บท
ตั้งค่า

บทที่ 8 สองพี่น้องตระกูลไป๋

บทที่ 8

สองพี่น้องตระกูลไป๋

บรรยากาศระหว่างครอบครัวนั้นอบอุ่นเป็นอย่างมาก ไป๋ฮวาเป็นเด็กสาวที่ร่าเริงน่ารัก แม้จะซุกซนไปบ้างแต่ก็ยังคงอยู่ในกรอบประเพณีอันดีงาม วันนี้ได้พูดคุยกับเหอซีหยางผู้เป็นพี่เขยเป็นครั้งแรก นางก็มิได้แสดงท่าทีว่ารังเกียจที่เขาเป็นคนตาบอดเลย กลับสั่งให้บ่าวรับใช้ดูแลเขาเป็นอย่างดีด้วย

ทั้งเตรียมอาหารที่เหอซีหยางชอบมาให้ น้ำชาในกาก็ไม่ร้อนเกินไป ด้วยกลัวว่าถ้าพลาดทำหกขึ้นมาจะได้ไม่บาดเจ็บ

"ท่านพี่เขยคือข้ามีสิ่งหนึ่งที่ไม่เข้าใจเจ้าค่ะ วันนี้ข้าเรียนเรื่องบทกวีแล้วนึกสงสัยสิ่งที่อาจารย์สั่งสอน ถ้าข้าจะขอให้ท่านพี่เขยช่วยชี้แนะจะได้หรือไม่เจ้าคะ"

"ย่อมได้ เจ้าว่ามาได้เลยและต่อไปเรียกข้าว่าท่านพี่ซีหยางก็ได้"

"เจ้าค่ะ เช่นนั้น..."

เหอซีหยางมีท่าทีที่ผ่อนคลายและกระตือรือร้นขึ้นมาก เขาชอบเรื่องบทกวีมากที่สุด ยิ่งได้เจอคนที่สนใจในเรื่องเดียวกัน และต้องการคำชี้แนะจากเขา เขายิ่งรู้สึกดีขึ้นมาก ไป๋ฮวาหันมายักคิ้วยิ้มหวานให้กับพี่สาว ด้วยรู้ดีว่าท่านพี่คงมีเรื่องอยากคุยกับอาซวน นางจึงคิดเปิดโอกาสให้คุยกันได้สะดวกมากขึ้น

"เจ้าทำดีมาก"

ไป๋อวี้เปล่งคำพูดออกมาโดยไม่มีเสียง นางขอตัวไปห้องของตนเองโดยใช้ความทรงจำเดิมจากเจ้าของร่างคนเก่า และได้ลากแขนไป๋อี้ซวนให้ติดตามมาด้วย เมื่ออยู่ภายในห้องและปิดประตูสนิทเรียบร้อย โดยมีผู่เยว่ที่รู้ความคอยเฝ้าหน้าห้องเอาไว้แล้วนั้น ไป๋อวี้ก็ได้ซักถามเรื่องที่ติดอยู่ในใจของนางทันที

"อาซวน เจ้ารู้เรื่องที่พี่ถูกวางยาพิษแล้วใช่หรือไม่ สุราที่พี่ดื่มเข้าไปเป็นอย่างไรบ้าง สืบหาร้านค้าที่ขายยาพิษกลืนวิญญาณนี้ได้หรือไม่"

เรื่องในครั้งนั้นคนตระกูลไป๋ไม่มีผู้ใดกล้าปล่อยผ่านเลยสักคน แม้ว่าท่านพ่อจะต้องไปไปยังชายแดน แต่ก็ได้ฝากฝังเรื่องนี้ให้ไป๋อวี้ซวนช่วยสืบต่อ สุราที่อยู่ในที่เกิดเหตุก็ได้ถูกนำกลับมาให้เขาตรวจสอบด้วย

"ถ้าร้านทั่วไปไม่มีหรอกขอรับ แต่ถ้าในตลาดมืดที่ตรอกคนจรนั้นไม่แน่ ข้ากำลังให้คนเร่งตามสืบร้านที่แอบขายพิษนี้อยู่ คงต้องใช้เวลาอีกสักพักขอรับ"

"เรื่องนี้ไม่ง่ายเลยจริง ๆ คนร้ายที่แท้จริงเป็นใครก็มิอาจรู้ได้ ไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์ใดกันแน่"

ไป๋อี้ซวนแม้อายุยังน้อยแต่กลับฉลาดเฉลียวเป็นอย่างมาก ด้วยอยู่ในสนามรบเคียงข้างผู้เป็นบิดามาหลายปี มีเพียงปีนี้ที่เขากลับมาศึกษาต่อยังสำนักศึกษาในเมืองหลวง เพื่อเตรียมความพร้อมสอบเข้าเป็นบัณฑิตในภายภาคหน้า

"เรื่องการเมืองหรือเปล่าขอรับ หากท่านพี่ตายตระกูลเหอกับตระกูลไป๋ก็จะบาดหมางกัน"

"เรื่องนี้ก็น่าคิด หรือไม่... ก็เป็นเรื่องของความอิจฉาริษยาของสตรี"

"อะไรนะขอรับ"

ไป๋อี้ซวนทำหน้ามึนงง แค่ความอิจฉาจะทำให้สังหารคนอย่างโหดเหี้ยมได้เลยหรือ

"มีเรื่องหนึ่งที่เจ้าต้องจำเอาไว้นะอาซวน อย่าได้ดูถูกความอิจฉาของสตรีและความเจ้าคิดเจ้าแค้นของพวกนางเด็ดขาด สิ่งหนึ่งที่เจ้าควรระวังก็คือสตรีที่ภายนอกมีท่าทางอ่อนหวานไร้เดียงสา"

"แล้วสตรีที่ดูตรงไปตรงมา ทว่ากลับเหมือนกับนางร้ายในโรงงิ้วเล่าขอรับ"

ไป๋อี้ซวนยักคิ้วด้วยท่าทางยียวน เขามองหน้าผู้เป็นพี่สาวไปด้วย ไป๋อวี้ที่รู้ว่าน้องชายหมายถึงตนก็อยากจะตรงเข้าไปเขกศีรษะนัก กำลังพูดถึงเรื่องเคร่งเครียดกลับมาเปลี่ยนเรื่องเสียได้

"พี่จริงจังนะอาซวน กล้ายอกย้อนพี่หรือ"

"ข้าก็แค่สงสัยน่ะขอรับ" ไป๋อี้ซวนหดคอ

"สตรีเช่นพี่ร้ายกว่าเยอะเลยล่ะ เพราะคนเช่นพี่จะพุ่งใส่โดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น มารยาหรือ... คนอย่างพี่ย่อมเก่งกาจกว่าสตรีอ่อนหัดพวกนั้นอีก หึ ๆ"

ไป๋อวี้แสยะยิ้มเหี้ยมเกรียม นางมิกลัวสตรีที่ทำตัวเป็นแม่ดอกบัวขาวหรอก เพราะนางคือกุหลาบที่มีหนามแหลมคมพร้อมที่จะทิ่มแทงอย่างไรเล่า

"โอ๊ยยย... พี่ใหญ่ยิ้มเช่นนี้น่ากลัวนะขอรับ ถ้าเกิดพี่เขยเกิดกลัวจนขอหย่าขาดกับท่านเล่า"

เขาเอ่ยอย่างติดตลก ทว่าสีหน้าของพี่สาวกลับจริงจังเสียอย่างนั้น

"หย่าก็ดี พี่จะได้ไปใช้ชีวิตของตนเอง แต่เขาจะต้องมอบสิ่งล้ำค่าให้พี่เสียก่อน"

สิ่งนั้นก็คือบุตรอย่างไรเล่า แม้นางจะพูดว่าจะมอบบุตรชายให้บิดาของเขา แต่ถ้านางให้กำเนิดบุตรออกมาจริง ๆ และเขาต้องการหย่าขาดกับนาง นางก็จะเอาลูกไปอยู่ด้วย โดยให้เขาใช้แซ่ของบิดาได้ มาเยี่ยมที่จวนตระกูลเหอได้ แต่จะไม่ยอมให้ผู้ใดพรากสิ่งล้ำค่าไปจากอกของนางเป็นอันขาด

ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย นางก็รักทั้งสิ้น!

