2. ตัวละครที่ไม่มีในเรื่อง
“พระชายา เป็นอย่างไรบ้างเพคะ” เสียงจากหญิงสาวแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแบบคนโบราณทำเอาซีซีถึงกับคิ้วขมวดในทันที เธอมองไปรอบตัวก่อนจะนิ่งไปเพื่อใช้ความคิด เพราะจำได้แม่นว่าตรงที่เกิดอุบัติเหตุไม่ใช่ที่นี่แน่
“หึ! ยังรอดอีกหรือ เจ้าควรจะตายไปเสียสตรีที่ข้าหมายหมั้นจะได้มาอยู่ในตำแหน่งนี้แทนเจ้า ข้าล่ะเกลียดจริงๆ สตรีสำออยขี้ฟ้องเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่ผู้อื่น”
เสียงทุ้มของชายร่างสูงดังขึ้น เธอเงยหน้ามองอีกฝ่ายซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาเอามากๆ อีกทั้งการแต่งตัวก็ดูจะเวอร์วังราวกับเป็นราชนิกูรสมัยโบราณในซีรี่ย์ที่เคยดู นัยน์ตาคมเรียวดุรับกับคิ้วหนาและจมูกโด่งเรียวเป็นสัน รวมถึงริมฝีปากหนาทรงกระจับสีชมพูอ่อน มันขับกับผิวขาวออกแทนของเขาได้ดีมากๆ
จนเธอเผลอมองอย่างลืมตัวแม้ว่าตอนนี้กำลังจะจับไข้แล้ว เพราะอากาศที่นี่มันหนาวเย็นจนต้องสวมเสื้อคลุมหนากันทุกคน และมันต่างจากฤดูที่เธออยู่ จนตอนนี้เริ่มสับสนแล้วว่าอาจจะทะลุมิติมาก็ได้ เพราะทุกอย่างรอบตัวมันต่างออกไปมาก โดยเฉพาะสระน้ำที่เธอโผล่ขึ้นมา ซึ่งมันไม่ใช่สันเขื่อนขนาดใหญ่ตรงที่เกิดอุบัติเหตุแน่นอน
“แย่ล่ะ ที่นี่ที่ไหนกันนะ คงไม่ใช่หรอกหน่า” ซีซีคิดในใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอไม่โวยวายเพราะต้องการรู้ให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อาจมีใครพาเธอมาที่นี่หลังจากเกิดอุบัติเหตุก็ได้ แล้วปล่อยลงในน้ำเพื่อแกล้งเล่นสนุก ถ้าเธอโวยขึ้นมาอาจได้ไปอยู่บนโลกโซเชียลที่มักจะทำขึ้นเพื่อแกล้งให้คนกลัว ไม่งั้นเรื่องที่เกิดขึ้นก็อาจจะเป็นเรื่องจริง และถ้าเป็นอย่างนั้นถ้าพูดอะไรขึ้นมาคงถูกหาว่าเสียสติแน่
“เอาว่ะ ตามน้ำไปก่อนแล้วกัน” เธอคิดในใจอีกครั้ง เพราะตอนนี้พูดอะไรมากคงไม่ได้
“พานายของเจ้าไปพักสิ จมน้ำไปเกือบหนึ่งก้านธูปเพียงนี้ยังจะฟื้นขึ้นมาอีก หึ! น่าจะตายๆ ไปเสีย” เสียงตำหนิก่นว่ายังคงดังตามมา แม้จะเห็นแล้วว่าร่างเล็กนี้หมดเรี่ยวแรงและหน้าซีดเพียงใด แต่ความสงสารกลับไม่มีเลยสักนิดในความคิดเขา
“ชิ! คนอย่างฉันไม่ตายง่ายๆ หรอกย๋ะ” เสียงแหบพร่าของคนหมดแรงดังขึ้นเบาๆ พอแค่ให้คนพยุงเท่านั้นได้ยิน ทำเอาสองสาวที่หิ้วปีกเธอถึงกับชะงักไป
แต่ก็พาร่างนี้เดินต่อจนถึงเรือนพัก ซึ่งมีขนาดใหญ่เอามากๆ จนซีซีอดที่จะมองสำรวจไม่ได้ แต่เพราะเรี่ยวแรงมันแทบจะไม่เหลือแล้ว เลยหมดสติไปโดยที่ไม่ทันตั้งตัว เธอถูกพากลับเข้าห้องนอนที่มีเตียงกว้างพร้อมกับการตบแต่งที่ดูหรูหราตามแบบฉบับเจ้านายชั้นสูง ที่ชอบสไตล์การตบแต่งแบบจีนโบราณ เพียงแต่ทุกอย่างมันดูเหมือนจริงมากกว่ายุคปัจจุบัน หากเธอตื่นขึ้นมาและเห็นมันคงรู้สึกแบบนั้นแน่ๆ แต่ตอนนี้เธอหลับไปแล้วและซีซีกำลังฝัน
“นี่เธอร้องไห้ทำไม แล้วที่นี่ที่ไหนกัน” ดวงตาสวยมองไปรอบๆ ก็มีแค่ความมืดมิด มีแค่ร่างเล็กของใครบางคนนั่งสะอื้นส่งเสียงอยู่ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเงยหน้าขึ้นมามอง ทำเอาเธอถึงกับชะงักเมื่อเห็นคนตรงหน้าเต็มตา
“นี่เธอทำไมหน้าตาเหมือนฉันเลย” ซีซีเอ่ยถามทันที
“เจ้าคือข้าที่อยู่ในยุคปัจจุบัน และต้องอยู่ที่นี่หลังจากนี้ เพราะข้าอ่อนแอเกินไป เจ้าต้องแก้ไขทุกอย่างที่ผิดพลาด”
“เอ๋! จะเป็นไปได้ยังไง ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะแบบนี้”
“เจ้าปฎิเสธไม่ได้ เพราะเจ้าจะไม่มีทางกลับไปยังยุคสมัยนั้นได้อีกแล้ว ร่างของเจ้าถูกทำลายแล้ว”
ซีซียิ้มออกมาเพราะไม่เชื่อเรื่องที่อีกฝ่ายเล่า มันจะเป็นไปได้ยังไงที่ตัวเองจะมาอยู่ในร่างของเธอคนนี้ได้
“ไม่จริงหรอก ถ้าตื่นแล้วฉันก็จะอยู่ในร่างเดิม”
“หากเจ้ามิเชื่อเจ้าจะเห็นเอง คนผู้นั้นมิใช่คนดีอย่าได้เชื่อใจเด็ดขาด อย่าตายเช่นข้าเพียงเพราะความเชื่อใจ”
เสียงนั้นหายไปพร้อมกับร่างที่สูญสลาย ทำให้สาวสวยตกใจตื่นขึ้นมาในทันที และสิ่งที่ปรากฏคือภาพห้องนอนที่มันแปลกตาเธอเป็นอย่างมาก
“น้ำเพคะพระชายา” ถ้วยชาขนาดเล็กถูกยื่นส่งมาเพื่อทำให้ร่างกายด้านในอบอุ่นขึ้น ซึ่งซีซีก็รับมันขึ้นมาดื่มอย่างว่าง่าย หลังจากมองสำรวจไปทั่วบริเวณแล้ว
เธอไม่กล้าพูดอะไรในตอนนี้ เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต ดวงตากลมโตที่มิได้แต่งแต้มสิ่งใดกำลังสำรวจตรวจตราไปยังด้านนอก ซึ่งตอนนี้มีหญิงสาวเดินไปมาเป็นแถว มุ่งตรงไปยังที่ไหนสักแห่ง จนหนึ่งในคนที่ดูแลพูดขึ้น
“อย่าเศร้าไปเลยเพคะ” สิ้นเสียงของอีกฝ่ายคิ้วสวยก็ขมวดทันที เธออดสงสัยไม่ได้ที่เธอคนนี้บอกว่าตัวเองเศร้า เพราะซีซีไม่ได้รู้สึกแบบนั้นสักนิด
“นั่นสิเพคะ ท่านอ๋องก็เรียกหานางกำนัลเหล่านี้อยู่เป็นประจำ โดยมิเคยใส่ใจพระองค์เลยสักครั้ง เช่นนี้แล้วจะทนอยู่ไปไยเพคะ เหตุใดถึงมิขอหย่าเสีย”
ใบหน้าหวานยิ้มแห้งออกมาเมื่อได้ฟังแบบนี้ เพราะเริ่มเข้าใจแล้วว่าเจ้าของร่างคงแอบรักสามีของตัวเองแน่ๆ
“แล้วปกติเราหย่าได้เหรอถ้าต้องการ” คำพูดแรกที่เธออยากรู้ เพราะหากเป็นสมัยโบราณส่วนมากก็ต้องเป็นชายเท่านั้นที่จะหย่าได้ นั่นคือการเขียนจดหมายปลด แต่ทำไมสองสาวถึงพูดเรื่องเจ้าของร่างสามารถหย่าได้ล่ะ
“เพราะนี่เป็นรับสั่งของฮ่องเต้เพคะ ท่านอ๋องมิสามารถปลดพระชายาเองได้ เว้นแต่พระองค์สิ้นพระชนม์ หรือไม่ก็เขียนจดหมายหย่าให้เท่านั้น ท่านอ๋องจึงจะมีสิทธิ์แต่งตั้งพระชายาองค์ใหม่ได้เพคะ”
“เอ๋! ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ” ความสงสัยเริ่มมากขึ้น เพราะเรื่องราวมันชักจะคุ้นๆ แล้ว
“เพราะพระองค์คือองค์หญิงจากแคว้นหนาน การอภิเษกถูกจัดขึ้นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ ลืมแล้วหรือเพคะ”
“ก็ฉัน เอ๊ย! ข้าตกน้ำก็เลยเลอะเลือนไปอย่างไรล่ะ” เสียงหวานเอ่ยตอบออกไปก่อนจะยิ้มสดใสมอบให้
“ฟู่ว! ดูท่าเราคงทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้จริงๆ แล้วสิ หวังว่าคงไม่ใช่นิยายที่อ่านหรอกนะ อีตาอ๋องนั้นร้ายจะตาย”
ซีซีคิดในใจก่อนจะมองซ้ายขวาสำรวจทุกอย่างครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะแม้จะเชื่อไปมากกว่าครึ่งแล้วก็เถอะ แต่มันก็ยังมีส่วนหนึ่งที่คิดว่าอาจจะถูกจัดฉาก เพราะฉะนั้นพูดให้น้อยถามให้น้อยเอาไว้ดีกว่า
“ข้าเวียนหัวขอนอนพักต่อแล้วกัน” เธอบอกออกไปก่อนจะเอนตัวลงนอนอย่างเคย ไม่นานก็หลับไปเพราะยังคงมีไข้อยู่ และมันกินเวลาไปจนกระทั่งข้ามไปอีกวัน พอตื่นมาก็ยังอยู่บนเตียงเดิม จนชักจะมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่าอยู่ในต่างยุคจริงๆ
เหลือก็แค่ออกไปข้างนอกกำแพงนี้เพื่อสำรวจเท่านั้น และมันก็เป็นเรื่องง่ายเพราะเธอมีอิสระมากที่นี่ เพราะอย่างน้อยก็อยู่ในร่างของผู้เป็นนายที่ต้องเชื่อฟังแค่สามีเท่านั้น แต่ยามนี้เขาไม่อยู่ จึงขอให้คนดูแลพาตัวเองออกมาจากจวนหลังใหญ่แห่งนี้ ทันทีที่ผ่านตลาดซึ่งมีชาวเมืองมากมายเดินกันขวักไขว่ไปมาเท่านั้นแหละ
“บ้าน่า! นี่เราอยู่ในยุคโบราณจริงดิ” เสียงหวานพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะสั่งให้รถม้าออกไปนอกเมือง
“พอได้แล้วจอดรถ” เพราะลืมตัวเธอเลยสั่งคนบังคับรถม้าด้วยภาษายุคปัจจุบัน แต่ก็ใช่ว่าอีกฝ่ายจะไม่เข้าใจ เพียงแต่สงสัยว่าเหตุใดพระชายาจึงเอ่ยไม่จบ เพราะนางควรบอกว่าหยุดรถม้ามิใช่หรือ แต่ก็นั่นแหละจะมีผู้ใดกล้าถาม เพราะสามีภรรยาคู่นี้มิมีใครกล้าขัดใจ แม้สตรีตรงหน้าจะมิเคยใจร้ายกับผู้ใดก็เถอะ แต่คำสั่งก็ประกาศิตมิต่างจากอ๋องหรานจวิ้น ยกเว้นตอนที่อีกฝ่ายอยู่ด้วย
ร่างเล็กเปิดผ้าม่านออกมาพร้อมกับปรากฎกาย เธอมองไปยังกำแพงสูงเบื้องหน้า ซึ่งมันต่างจากในยุคปัจจุบันอยู่ไม่มาก เพียงแต่ที่นี่มันดูสวยงามมากกว่า นัยน์ตาสวยหรี่ลงเล็กน้อยมองภาพเบื้องหน้าก่อนจะถอนหายใจ
“เห้อ! เอาไงต่อล่ะทีนี้” เธอพูดกับตัวเองก่อนจะสั่งให้รถม้าประจำจวนเคลื่อนตัวกลับเข้าเมือง ซึ่งสองข้างทางมันคือการดำรงค์ชีวิตของคนสมัยโบราณ ซึ่งไม่ต่างจากซีรี่ย์ที่ดูเลย ทำเอาใจดวงน้อยอดที่จะวูบไหวไม่ได้ เมื่อคิดว่าอาจจะไม่สามารถกลับไปได้อย่างที่คนในฝันเอ่ยบอก
“เธอชื่ออะไรเหรอ ฉันขอโทษนะที่ถามแบบนี้ คือฉันจำอะไรไม่ได้เลย และไม่รู้ว่าคนที่นี่พูดคุยกันยังไง เธอสองคนช่วยสอนฉันด้วยนะ แล้วก็ช่วยบอกกล่าวเรื่องราวเกี่ยวกับฉันและท่านอ๋องที่ว่านั้นด้วย”
“อย่าทรงเอ่ยถึงท่านอ๋องเช่นนี้นะเพะคะ หากมีใครได้ยินไปรายงานเข้าพระองค์จะถูกจับขังได้”
“ใช่แล้วเพคะ ก่อนนี้ก็พึ่งจะถูกปล่อยตัวออกมาเอง”
“หา! ขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันเป็นพระชายาเขาไม่ใช่หรือ ทำไมใจร้ายนักล่ะ” เสียงหวานบ่นทันทีเมื่อได้ยินแบบนี้
“ชู่ว! พระชายาอย่าเอ็ดไปเพคะ” นางกำนัลคนสนิทเอ่ยขึ้น ทำเอาซีซีถึงกับขำในท่าทีอีกฝ่ายซึ่งตื่นกลัวเหลือเกิน
“ก็ได้ ก็ได้ ฉันจะไม่พูดดังไป เอาว่ามาใครชื่ออะไรบ้าง”
“หม่อมฉัน หลินหยาเพคะ ส่วนนี่ เสี่ยวชิงเพคะ”
“อืม แล้วฉันล่ะชื่ออะไร” เธอถามถึงตัวตนที่แท้จริงเจ้าของร่าง เพราะรู้แค่ว่าเป็นองค์หญิงเท่านั้น
“แม้แต่นามของตนเองก็จำมิได้หรือเพคะ” หลินหยาเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะมิคิดว่าผู้เป็นนายจะมีอาการหนักถึงเพียงนี้ ซีซีพยักหน้าให้พร้อมกับยิ้มเจื่อน
“พระองค์มีนามว่า ซูเยว่เพคะ เป็นธิดาองค์เดียวของฮ่องเต้แคว้นหนาน อภิเษกกับท่านอ๋องตั้งแต่มีชรรษาเพียงสิบห้าปี ยามนี้พระองค์ก็ครบยี่สิบแล้วเพคะ”
“หา! แต่งงานมาแล้วห้าปีเหรอ บ้าไปแล้ว” ซีซีพูดขึ้นเสียงดังด้วยอาการตกใจที่มีมากพอดู
“เพคะ แต่ยังมิได้เข้าหอกับท่านอ๋องเลยสักครา”
“ห๊ะ! จริงดิ เอ่อ จริงหรือ” เธอถามย้ำอีกครั้ง เพราะไม่คิดว่าร่างนี้จะอยู่รอดจากเงื้อมมืออ๋องชั่วได้ ทั้งที่หน้าตาก็สวยมาก ซึ่งช่วงหลังในความคิดซีซีก็แอบชมตัวเองนี่แหละ เพราะหน้าตาเธอกับผู้หญิงคนนี้ไม่มีอะไรต่างกันเลย