ตอนที่ 4 ภารกิจแรก
“ท่านอ๋อง..นี่มันบ้าไปแล้ว หากหมดธุระแล้ว ข้าขอตัว”
ลี่อินเดินออกไปจะออกจากห้อง
“หงลี่อิน!!”
ลี่อินหยุดกึกที่หน้าห้อง ไม่รู้ว่าเขาเดินตามนางมาเมื่อใด แต่รู้อีกที ลมหายใจเขาก็รดอยู่ที่ต้นคอนางแล้ว
“อย่าลืมว่าเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ หาไม่แล้ว..”
“หม่อมฉันแล้ว ขอตัวเพคะ”
ลี่อินรีบออกจากห้องนั้นอย่างรวดเร็วและรีบกลับมานั่งดูละครต่อ
“หวังเจา!!”
“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง
“กลับจวน”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“ลี่อิน เจ้าไปที่ใดมา ละครกำลังสนุกเลย มาดูเร็วเข้า”
“เจ้าค่ะๆ”
ลี่อินดูละครไม่รู้เรื่องแล้ว จิตใจนางสั่นไม่เป็นจังหวะ หัวใจนางไม่เคยเต้นเร็วเช่นนี้แม้แต่ในละครที่นางดูก็ไม่เคยทำให้ใจเต้นแรงเหมือนวันนี้มาก่อน
“ลี่อิน เจ้าเป็นอะไรไป เหตุใดจึงหน้าแดงเช่นนี้ล่ะ”
“ข้า..หน้าแดงงั้นหรือ”
“หรือว่าคุณหนูจะมีไข้อีกแล้วเจ้าคะ”
“เพ้อเจ้อน่าอาชิง ละครจะจบแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ”
“ไปสิ ข้าจ่ายเงินแล้ว กลับกันเถอะ”
ลี่อินเดินกลับบ้านไปทั้งๆที่ไม่ได้ฟังที่โอหยางรุ่ยพุดเลยว่าเขาคุยอะไรบ้าง นางเอาแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย คิดเรื่องที่ท่านอ๋องจอมโหดนั่นสั่ง เรื่องที่เขาขู่ เรื่องจิบชา และยังมายืนขู่ก่อนที่นางจะออกจากห้อง
“อึ๊ยย ขนลุุก”
“หา ลี่อิน ขนลุกอะไรงั้นหรือ เจ้ากลัวปลาหมึกงั้นหรือ”
“ปลาหมึก ทำไมเจ้าคะ”
“ก็ข้าพึ่งคุยกับเจ้าว่าชอบกินหนวดปลาหมึกอย่างไรเล่า”
“อ้อๆ เจ้าค่ะๆ คือมัน..”
“ข้าเข้าใจ มันเหมือนมีหลายขาจนน่าขนลุกใช่หรือไม่”
“ใช่เจ้าค่ะๆ”
“เอาล่ะ ถึงจวนเจ้าแล้วลี่อิน ข้าไปก่อนนะ”
“ขอบคุณพี่โอหยางเจ้าค่ะ”
“แหม พี่ใหญ่ คู่หมั้นมาส่งถึงจวนเลยเชียวหรือ ท่านนี่ก็ไม่ธรรมดานะ”
“แหม คุณหนูรองนี้ก็ช่างสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่นไปทั่วจริงๆนะ มิน่าล่ะ”
“อะไร ท่านจะพูดอะไร”
“มิน่าเล่า เพราะชอบสอดรู้เช่นนี้ ถึงได้ไม่มีบุรุษใดมาสู่ขอเสียที”
“นี่ท่าน…หึ เพียงคนธรรมดา ไม่เหมาะสมกับข้าหรอก”
“อ้อ งั้นหรือ ระวังนะ หวังมากไปจะใต่คานโดยไม่รู้ตัว”
“นี่หงลี่อิน”
“ขอตัวล่ะ”
ลี่อินทำหน้าล้อเลียนซินมี่ก่อนจะเดินเข้าห้องของตนเองไปโดยไม่สนใจนางอีก เมื่อนางเดินเข้าไปในห้องก็ต้องพบกับความตกใจใหม่ มีดบินอันเล็กพร้อมจดหมายบินมาปักที่เสาข้างเตียงนาง
“คืนนี้ หอลู่เหลียน”
“เจ้าอ๋องบ้า แล้วข้าจะออกไปอย่างไรกัน เอาแต่ใจเกินไปแล้ว”
ยามห้าย ( 21.00 น. )
“ข้าต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ใช่ บ้าไปแล้ว”
ลี่อินค่อยๆย่องออกจากประตูหลังจวน เมื่อปิดประตูก็พบว่ามีคนรออยู่แล้ว จนนางตกใจ
“เจ้ามาช้า”
“ไอ้บ้า…อุ่ย ขออภัยท่านอ๋อง พระองค์มาทำอะไรที่นี่มืดๆ”
“มารอเจ้าอย่างไรเล่า หากรอนานกว่านี้ เราจะไปสายแล้ว”
เขารวบตัวนางและพาขึ้นรถม้าไปทันที เมื่อวางตัวนางที่ด้านในแล้วลี่อินจึงหันมาค้อนเขาพร้อมกับถาม
“ท่านอ๋องจะให้หม่อมฉันทำสิ่งใด”
“ปลอมตัว”
“เป็นนางโลม
“เจ้าเล่นเครื่องดนตรีเป็นบ้างหรือไม่”
“พิณ ผีผา ฉิน ขลุ่ยเล่นได้หมด”
“รำได้หรือไม่”
“หม่อมฉันเคยเห็นในละคร แต่ยังไม่เคยทำ”
“วันนี้เราจะไปพบคนผู้หนึ่ง ต้องให้เขาดื่มเหล้าในห้องเพื่อจะได้เอาของที่ตัวเขา เจ้าทำได้หรือไม่”
“หม่อมฉันคนเดียวงั้นหรือ”
“อืม”
“แล้วหากว่าหม่อมฉันถูกเขาลวนลามเล่า”
“ดูแล้ว ไม่น่าจะโดน”
“นี่ท่าน!!”
ลี่อินชี้นิ้วไปที่เขา ใบหน้าโกรธจัดแต่พูดอะไรไม่ได้ นางทำได้เพียงครางในลำคออย่างนึกโมโห เหตุใดต้องซวยมาเจอเขาด้วย แล้วยังใช้งานนางอีก
หอลู่เหลียน
“ตามข้ามาทางนี้”
พวกเขาเข้ามาจากทางด้านหลังของหอ และพาตัวนางไปที่ห้องแต่งตัวเพื่อเตรียมพร้อม
“อีกเดี๋ยวข้าจะให้คนมารับเจ้า เจ้าแต่งชุดนี้และออกไปเล่นดนตรีในห้องของเขา”
“เดี๋ยวก่อน ท่านอ๋องจะไม่บอกเสียหน่อยหรือว่าเขาคือใครกัน”
“เฉียนเซิน เจ้าก็อย่าลืมเสียล่ะ ใช้เสน่ห์….อันน้อยนิดที่มียั่วยวนเขาให้ได้ล่ะ คุณหนูหง”
“หม่อมฉันทำงานนี้สำเร็จท่านอ๋องจะยอมปล่อยหม่อมฉันใช่หรือไม่”
ท่านอ๋องไม่หันกลับมามองนางเพียงแต่หันข้างให้เท่านั้น
“คิดดูก่อน”
“นี่ท่าน!!…”
ประตูปิดลง ลี่อินมองชุดที่ต้องใส่พร้อมกับก่นด่าท่านอ๋องไปด้วย
“ไอ้คนบ้า ไอ้คนเลว คอยดูนะ หากว่าข้าหลุดไปได้นะ…ฮึ่มม ชุดบ้าอะไรเนี่ยย ไอ้อ๋องลามก!!”
ห้องส่วนตัวเฉียนเซิน
“ท่านอ๋อง ไหนท่านบอกว่าวันนี้จะมีการแสดงนางรำชุดพิเศษที่เตรียมให้ข้ามิใช่หรือ”
“ใต้เท้าเฉียนอย่าพึ่งรีบร้อน นางรำของข้าคงกำลังแต่งตัวเพื่อมารับใช้ท่านอยู่ขอรับ ของดีน่ะ ต้องดูหลังจากดื่มสุราดีก่อน”
“ฮ่าๆ ยอดเยี่ยมๆ เชื่อแล้วว่าฝีปากท่านอ๋องเยี่ยมเกินผู้ใดจริงๆ มา ดื่มๆๆ”
“ท่านอ๋อง แม่นางมาแล้วเจ้าค่ะ”
“ให้พวกนางเข้ามา”
เฉียนเซินมองนางรำที่เดินเข้ามาห้าคน คนที่หกถือพิณมาด้วย หงลี่อินนั่นเอง นางเอาพิณปกปิดชุดที่น้อยชิ้นจนโชว์สัดส่วนของนางก่อนจะรีบเดินไปหลังม่านเพื่อวางพิณลง ชุดที่นางสวมเป็นชุดนางรำที่สวมเพียงเกาะอกด้านนอกสีเขียว กระโปรงพริ้วเข็มขัดระย้าสีทองมีผ้าผูกเพื่อปิดจมูกกับปากเอาไว้พร้อมกับสายระย้าสีทองที่เข้ากับเครื่องสวมมาลาและเข็มขัดทอง
“เริ่มได้”
ลี่อินได้ฟังคนที่คุมดนตรีแล้วว่าจะให้นางเล่นเพลงแบบใด นางแค่ดีดพิณตามเท่านั้น เฉียนเซินนั้นถูกใจการแสดงของนางรำชุดนี้เป็นอย่างมาก
“เยี่ยม ยอดเยี่ยมมาก”
ท่านอ๋องจิบเหล้าไปพร้อมกับมองไปที่ลี่อินที่ดีดพิณอยู่ด้านหลัง เฉียนเซินเองก็ดูเหมือนจะสนใจนางเช่นเดียวกัน เพราะผิวของนางช่างขาวเนียนสะดุดตาและโดดเด่นยิ่งกว่านางรำที่ออกมา
“นี่ เจ้าน่ะ ข้าอยากเห็นเจ้ารำ พวกเจ้าน่ะ ไปเล่นดนตรี ข้าอยากเห็นนางรำ”
“เอ่อ ใต้เท้าเฉียน ท่านเมาแล้วหรือ”
“ฮ่าๆๆ ท่านอ๋อง การแสดงนี้ถูกใจข้ายิ่งนัก มา ดื่มๆๆ ”
“ดื่ม”
“เอ้าเร็วเข้าสิ เจ้าน่ะ ออกมาเร็ว”
ลี่อินมองหน้าท่านอ๋องอย่างขอความช่วยเหลือ แต่สายตาท่านอ๋องกลับว่างเปล่าพร้อมกับพูดกับนาง
“รีบออกมาสิ อย่าให้ใต้เท้าเฉียนไม่พอใจ เร็วๆเข้า”
ลี่อินคิดไม่ถึงว่าเขาจะสั่งเช่นนี้ นางจำใจเดินออกไป ในเมื่อเป็นภารกิจ นางหวังว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะเจอกับเขา
“เอาล่ะเริ่มได้”
เมื่อลี่อินเริ่มร่ายรำ ดูเหมือนว่าเฉียนเซินจะเริ่มถูกใจนางมากขึ้นเรื่อยๆ ท่วงท่าที่นางรำล้วนไม่มีผู้ใดเคยเห็น เพราะนางจำมาจากคณะละครที่นางดู ลี่อินมีความสามารถด้านนี้มาก แต่เพราะนางเกิดในตระกูลขุนนาง จึงไม่มีโอกาสที่จะได้ทำการแสดงเช่นนี้ที่ใดมาก่อน ท่านอ๋องเองก็คาดไม่ถึงว่านางจะร่ายรำได้งดงามถึงเพียงนี้ จังหวะนี้เขาจึงเทผงยาใส่ในเหล้าของเฉียนเซินได้
เขาส่งสัญญาณให้ลี่อิน เพื่อให้นางป้อนเหล้าเฉียนเซิน เขารับจอกเหล้านั้นไปดื่มอย่างง่ายดาย ลี่อินวางเหยือกเหล้าลงอย่างโล่งอก ท่านอ๋องก็เช่นกัน แต่ว่าเขาคิดไม่ถึงว่าเฉียนเซินจะดึงตัวลี่อินลงมานั่งบนตักของเขา ท่านอ๋องเองก็ตกใจ ลี่อินหันไปมองที่เขา แต่เขาก็ยังไม่กล้าทำสิ่งใด นางจึงต้องช่วยตัวเอง
"ใต้เท้าเจ้าคะ หากอยากลองชิมข้า ใต้เท้าต้องดื่มเหล้านี้ให้หมดเสียก่อน แล้วข้า…..
นางค่อยๆลูบไปที่แผงคอของเขาอย่างเย้ายวน ท่านอ๋องรู้สึกใจคอไม่ดี เขาเริ่มกลืนน้ำลายเหนียวลงคอไป แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดจึงรู้สึกหงุดหงิดถึงเพียงนี้
“คนงาม ข้าจะเชื่อฟังเจ้า แต่ขอข้า หอมแก้มเจ้าทีหนึ่งก่อนนะ”