ไป๋อี้ซวนไม่กล้าถามอะไรต่ออีก เขาเดินไปหยิบจดหมายฉบับหนึ่งมาให้กับพี่สาวแทน

"ท่านพี่จะหย่าก็ช่าง หรือไม่หย่าก็ช่าง แต่ว่ามีคนส่งจดหมายมาให้ขอรับ เขายังฝากมาบอกว่าคิดถึงท่านพี่มากด้วยขอรับ"

"..."

ไป๋อวี้รับจดหมายที่ถูกปิดผนึกขึ้นมาอ่าน โดยที่ไป๋อี้ซวนได้เดินออกไปจากห้อง ปลีกตัวให้พี่สาวได้อ่านจดหมายโดยสะดวก ส่วนตัวเขาก็จะไปชวนพี่เขยคุยเล่นระหว่างรอ

หญิงสาวนั่งลงบนเตียงแล้วเปิดจดหมายขึ้นมาอ่าน นางนิ่งไปครู่กับเนื้อหาด้านใน ก่อนจะอ่านทวนอีกครั้งหนึ่ง

'ถึงอวี้เอ๋อร์ ข้าเสียใจยิ่งนักเรื่องที่เจ้าถูกวางยาพิษในคืนแต่งงานของเจ้า หากข้ารู้ว่าเป็นฝีมือผู้ใดข้าย่อมไม่ยอมปล่อยเอาไว้แน่ ข้าเป็นห่วงเจ้ายิ่งนักด้วยรู้ดีว่าสามีของเจ้านั้นมิได้รักใคร่ในตัวเจ้าเลย แต่เจ้าอย่าได้เสียใจหรือคิดมากไป เพราะเจ้ายังคงมีข้าอยู่ทั้งคน ข้าจะคอยอยู่เคียงข้างเจ้าไม่จากไปไหน และอีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้ข้าจะมาเยือนเมืองหลวง หวังว่าเราจะได้พบกันอีกครั้ง คิดถึงเจ้าเสมอจากมู่ห่าวรัน'

"มู่ห่าวรันหรือ... ผู้ใดกันล่ะเนี่ย?"

ไป๋อวี้พยายามคุ้ยในความทรงจำ ทว่ามันช่างรางเลือนยิ่งนัก ในนิยายก็ไม่ได้มีตัวละครตัวนี้เลย แล้วเขาคือผู้ใดกันเล่าเนี่ย ยิ่งอ่านก็จับใจความแค่เขาเป็นห่วงและคิดถึงนางมาก และอีกไม่นานก็จะได้เจอกัน หวังว่ามู่ห่าวรันผู้นี้จะไม่ใช่คนรักของไป๋อวี้นะ...

เฮ้อ... ทำไมนางรู้สึกว่าเรื่องชักจะวุ่นวายอีกแล้วล่ะเนี่ย เรื่องคนร้ายก็ยังไม่กระจ่าง ความสัมพันระหว่างสามีก็ลุ่ม ๆ ดอน ๆ แล้วยังมีมู่ห่าวรันที่เป็นปริศนาอีก จะเอ่ยถามไป๋อี้ซวนก็กลัวว่าทุกคนจะสงสัย

ช่างเถอะ! รอพบกันก็จะรู้ได้เอง ตอนนี้เรื่องที่ควรคิดคือคนร้ายต่างหากเล่า!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel