บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

ที่ใจกลางของสวนดอกไม้ ไทเฮานั่งอยู่ในศาลาหลังใหญ่ที่ประดับด้วยผ้าม่านโปร่งและดอกไม้สด ภาพลักษณ์ของพระนางงดงามและดูสูงส่ง ดวงตายังคงเปี่ยมด้วยความเยือกเย็นและความสงบในท่าทาง ด้านข้างมีฮองเฮาและเหล่าสนมนั่งไล่เรียงกันตามลำดับชั้น

ไทเฮารับการคารวะจากเหล่าสตรีที่เข้ามาถวายความเคารพและกล่าวคำสรรเสริญเยินยอด้วยรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้า

หลิวฟ่านซีเดินเข้ามาในงานพร้อมกับเสี่ยวเป่า วันนี้นางสวมชุดผ้าไหมสีขาวบริสุทธิ์ปักลวดลายดอกลี่ฮวาด้วยดิ้นเงิน ดูเรียบหรูแต่แฝงไปด้วยความงดงามอ่อนช้อย ซึ่งชุดของนางถูกตัดเย็บให้เข้ากันกับชุดของเสี่ยวเป่า ทำให้เจ้าสุนัขที่มีขนสีขาวฟูฟ่องยิ่งเพิ่มความน่ารักน่าเอ็นดูมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ท่ามกลางการจับตามองของสตรีทั้งหลาย ทั้งคู่เดินเข้ามาอย่างสง่างาม พลางหยุดยืนตรงหน้าของไทเฮาและฮองเฮา ก่อนที่จะก้มลงคำนับอย่างอ่อนน้อม

"ถวายพระพรไทเฮาและฮองเฮาเพคะ" เสียงของหลิวฟ่านซีหวานใส ฟังดูนุ่มนวลแต่ชัดเจน

ไทเฮายิ้มอย่างพอพระทัย ขณะที่สายตาสบกับนางด้วยความเมตตา พอใจในความงดงามและความเรียบร้อยในท่าทางของหลิวฟ่านซีที่เปี่ยมด้วยความสง่างาม ไม่ด้อยไปกว่าสตรีใดในงาน อีกทั้งยังมีเจ้าสุนัขแสนรู้ที่หมอบนิ่งคล้ายกับกำลังทำท่าคำนับอยู่กับพื้น

"เจ้าทั้งคู่รีบลุกขึ้นเถิด อย่าได้มากพิธีเลย"

"ขอบพระทัยเพคะ" หลิวฟ่านซีกล่าวเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้น นางหันไปคารวะฮองเฮาอย่างนอบน้อมเช่นกัน

ฮองเฮามองดูนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะยิ้มบาง ๆ "เสด็จแม่มีรับสั่งให้ห้องเครื่องเตรียมของชอบของเสี่ยวเป่าเอาไว้มากมายเลยทีเดียว"

"ขอบพระทัยฮองเฮาเพคะ" หลิวฟ่านซีตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ส่วนผู้ที่ถูกกล่าวถึงก็ได้แต่กระดิกหางไปมาด้วยความดีใจ ยามนึกถึงของอร่อย ๆ ที่จะได้สวาปามเข้าปาก

ไม่นานนัก อี้ฮวาอี๋ก็เดินเข้ามาในงาน นางสวมชุดผ้าไหมสีชมพูลายดอกลี่ฮวาที่ดูสง่างามและหรูหรา ชุดที่สั่งตัดเย็บอย่างประณีตมีความพิเศษที่น่าสนใจในทุกรายละเอียด ลวดลายดอกลี่ฮวาเป็นลายปักที่ซับซ้อนและงดงามที่ทอด้วยไหมชั้นดีจากเมืองซูโจว ซึ่งเป็นผ้าหายากและไม่สามารถหาพบได้ทั่วไป

อี้ฮวาอี๋เดินย่างกรายด้วยมั่นใจ รู้สึกถึงความภาคภูมิใจในชุดของตัวเองอย่างเต็มที่ และไม่พลาดที่จะอวดความงามนี้ให้กับผู้ที่มาร่วมงานได้เห็น

"ชุดของคุณหนูอี้ช่างงดงามยิ่งนัก ข้าไม่เคยเห็นผ้าที่มีลวดลายดอกลี่ฮวาละเอียดลออเช่นนี้มาก่อน คงจะหายากน่าดู" หนึ่งในสตรีที่คิดจะตีสนิทกับอี้ฮวาอี๋รีบกล่าวชื่นชม

อี้ฮวาอี๋ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ "ชุดนี้เป็นผ้าไหมที่หายากและมีลายดอกลี่ฮวาเฉพาะตัว ข้าโชคดีที่ได้มันมา ได้ยินว่าร้านเฉิงชุนมีเพียงพับเดียวเท่านั้น" นางตอบพลางลูบชายแขนเสื้ออย่างเบามือ

"โอ้ ช่างโชคดีเสียนี่กระไร" สตรีอีกคนกล่าวด้วยความริษยา ก่อนหน้านี้นางเองก็ได้ยินว่าทางร้านผ้าเฉิงชุนเพิ่งขายผ้าลายดอกลี่ฮวาสีชมพูจากซูโจวไปด้วยราคาหลายพันตำลึง ครั้นนางลองให้สาวใช้ไปสอบถามที่ร้านอื่น ก็ไม่มีร้านไหนมีผ้าชนิดนี้วางขายอยู่เลยสักพับ

อี้ฮวาอี๋หัวเราะเบา ๆ สีหน้าเปี่ยมด้วยความภูมิใจ "ไม่เพียงแค่นั้น ข้ายังสั่งให้ช่างตัดผ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหลวงเป็นผู้ลงมือตัดเย็บให้อีกด้วย”

