาเกิดเป็น ‘หมา’! แล้วแบบนี้ข้าจะไปร้องเรียนกับใครได้!”

เฉินห่าวบ่นอุบ นึกสาปส่งไอ้ระบบบ้า ๆ ไม่น่าดันไปตกปากรับคำเพราะเห็นแก่คำพูดขายฝันนั่นเลยจริง ๆ!

“ว่าแต่ทำไมพี่เฉินถึงได้พูดสรรพนามโบราณอะไรแบบนั้นล่ะ ข้าฟังแล้วรู้สึกพิลึกชะมัด”

ทว่าทันทีที่หลิวฟ่านซีเอ่ยปากพูดบ้าง สรรพนามที่ใช้ก็ไม่แตกต่างอะไรกัน แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือเสียงที่เปล่งออกมา ช่างฟังดูนิ่มนวล อ่อนโยน และไพเราะราวกับเสียงสวรรค์ นี่เป็นเสียงเจ้าของร่างเดิมอย่างนั้นหรือ?

“ไม่รู้สิ พูดออกมาก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว คงถูกกำหนดให้พูดตามยุคสมัยล่ะมั้ง”

ผู้ที่เพิ่งได้ร่างใหม่ไม่ได้สนใจในคำตอบ ร่างงดงามผุดผาดของสาวน้อยวัยแรกแย้ม ลุกก้าวลงจากเตียงด้วยท่าทางนุ่มนวล ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่โต๊ะแต่งตัว มองภาพสะท้อนของตนเองในกระจกอย่างไม่เชื่อสายตา...

“นะ...นี่มัน!? ใบหน้าของข้า ช่างงดงามราวกับเทพธิดาอะไรเช่นนี้”

หลิวฟ่านซีเพิ่งเคยเห็น ใบหน้าที่มีโครงหน้าได้รูปครบองค์ประกอบ ดวงตางดงามประดุจนัยน์ตาหงส์ จมูกรับกันกับริมฝีปากเล็กที่แดงระเรื่อ เส้นผมดำขลับเงางามประดุจดังเส้นไหม ผิวกายเปล่งประกายผุดผ่องขาวนวลเนียนราวกับหยกขาวชั้นดี เอวขอดกิ่ว แขนขาเรียวเพรียวบาง

แบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าหญิงงามล่มเมือง?!

“เจ้าช่วยฟังข้าพูดก่อนจะได้หรือไม่...?”

“พี่เฉิน...นี่ร่างใหม่ของข้าอย่างนั้นหรือ? พี่ช่วยออกความคิดเห็นหน่อยสิ ว่าอย่างข้านี่พอจะเรียกว่าสตรีงามล่มเมืองได้หรือเปล่า?”

“...”

เฉินห่าวได้แต่เหลือกตามองขึ้นไปบนขื่อบ้านอย่างหมดอารมณ์ที่จะตอบ นี่มันใช่เวลามาห่วงเรื่องความสวยความงามหรือ? ที่ผ่านมากระทั่งโฟมล้างหน้ายังไม่เคยเห็นอีกฝ่ายคิดจะใช้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel