
บทย่อ
ในยามที่บ้านเมืองกำลังเผชิญภัยคุกคามรอบด้าน หานซิงเยว่ต้องยกทัพไปปราบปรามพวกกบฏทางตอนเหนือ . ถึงแม้จะเป็นห่วงภรรยาคนงามที่เพิ่งแต่งเข้าจวน กับ มารดาของตนที่เพิ่งหายป่วยเอาไว้เบื้องหลัง แต่นางกลับบอกว่าไม่ต้องเป็นกังวล . ระหว่างที่หานซิงเยว่ไม่อยู่ ศัตรูตัวฉกาจก็ไม่รอช้า วางแผนชั่วร้ายหมายจะวางยาสังหารหลิวฟ่านซี เฉกเช่นที่เคยทำกับฮูหยินคนก่อน . งานนี้ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่จะต้องกุมขมับ เพราะเจอหลิวฟ่านซีวางแผนตลบหลัง ทั้งชิงวางยาตัวเองก่อน . ทั้งแกล้งทำผีหลอก รวมถึงเรียกให้สองป้าหลาน มานั่งฟังดนตรีที่นางบรรเลงได้อย่างน่าปวดประสาทแทบทุกวัน . อีกทั้งพวกก๊วนหมา ๆ ยังหาทางกลั่นแกล้งกลับสารพัด พร้อมงัดกลเม็ดมาจัดการคนชั่วสารพัดวิธี... . เห็นทีพวกศัตรูตัวร้ายคงต้องปวดหัวหนัก... เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฮูหยินสุดป่วนและเหล่าก๊วนหมาแสบ! ที่ยากจะรับมือ!
บทที่ 1
ในคืนที่เงียบสงัด ในห้องหนังสือของจวนตระกูลหาน หานซิงเยว่นั่งอยู่หลังโต๊ะไม้แกะสลัก ใบหน้าคมคายเรียบนิ่งดุจผืนน้ำ แต่ดวงตากลับฉายแววเฉียบคม เสียงฝีเท้าเบา ๆ ทางนอกห้องดังขึ้น ก่อนที่จิ่งสงจะก้าวเข้ามาในห้อง
"ท่านแม่ทัพ ข้าได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับการทุจริตของอี้หย่งจินและไป๋เสียนเว่ย ทั้งบันทึกการรับส่งเงิน และรายชื่อผู้เกี่ยวข้องเอาไว้เรียบร้อยแล้วขอรับ"
ริมฝีปากของหานซิงเยว่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง "ดี ส่งหลักฐานทั้งหมดไปให้ขุนนางฝ่ายตรวจการ”
“แล้วเรื่องคุณหนูอี้ล่ะขอรับ นางกล้าวางแผนการทำร้ายคุณหนูหลิวถึงเพียงนั้น ท่านแม่ทัพจะจัดการเช่นไร” จิ่งสงรู้ดีว่าปกติเจ้านายของตน เวลาลงมือแต่ละครั้งล้วนเด็ดขาดและยากจะรับมือ แม้ไม่เคยคิดจะหาเรื่องสตรี แต่อย่างน้อยก็ควรหาทางสั่งสอนอีกฝ่ายให้หลาบจำสักหน่อยไม่ใช่หรือ?
เหมือนกับเรื่องของฉู่เหมาบัณฑิตตกอับผู้นั้น หลังจากที่โดนทรมานอย่างหนักจนยอมรับสารภาพความผิดทั้งหมด เขาก็ถูกท่านแม่ทัพทารุณกรรมและสั่งลงโทษด้วยการตัดลิ้นจนกลายเป็นคนพิการ โทษฐานที่พูดจาใส่ร้ายคุณหนูหลิวและถูกเนรเทศไปยังชายแดนที่ทุรกันดาน
ส่วนคุณหนูก็มีท่านหญิงเสวียนชิงช่วยเป็นธุระจัดการให้ ด้วยการให้กู้อวิ๋นปิงแต่งงานกับคนเสเพลอย่างหานเหอรุ่ย ทำให้ชีวิตของนางไม่ต่างอะไรกับการตกนรกทั้งเป็น
หานซิงเยว่ใช้นิ้วเคาะที่โต๊ะเบา ๆ ดวงตาทอประกายแข็งกร้าวขึ้นมาชั่วขณะ ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ลงมือจัดการกับอี้ฮวาอี๋เพราะไม่มีหลักฐานเอาผิดนางโดยตรง อีกทั้งยังคิดจะจับปลาใหญ่อย่างอี้หย่งจิน จึงยังไม่ได้ลงมือทำอะไร แต่ในเมื่อเวลานี้อีกฝ่ายเริ่มมีการเคลื่อนไหว เขาเองก็คงต้องจัดการลงดาบจัดการสักที
"ข้ามีงานสำคัญให้เจ้าทำ"
จิ่งสงค้อมกายเล็กน้อย "ท่านแม่ทัพโปรดสั่งมาเถิดขอรับ"
หานซิงเยว่ยิ้มบาง "ก่อนหน้านี้ข้าได้ข่าวจากเถ้าแก่ร้านผ้าเฉิงชุนว่าอี้ฮวาอี๋ เพิ่งสั่งซื้อผ้าไหมปักลายดอกลี่ฮวา[]สีชมพูอ่อน นำเข้ามาจากเมืองซูโจว นางคงตั้งใจจะใส่ไปร่วมงานเลี้ยงชมดอกไม้ของไทเฮาเป็นแน่"
"ผ้าไหมปักลายดอกลี่ฮวาสีชมพูอ่อนหรือขอรับ?" จิ่งสงทวนคำ
"ใช่ ให้เจ้าไปกว้านซื้อผ้าชนิดนี้มาทั้งหมด ไม่ว่าจะมีเท่าไหร่ก็ตาม อย่าให้เหลือแม้แต่เพียงชิ้นเดียว"
“ขอรับ” จิ่งสงรับคำหนักแน่น แม้จะไม่รู้ถึงแผนการของผู้เป็นนายว่าคิดจะทำสิ่งใด แต่เขามั่นใจว่าหลังจากนี้จะต้องมีเรื่องสนุกให้ดูเป็นแน่
หลายวันต่อมา อี้ฮวาอี๋ก็สั่งให้คนนำผ้าที่เพิ่งซื้อมาไปตัดชุดยังร้านตัดเสื้อชื่อดังของเมืองหลวง เมื่อไปถึงสาวใช้รีบยื่นม้วนผ้าไหมปักลายดอกลี่ฮวาสีชมพูอ่อนให้กับช่างตัดเสื้อประจำร้านตามคำสั่งที่ได้รับ
“คุณหนูของข้ากำชับมา ชุดที่สั่งตัดนี้จะต้องเป็นชุดที่ดูสง่างามและงดงามที่สุด”
ช่างตัดชุดรีบรับผ้าไปด้วยรอยยิ้ม “ข้าจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดขอรับ”
หลังจากนั้นไม่นาน อี้ฮวาอี๋ก็ได้ชุดใหม่ที่นางตั้งใจจะใส่ไปงานเลี้ยงชมดอกไม้ที่วังหลวง นางลองชุดด้วยความตื่นเต้น หันซ้ายหันขวาดูตัวเองในกระจกด้วยความพอใจ
"คุณหนูช่างโชคดีจริง ๆ ที่ได้ผ้าผืนนี้มา ข้าได้ยินว่าที่ร้านผ้าเฉิงชุนมีผ้าลายดอกลี่ฮวาพับนี้เพียงแค่พับเดียวเท่านั้น ส่วนร้านอื่น ๆ ในเมืองล้วนไม่มีขายแม้แต่ม้วนเดียวเลยเจ้าค่ะ” สาวใช้พูดพลางจัดชายกระโปรงให้เรียบร้อย