ระหว่างนั้นบรรยากาศในงานเลี้ยงดำเนินไปอย่างราบรื่น เหล่าสตรีได้ลิ้มรสอาหารและขนมหวานที่ถูกจัดเตรียมมา มีการกล่าวชมเชยดอกไม้ และแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาดอกไม้ให้เบ่งบานได้อย่างสวยงามในทุกฤดูกาล

งานในวันนี้นอกจากจะมีการชมดอกไม้และจิบชาแล้ว ยังมีการแสดงที่มีนางรำมาร่ายรำท่ามกลางสวนดอกไม้อีกด้วย

ฮองเฮาทอดพระเนตรไปรอบ ๆ ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะตรัสด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "ข้าได้ยินว่ากองสังคีต ได้เตรียมระบำชุดพิเศษมาเพื่อสร้างความเพลิดเพลินให้แก่ท่านแม่และผู้ที่มาร่วมงานทุกคน"

รับสั่งของฮองเฮาทำให้บรรดาแขกเหรื่อต่างหันไปมองยังลานกว้างด้วยความคาดหวัง เสียงพึมพำด้วยความตื่นเต้นดังขึ้นทั่วบริเวณ

ทันทีที่เสียงดนตรีอันไพเราะเริ่มบรรเลง กลุ่มนางรำในชุดสีชมพูอ่อนประดับลายดอกลี่ฮวาสีชมพู เสียงฮือฮาและเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นทั่วบริเวณ

ทันใดนั้นสายตาทุกคู่ก็จับจ้องสลับไปมาระหว่างนางรำบนเวทีและอี้ฮวาอี๋ที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน เมื่อชุดที่เหล่านางรำสวมใส่นั้นเหมือนกับชุดของอี้ฮวาอี๋ทุกประการ ทั้งเนื้อผ้า ทั้งรูปแบบและการตัดเย็บ

สีหน้าของอี้ฮวาอี๋เปลี่ยนจากความภาคภูมิใจเป็นอับอายในชั่วเพียงพริบตา นางรู้สึกเหมือนถูกสาดน้ำเย็นใส่หน้า จ้องมองชุดของพวกนางรำไม่กระพริบตา

"นี่... นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?" อี้ฮวาอี๋พึมพำ มือสั่นเทาขณะจับชายเสื้อของตัวเองด้วยความงุนงง

สตรีรอบข้างที่เมื่อครู่ยังชื่นชมชุดของอี้ฮวาอี๋ ต่างเริ่มซุบซิบกันเบา ๆ บางคนพยายามกลั้นหัวเราะ บางคนมองด้วยสายตาเวทนา กระนั้นเสียงหัวเราะเยาะก็ถูกกลบด้วยเสียงปรบมือ

"คุณหนูอี้...เหตุใดจึงยังยืนอยู่ที่นี่ ไม่รีบไปรวมกลุ่มกับพวกนางรำหรือ? ดนตรีเริ่มบรรเลงแล้วนะ!" หนึ่งในสตรีที่ยืนใกล้กล่าวขึ้นอย่างกลั้นขำ

อี้ฮวาอี๋รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหมุนคว้าง นางพยายามรวบรวมสติ "นี่... นี่คงเป็นความเข้าใจผิด ชุดของข้าเป็นชุดที่สั่งตัดเย็บมาโดยเฉพาะ..." เสียงพึมพำของนางเบาราวกับเสียงบินของแมงหวี่ ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะแก้ตัวหรือแสดงท่าทีโมโหออกมา

หลังจากการร่ายรำจบลง ไทเฮาก็ทอดพระเนตรมองเหตุการณ์ด้วยความสนพระทัย ก่อนจะตรัสด้วยน้ำเสียงที่ทุกคนสามารถได้ยิน

"อ้อ นี่เป็นความคิดที่น่าสนใจทีเดียว ให้บุตรสาวขุนนางสูงศักดิ์แต่งกายเหมือนนางรำ เพื่อแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างราชสำนักและประชาชนใช่หรือไม่"

เสียงของไทเฮาทำให้ทุกคนเงียบกริบ อี้ฮวาอี๋รู้สึกเหมือนถูกช่วยชีวิตและถูกตบหน้าในเวลาเดียวกัน

ฮองเฮาและเหล่าสนมที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ต่างพาพยักหน้าเบา ๆ อย่างสำรวมกิริยา ส่วนอี้เฟยที่เห็นว่าน้องสาวกลายเป็นตัวตลกได้แต่ทำสีหน้าไม่ถูก ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร

หลิวฟ่านซียืนอยู่ในมุมสงบของสวน ดวงตาคมกริบจับจ้องไปที่อี้ฮวาอี๋และกลุ่มคนที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์อย่างออกรส นี่มันเรื่องอะไรกัน เหตุใดอี้ฮวาอี๋ถึงได้ใส่ชุดเหมือนนางระบำเช่นนี้

"แปลกจริง หรือนี่จะเป็นฝีมือของหม๋าเจี้ยน ไหว้วานให้คนของร้านผ้าเฉิงชุนทำเพื่อกลั่นแกล้งนาง" หลิวฟ่านซีส่งเสียงพึมพำกับสุนัขร่างกลมที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ด้วยความสงสัย

“เหอะ ๆ...ข้าว่าไม่ใช่หรอก ถ้าเป็นฝีมือตาเฒ่าผู้นั้น คงสั่งให้ลงมือฆ่ายกครัวตระกูลอี้เสียมากกว่า” เฉินห่าวส่งเสียงกระซิบกระซาบกลับไปเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน

“แล้วใครกันล่ะที่เป็นคนลงมือในเรื่องนี้!?” เฉินห่าวกับหลิวฟ่านซีได้แต่ทำหน้างุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel