บทย่อ
อยู่ดีดีก็เข้ามาอยู่ในร่างของตัวละครในนิยายที่อ่าน ซึ่งเธอคนนี้ไม่มีตัวตนในหน้าหนังสือเลย แถมยังเป็นที่เกลียดชังของสามีอีกต่างหาก การจากไปของเจ้าของร่างก็ยังมีเงื่อนงำ ระบบโปรแกรมก็ไม่มีจะรอดไหมเนี่ยะ
1. เจ้าของร่างคนใหม่
“เจ็บหน่อยนะครับครั้งแรกก็แบบนี้” เสียงทุ้มอ่อนโยนดังขึ้น เพื่อปลอบหญิงสาว ซึ่งนอนอยู่บนเตียง
“เบาๆ นะคะ” เสียงหวานเอ่ยบอกอย่างกังวล เพราะตอนนี้เธอกำลังเกร็งไปทั้งตัว เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที หลิวซีซีเดินออกมาพร้อมกับมือที่แนบอยู่บนแก้มเนียนใส
“ปวดมากเหรอ หมอไม่ได้ฉีดยาให้หรือไง” เพื่อนสนิทของเธอเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง หลิวซีซีซึ่งมีดีกรีเป็นถึงหมอรักษาแผนโบราณที่มีชื่อเสียงของประเทศตอบกลับ
“ก็เพราะฉีดนี่แหละที่ทำให้ไม่รู้สึก”
“อ้าว! แล้วไม่ดีหรือไง เห้อ! ฉันนี่เหนื่อยกับแกจริงๆ เป็นถึงหมอสมุนไพรทำไมถึงไม่รู้จักรักษาตัวเองเลย”
“ใครมันจะรู้ไปซะทุกอย่างกันล่ะ เล่นมาเจ็บอยู่ด้านในแบบไม่มีสัญญาณเตือนใครจะไปรู้ตัว อีกอย่างฉันเป็นหมอรักษาคนเจ็บไข้นะ ส่วนนี้คือยังไม่เคยเรียนรู้”
หลิวซีซีเอ่ยบอกเพื่อนสาว ก่อนจะเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ ทั้งคู่กลับมาถึงอพาร์ตเม้นท์ที่เช่าพักอาศัยอยู่ด้วยกัน ก่อนจะแยกย้ายกันเข้าห้องนอน ร่างเล็กเดินกลับมานั่งที่หน้าโต๊ะทำงานอดิเรกของเธอ นั่นคือการเขียนนิยาย แต่กว่าจะทำรายได้จากตรงนี้ก็กินเวลาเป็นปี เพราะปกติเธอจะอยู่ที่งานประจำมากกว่า แต่ถึงจะมีเวลาว่างหญิงสาวก็มักจะอ่านนิยายที่ตัวเองชอบเพื่อผ่อนคลาย
“ถึงไหนแล้วนะ อ่อ! ตอนที่ตัวร้ายกำลังจับนางเอกไปที่จวน เพื่อต่อรองกับพระเอก หึ! คนร้ายกาจแบบนี้น่าจะถูกฆ่าตายตั้งแต่ตอนออกรบแล้ว ไม่น่ามีชีวิตรอดมาเลย” เสียงหวานพูดขึ้นก่อนจะเปิดอ่านนิยายที่เธอกำลังติดงอมแงม จนบางทีก็ไม่ยอมกินอะไร
“อ๋องใจร้ายโหดเหี้ยมขนาดนี้นางเอกจะรอดไหมนะ” แม้จะบ่นให้นิยายเรื่องนี้ แต่เธอก็ยังเปิดอ่านมันต่อ และก็มาถึงช่วงที่เธอชอบเอามากๆ
“ปล่อยหม่อมฉันไปเถอะเพคะท่านอ๋อง หม่อมฉันมิได้มีใจต่อท่านไยถึงทำเช่นนี้ หากเรื่องนี้รู้ถึงหูฝ่าบาทพระองค์ต้องเดือดร้อนเป็นแน่”
คุณหนูจางร้องขอกับบุรุษร่างสูงที่ดึงรั้งนางให้เดินตามเข้าไปยังห้องนอนของเขา มินจูอดที่จะตื่นกลัวกับการกระทำนี้มิได้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะรูปงามเป็นอย่างมากก็เถอะ
“ชิ! รูปงามอย่างนั้นเหรอ ร้ายกาจแบบนี้ยังจะเขียนให้เป็นเทพบุตรอีกนะ แต่ช่างเถอะตอนจบขอเขาตายอย่างอนาถก็แล้วกันถึงจะเหมาะกับความชั่วที่ทำมา”
ซีซีบ่นให้กับตัวละครในนิยายที่อ่านอยู่ ก่อนจะเปิดหน้าถัดไปเพื่ออ่านมันอีกครั้ง
“ข้าจะปล่อยเจ้าไปได้เช่นไร กว่าจะพาเจ้ากลับมาที่จวนได้มิใช่เรื่องง่าย อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องเป็นของข้า”
อ๋องร้ายเอ่ยด้วยเสียงทุ้มเย็น จนมินจูอดที่จะตัวสั่นมิได้ ยามนี้นางกำลังร้องไห้ขอให้คนช่วย แต่ใครกันล่ะที่จะทำเช่นนั้น ในเมื่อที่นี่เป็นจวนของคนตัวโตตรงหน้า
เขาปลดเปลื้องอาภรณ์ด้านบนออกแล้วตรงขึ้นมายังเตียงกว้าง หวังจะจับสตรีตัวน้อยกินอย่างที่ตั้งใจ แต่จู่ๆ เสียงประตูก็เปิดออก พร้อมกับร่างสูงงามสง่าของแม่ทัพหนุ่มนามว่าฟานจงซี เขากระชับกระบี่ในมือแน่น มองมาที่เบื้องหน้าซึ่งมีคนตัวเล็กที่เป็นคู่หมั้นนั่งตัวสั่นอยู่
“ข้ามาแล้วมินจู ปล่อยคนของข้ามาเสียท่านอ๋อง”
“หึ! มันมิง่ายถึงเพียงนั้นหรอกแม่ทัพ คิดจะเป็นศัตรูกับข้าอย่างนั้นหรือ นางมีค่าให้เจ้าทำหรือไม่ล่ะ”
“นางมีค่าสำหรับกระหม่อม และมิมีทางปล่อยนางไปแน่ ขอทรงอภัยที่กระหม่อมล่วงเกินในครานี้”
มือเรียวกระชับดาบแน่นก่อนจะเดินตรงเข้าห้องของผู้ที่กุมอำนาจในราชสำนักจนมิมีผู้ใดกล้าต่อกร ยกเว้นอ๋องไป่จวินผู้พี่ ซึ่งยามนี้กุมอำนาจทางทหารซึ่งมีแม่ทัพผู้นี้แหละคอยเป็นกองหนุน แต่ก็ใช่หรานจวิ้นจะเกรงกลัว ยิ่งเรื่องนี้ด้วยแล้วเขาพึงใจในตัวนางอย่างไรก็มิมีทางปล่อยไปเป็นของผู้อื่นเป็นแน่
หากอีกฝ่ายมาช้าเพียงนิดเขาคงได้ครอบครองตัวนางไปแล้ว เมื่อคิดก็ยิ่งแค้นใจ เพราะหากแม่ทัพหนุ่มมาผู้เดียวเขาคงมิต้องปล่อยไปเช่นนี้ แต่นี่มีคนของอ๋องผู้พี่มาด้วย หากมิยอมเรื่องคงถึงหูฮ่องเต้เป็นแน่
“หามือสังหารมาให้ข้า ต้องเอาชีวิตฟานจงซีให้ได้” เสียงทุ้มของบุรุษหนุ่มวัยสามสิบสี่ ผู้ซึ่งมีอำนาจล้นมือมิต่างจากพระเชษฐา หากแต่เป็นคนเลือดเย็นไร้ปราณี อยากได้สิ่งใดก็ใช้อำนาจหามา แม้ผู้อื่นจะเดือดร้อนเพียงใดเขาก็มิเคยใส่ใจ เพราะมิใช่ปัญหาของตน
ต่างจากแม่ทัพหนุ่มวัยยี่สิบสี่ ซึ่งยามนี้เขากำลังอุ้มเอาสตรีตัวน้อยขึ้นแนบอก เพื่อพานางกลับไปยังจวนเสนาขวา ซึ่งก่อนหน้านี้นางออกมาเพื่อหาของขวัญให้กับบิดา เพราะจะถึงวันเกิดในไม่ช้า
“พี่จงซีข้ากลัว” เสียงสั่นเครือดังขึ้น ทำเอาคนตัวโตต้องรีบกระชับกอดในทันที เพราะดูท่าคนตัวเล็กคงจะตื่นกลัวเอามากๆ ริมฝีปากหนาจูบลงที่หน้าผากนางแผ่วเบา
“พี่จะไม่ยอมให้เจ้าตกไปเป็นของผู้ใดทั้งนั้นมินจู” ซีซีวางหนังสือลงหลังจากที่อ่านมาถึงตอนนี้ เพราะอ่านอีกไม่กี่หน้ามันก็จะค้างคาอีกเหมือนเช่นทุกวัน
“เห้อ! เอาไงดีอ่านต่อก็ค้าง จบตรงนี้ตัวเอกก็ยังได้อยู่ด้วยกัน แต่มันไม่จบนี่สิ ทำไมคนเขียนไม่มาต่อนะ”
เสียงหวานบ่นให้กับนิยายอีกครั้ง หลังจากที่รอเล่มใหม่ออกมานานกว่าครึ่งปีแล้ว แต่ทุกอย่างก็ยังคงเงียบสนิท ไม่มีการอัพเดทแม้แต่แบบรายตอนในเว็ป ซึ่งทุกอย่างมันยังคงค้างคาจนเธอเดาตอนจบไม่ถูก เพราะตัวเอกในเรื่องมีถึงสาม
และยังไม่มีการเฉลยว่าใครกันแน่ที่จะเป็นคนได้ครองใจคุณหนูมินจู ซึ่งดูแล้วสตรีงามผู้นี้น่าจะหลงไหลในตัวของท่านแม่ทัพฟานจงซีเป็นอย่างมาก และยังได้หมายหมั้นกันแล้วเมื่อยังเด็ก แต่อ๋องผู้ร้ายกาจโหดเหี้ยมกลับหมายหมั้นจะแย่งชิงนางมาเป็นของตน โดยใช้เล่ห์เหลี่ยมมากมายเพื่อให้ได้ครอบครองสตรีที่เขาหมายปองเช่นกัน
“ซีซีมาทานข้าวได้แล้ว นี่แกจะอดไปถึงไหนห๊ะ!” เสียงบ่นของเพื่อนสนิทดังขึ้นพร้อมกับการเคาะประตูรัวๆ เพราะรู้ดีว่าเพื่อนสาวคงไม่ออกมาง่ายๆ แน่
“มาแล้ว ขัดจังหวะจริงๆ เลยเธอเนี่ยะ” สาวสวยบ่นให้เพื่อน ก่อนจะเดินออกมานั่งทานอาหารซึ่งมีข้าวต้มสำหรับเธอด้วย โดยที่ไม่ต้องสั่งเลยแม้แต่น้อย
“ขอบใจนะจ๊ะที่รัก” เสียงหวานใสเอ่ยบอกกับเพื่อนสนิท ก่อนจะลงมือทานอาหารเย็น พร้อมกับพูดคุยไปเรื่อย และมันก็ไม่พ้นเรื่องนิยายที่อ่านค้างอยู่ อีกฝ่ายก็เอาแต่ส่ายหัวกับสิ่งที่เธอเล่าเพราะฟังจนเบื่อแล้ว
“แล้วแกคิดว่าใครจะได้เป็นพระเอกล่ะ”
“ก็ต้องท่านแม่ทัพสิ ทั้งหล่อทั้งเก่ง อ่อนโยนใจดี” ซีซีเอ่ยถึงตัวเอกที่ชอบแม้จะต้องจินตนาการว่าหน้าตายังไงก็เถอะ แต่ในเมื่อเธอคิดว่าเขาจะต้องเป็นพระเอก ก็ต้องมีหน้าตาที่หล่อเหลากว่าตัวร้ายอยู่แล้ว
“หึ! ชอบเพราะหล่อว่างั้น”
“ก็แน่ล่ะ ฉันนี่วาดฝันว่าแม่ทัพจงซีต้องหล่อเหมือนพระเอกซีรี่ย์เลยแหละ ส่วนท่านอ๋องทั้งสองก็ต้องร้ายกาจมีหนวด อายุเยอะอะไรแบบนั้น เมียก็เยอะยังจะมาจับนางเอกไปอีก บอกเลยผู้ชายแบบนี้ไม่ตรงสเปคแน่”
“ฮ่าฮ่า เกลียดอะไรเจอแบบนั้นนะแก” เสียงเอ่ยแซวดังขึ้นก่อนเพื่อนสนิทจะเก็บจานไปล้าง ซึ่งปกติก็สลับกันทำ ซีซีนึกถึงตัวละครอ๋องโฉดทันที ก่อนจะแสดงท่าทางขนลุกเพราะเขามีอายุมากกว่าเธอในตอนนี้ถึงสิบสามปี เท่ากับว่าตัวละครสามสิบสี่แล้ว เพราะตอนนี้ซีซีอายุยี่สิบเอ็ด และเรียนจบมาตั้งแต่อายุยี่สิบ แต่ดันมาชอบการแพทย์สมัยโบราณและเรื่องสมุนไพร เลยมาทางนี้มากกว่าแม้จะเรียนด้านวิศวะมา
“แกจะเดินทางวันไหน” เธอหันไปถามเพื่อนสนิทซึ่งเดินกลับมานั่งข้างกันที่หน้าทีวี
“ฉันกำลังจะบอกพอดี ต้องเดินทางคืนนี้”
“งั้นเหรอให้ฉันไปส่งนะ พอดีจะไปซื้อนิยายเรื่องใหม่ด้วย รอเรื่องนี้ออกเล่มใหม่ค่อยอ่านต่อ”
“ติดงอมแงมเลยนะ” เพื่อนสนิทตำหนิเธอไม่จริงจังนัก
“ก็รอเรื่องเดิมนี่แหละ ไม่งั้นมันเหมือนติดอยู่กับอะไรสักอย่าง ต้องหาอย่างอื่นมาแกะออก”
“ฮ่าฮ่า ดีที่ฉันไม่อ่านนะเนี่ยะ” เสียงหัวเราะดังขึ้นจนคนฟังถึงกับยิ้มแห้ง ก่อนจะเดินนำกันออกมาขึ้นรถ และขับไปส่งเพื่อนรักจนถึงสนามบิน การล่ำลากันเกิดขึ้นราวกับจะไม่ได้พบกันอีกเสียอย่างนั้น
“ทำไมฉันถึงรู้สึกใจหายแบบนี้นะ แกไม่ไปได้ไหม” ซีซีพูดขึ้น เพราะเธอรู้สึกไม่สบายใจเลย
“บ้าเหรอ ขืนไม่ไปมีหวังเรียนไม่จบกันพอดี ถ้าเก่งจบสองปีอย่างแกก็ว่าไปอย่าง เอาน่าอย่าทำฉันปอดแหกไปด้วยสิ” เพื่อนสนิทพูดขึ้น
“ฉันขอโทษ ก็อยู่ดีดีก็รู้สึกใจหายนี่หน่า”
“เออ! ฉันไม่เป็นไรหรอก แกก็ขับรถกลับดีดีล่ะ”
สองสาวบอกลากัน ก่อนที่อีกคนจะลากกระเป๋าเดินเข้าไปจนลับตา ซีซีถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเดินกลับไปยังรถและขับออกไป พร้อมกับใจที่มันสั่นไหวจนเกิดความกลัว และดูเหมือนมันจะทำให้ตัวเธอเองไม่มีสมาธิ
จนกระทั่งขับรถหลุดโค้งตกไปยังเขื่อน ร่างเล็กตะเกียกตะกายออกมาจากด้านใน โดยมิได้หันกลับไปมองด้านหลังเลย จนมิรู้ว่าร่างตัวเองยังติดอยู่ในรถ ซึ่งมันจมลงไปถึงพื้นดินแล้ว
แต่!ทว่าภาพตรงหน้ามันกลับไม่ใช่สันเขื่อนที่เธอขับรถผ่านแต่อย่างใด เสียงจอแจของเหล่าผู้คนดังขึ้น พร้อมกับตะโกนร้องเรียก ร่างเล็กถูกดึงให้ขึ้นมาจากน้ำพร้อมกับผ้าคลุมตัวเอาไว้เพื่อให้ความอบอุ่น
# ฝากนิยายเรื่องใหม่นี้ด้วยนะคะ เป็นแนวพระเอกชั่วที่ไรท์อยากลองเขียนดู ปกติพระเอกจะชั่วกับคนอื่นแต่ดีกับนางเอก เรื่องนี้จะต่างออกไปจากทุกเรื่อง ถ้าคนที่ติดตามจะพอรู้ ติดขัดตรงไหน หยุมหัวไรท์ได้เลยนะคะ