อี้ฮวาอี๋หมุนตัวเบา ๆ ชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนปักลายดอกลี่ฮวาสีชมพูอ่อนพลิ้วไหวตามการเคลื่อนไหว นางกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ พลางยิ้มกว้าง “หึ ๆ มันก็แน่นอนอยู่แล้ว งานนี้ใคร ๆ ต่างก็ต้องการหาผ้าลายดอกลี่ฮวา เพื่อใส่ให้เข้ากับงานเลี้ยงชมดอกไม้ที่ไทเฮาตั้งใจจัดขึ้น โชคดีที่ข้าเป็นลูกค้าประจำของร้านผ้าเฉิงชุน เถ้าแก่เลยเก็บผ้าผืนนี้เอาไว้ให้ข้า”
สาวใช้อีกคนกล่าวเสริม "ชุดนี้งดงามมากจริง ๆ รับรองว่าคุณหนูจะต้องเป็นที่จับตามองด้วยความอิจฉาอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ"
ขณะเดียวกัน ไป๋เสียนเว่ยสามีของนาง ก็กำลังยุ่งอยู่กับงานใหม่ในตำแหน่งที่เพิ่งได้รับแต่งตั้ง เขาได้รับมอบหมายให้ดูแลการค้าขายของราชสำนัก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเส้นทางการค้าและการเก็บภาษีสินค้านำเข้า การเลื่อนขั้นครั้งนี้ทำให้เขามองเห็นโอกาสทอง ในการสร้างอำนาจและความมั่งคั่งให้กับครอบครัว
ทั้งนี้เป็นเพราะเส้นสายและอำนาจของรองเสนาบดีอี้หย่งจิน ที่ช่วยผลักดันให้ลูกเขยเจริญในหน้าที่การงาน อี้ฮวาอี๋จึงตั้งใจสร้างมิตรภาพกับสตรีสูงศักดิ์คนอื่น ๆ ในงานชมดอกไม้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี และปูทางให้สามีในวงการขุนนางต่อไปในอนาคต
เมื่อถึงวันงานเลี้ยงชมดอกไม้ที่จัดขึ้นในวังหลวง คู่สามีภรรยาจึงเดินทางไปร่วมงานด้วยใบหน้าชื่นมื่น อย่างน้อยเรื่องการเลื่อนขั้นของไป๋เสียนเว่ยก็ช่วยให้อี้ฮวาอี๋รู้สึกดีขึ้นบ้าง หลังจากที่นางต้องเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกับเรื่องสมรสพระราชทานของหลิวฟ่านซีและหานซิงเยว่ ที่ไม่เข้าใจว่าทำไมสตรีอย่างหลิวฟ่านซี ดูภายนอกแสนจะธรรมดาและไร้ความสำคัญ แต่กลับสามารถครอบครองหัวใจของแม่ทัพผู้ทรงอำนาจอย่างหานซิงเยว่ได้...
รถม้าของเหล่าบรรดาผู้สูงศักดิ์ทั้งหลาย ต่างแล่นเข้ามาจอดยังด้านหน้าพระราชวัง แบ่งออกเป็นสองฝั่งระหว่างชายหญิง งานนี้ก็เหมือนเช่นเคย หลิวหยวนไม่คิดจะมาร่วมงาน ส่วนหลิวฮูหยินเองก็ยุ่งวุ่นวายกับการเตรียมงานแต่งของบุตรสาว เลยส่งหลิวฟ่านซีกับเสี่ยวเป่ามาร่วมงานแทน
งานเลี้ยงชมดอกไม้ที่จัดขึ้นในวังหลวง สถานที่ที่ใช้จัดงานอยู่ในสวนดอกไม้ที่รายล้อมไปด้วยดอกลี่ฮวาสีขาวบริสุทธิ์กำลังเบ่งบานราวกับจะแข่งขันกัน สายลมอ่อนพัดเอากลิ่นหอมเหล่านั้นให้ลอยกระจายไปทั่ว สร้างบรรยากาศให้รื่นรมย์และสดชื่นยิ่งนัก
บรรดาสตรีสูงศักดิ์ที่ได้รับเชิญมาเข้าร่วมงาน ต่างสวมใส่ชุดและเครื่องประดับที่หรูหรางดงาม บ่งบอกถึงฐานะและความสำคัญของตนเอง พวกนางพากันเดินเล่นในสวน พลางพูดคุยกันเบา ๆ ในขณะที่สายตาก็สำรวจดอกไม้ที่บานสะพรั่งรอบตัวไปด้วย
