อ๋องนักรบ7
ห้องรับรองคฤหาสน์ฟู่อบอวลกลิ่นกำยานหอมกรุ่น มีสาวใช้ใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราคอยดูแลรินเหล้าอย่างเอาใจ
เฉินเหอไท่นั่งนิ่งปานศิลา สีหน้าสงบเยียบเย็น ลอบปรายหางตาคมมองคนด้านหลังเป็นระยะ ในขณะที่สองหูยังคงฟังหลานชายเอ่ยปากขอร้องแกมตัดพ้อระคนน้อยใจ
“ข้านับถือท่านมาโดยตลอด เหตุใดท่านกลับเห็นผิดเป็นชอบเช่นนี้ได้”
เส้นเสียงทุ้มห้าวเอ่ยปากต่อว่าเฉินเหอไท่ เสียงนั้นดังมาจากองค์ชายเฉินหลวนเล่อ
เจ้าของวงหน้าหล่อเหลาอายุประมาณสิบหกปีผู้นี้ ยังคงขยับริมฝีปากบางเฉียบสีแดงตัดพ้อต่อเนื่อง
“เสด็จพ่อทรงรักและเคารพท่านมาก ไว้ใจท่านที่สุด แล้วเหตุใดท่านต้องกลายเป็นกบฏทรราช แล้วท่านจักให้ข้าทำเช่นไร ท่านลุงเหอ”
คำเรียกขานเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าเรียกกันมาตั้งแต่เด็ก
มุมปากเฉินเหอไท่ยกยิ้มบางแทบมองไม่เห็น ตัวเขากับหลานชายผู้นี้ค่อนข้างสนิทกันมาก หากไม่มีเรื่องทรยศหักหลังของเจ้าน้องชายเข้ามาแทรกกลาง ยามนี้...เขากับหลวนเล่อคงกำลังเข้าป่าล่าสัตว์อย่างสนุกสนาน ไม่สนใจเรื่องการเมืองการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นอันใด
เฉินเหอไท่ยังคงไว้ซึ่งท่าทางสุขุม นิ่งฟังอย่างใจเย็น เนิ่นนานก็ยังคงปราศจากวาจา ปล่อยให้องค์ชายใหญ่ต้องนั่งกลั้นน้ำตาใบหน้าแดงก่ำพร่ำคำตัดพ้อ
“ได้โปรดกลับไปกับข้าเถิด ท่านลุง” เฉินหลวนเล่ออยากให้ท่านลุงตบบ่าพาไปเที่ยวป่าเหมือนเมื่อก่อนยิ่งนัก ขั้วอำนาจราชศักดิ์อันใดก็ช่างมันเถิด
สายตาสื่อความนัยเช่นนั้น มิใช่ว่าเฉินเหอไท่จะไม่ล่วงรู้ ทว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ นั่นคือปัญหา!
หากเขากลับไปแต่โดยดี คงมีเพียงแท่นประหารรออยู่เบื้องหน้า เมื่อเป็นเช่นนั้น การเป็นกบฏทรราชเช่นนี้ มีอันใดไม่ดี!
ชายหนุ่มมองหลานชายเงียบงัน จ้องนิ่งอย่างลึกล้ำ ประหนึ่งดวงตาของสัตว์ร้ายในยุคบรรพกาล กำลังพินิจประเมินเหยื่อกระนั้น
ปีนี้เฉินเหอไท่อายุได้สามสิบห้า เฉินหย่งจื้ออายุสามสิบสี่ เป็นพี่น้องที่เกิดจากมารดาเดียวกันที่เป็นสนมต่ำต้อย
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งอดีต...ทั้งสองมีนิสัยแตกต่างกันอย่างมาก เพราะพี่ชายเย่อหยิ่งทะนงตนจนกลายเป็นยโสโอหังและชอบเก็บตัวคล้ายเสือหมอบมังกรซ่อน ส่วนน้องชายชอบสังสรรค์ เป็นบุรุษเจ้าสำราญชอบสังคม นั่นจึงทำให้เฉินหย่งจื้อ คล้ายอยู่ในที่สว่างเผยตัวต่อเกาทัณฑ์ลับเสมอมา
และด้วยความสามารถอันโดดเด่นแต่ถูกกดข่มของ เฉินหย่งจื้อ ทำให้เฉินเหอไท่ผู้เป็นพี่ชายไม่อาจทนดูดาย จึงช่วยปัดเป่าเภทภัยให้น้องชายมาโดยตลอด สุดท้ายยังเป็นผู้ลงมือสังหารองค์รัชทายาทอย่างโหดเหี้ยมเลือดเย็นทั้งยังแยบยล แม้แต่พระบิดายังไม่อาจล่วงรู้ และยิ่งไม่อาจนำไปสู่การต้านทาน
เขาใส่ใจน้องชายผู้นี้มาก จนกระทั่งไม่คิดแต่งภรรยาเป็นของตัวเอง คิดเพียงทุ่มเทให้น้องชาย แม้กลายเป็นคนชั่วในสายตาผู้คนก็หาได้นำพาไม่
ในขณะที่เขาเอาแต่ใส่ใจไม่แต่งงาน เฉินหย่งจื้อกลับแต่งภรรยาคนแล้วคนเล่า เสพสมเต็มที่ โดยมีพี่ชายคนนี้คอยดูแล
สิบหกปีที่แล้วเฉินหลวนเล่อเกิดมาจากภรรยาคนหนึ่งของเฉินหย่งจื้อ แต่ทว่าสตรีนางนั้นก็ตายไป
เฉินหลวนเล่อแม้เป็นบุตรชายคนแรก หากแต่สิ้นมารดาฐานะจึงไม่มั่นคง กอปรกับเฉินหย่งจื้อในยามนั้นยังเป็นเพียงองค์ชายนอกสายตาเท่านั้น หาใช่องค์รัชทายาทผู้สำคัญไม่
เฉินเหอไท่ที่คอยดูแลเฉินหย่งจื้อผู้เป็นน้องชาย จึงคอยดูแลเฉินหลวนเล่อผู้เป็นหลานชายด้วยอีกหนึ่งคน
แต่กระนั้นกาลกลับพลิกผัน เมื่อจิตใจคนเกิดผันแปร
หลังจากเฉินหย่งจื้อได้ขึ้นครองราชย์ ก็เกิดหวาดระแวงและเกรงกลัวว่าเฉินเหอไท่ผู้เป็นพี่ชายจะคิดทวงบัลลังก์คืน
เท่านั้นยังไม่พอ ยังคิดจะบ่ายเบี่ยงไม่ยอมมอบบัลลังก์ให้เฉินหลวนเล่อผู้เป็นบุตรชายคนแรกและคนเดียว
ตัวเขาที่กลายเป็นกบฏไปแล้วก็ช่างเถิด
แต่กับเฉินหลวนเล่อเล่า...
หากมองผิวเผิน เฉินหลวนเล่อแม้เป็นองค์ชายใหญ่แต่กลับไร้มารดา ไม่อาจเทียบเท่ากับองค์ชายอีกคนที่เพิ่งเกิดมาและมีมารดาเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่
แม้ยามนี้เฉินหย่งจื้อจะยังไม่แต่งตั้งใครเป็นฮองเฮา หากแต่ตำแหน่งพระสนมกลับครบถ้วนไม่มีตกหล่น
เช่นนั้นตำแหน่งองค์รัชทายาทจึงว่างเว้นตลอดมา
“ท่านลุง!” เฉินหลวนเล่อแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เสียแล้ว เมื่อเห็นเฉินเหอไท่เอาแต่นิ่งขรึม จ้องมองตนราวกับคนแปลกหน้า
เห็นหลานชายเผยด้านอ่อนแอไม่ระวังตน เสียงเย็นเยียบปานน้ำแข็งจึงเอ่ยเนิบนาบ “ผู้กล้าไม่ควรหลั่งน้ำตาต่อหน้าศัตรู”
เพียงประโยคเดียว ทำเอาเฉินหลวนเล่อพลันเงียบงันไร้ซึ่งวาจา กระทั่งน้ำตายังไหลย้อนคืน
เฉินเหอไท่จงใจเหินห่าง ด้วยเห็นได้ชัดเจนถึงเจตนาของหย่งจื้อฮ่องเต้ ที่คิดใช้สัมพันธ์ระหว่างเขากับองค์ชายแสนซื่อผู้นี้มาเกลี้ยกล่อมเขา การสะบั้นสัมพันธ์ต่อหน้าธารกำนัลจึงจำเป็น
หากการเจรจาครั้งนี้เป็นผล ตัวเขาที่ยินยอมกลับไปโดยดีย่อมเป็นฝ่ายที่ตายตก แต่ถ้าไม่! ย่อมเป็นหลานชายที่ต้องตาย
การพบหน้ากันระหว่างพวกเขาไม่ว่าใครก็ต้องสิ้นชีพ
เจ้าโอรสสวรรค์จอมตระบัดสัตย์กล้าใช้บุตรชายตนเองเป็นหมากเชียวหรือ?
เหตุที่เฉินเหอไท่คิดเช่นนี้ เพราะเฉินหลวนเล่อคือตัวเลือกที่ดีในการเป็นองค์จักรพรรดิคนต่อไป ทั้งความรู้ความสามารถและจิตใจอันสูงส่ง ล้วนมีครบถ้วน
เมื่อครั้งที่ยังเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน ตัวเขาเคยเปรยให้เฉินหย่งจื้อฟังครั้งหนึ่งมาแล้วในเรื่องตำแหน่งรัชทายาท ทว่าอีกฝ่ายกลับมีตัวเลือกอื่นเอาไว้ในใจ เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใครจะได้สิทธิ์ให้กำเนิด แต่ที่แน่ๆ หากองค์ชายใหญ่ตาย องค์ชายคนต่อไปย่อมมีสิทธิ์
ทั้งนี้...เท่าที่เฉินเหอไท่มองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ก็คือเฉินหย่งจื้อยังไม่คิดจะมอบให้ใครโดยง่าย
แม้แต่ตำแหน่งที่อยู่เหนือผู้คนทั้งแคว้นแต่อยู่ใต้เพียงหนึ่งเดียวอย่างตำแหน่งรัชทายาท
เพราะเพิ่งได้ครองบัลลังก์มังกรเพียงแปดปีเท่านั้น ทั้งยังต้องการรวบอำนาจทั้งหมดเอาไว้แต่ผู้เดียว การครองราชย์อย่างยาวนาน คือปรารถนาสูงสุดแห่งองค์จักรพรรดิผู้นี้
หมากตานี้เจ้าน้องชายตัวดี คิดยืมมือเขาในการเจรจาให้กำจัดเฉินหลวนเล่ออย่างเลือดเย็น
หากการเจรจาไม่สำเร็จ เฉินหลวนเล่อกลับไปมือเปล่านอกจากไร้ความดีความชอบ ย่อมได้รับโทษทัณฑ์อย่างโหดร้าย
ทว่าสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น อาจทำให้เฉินหลวนเล่อตัดสินใจอยู่กับเขา ไม่คิดกลับไป
นั่นยิ่งเป็นการเข้าทางฝ่ายเจ้านั่นไปกันใหญ่
เพราะเป็นเช่นนั้น ทั้งหลวนเล่อและเฉินเหอไท่ล้วนกลายเป็นทรราช ไม่อาจหวนคืนเฉียดใกล้บัลลังก์มังกร
การเสวนาอย่างหมางเมินคล้ายเกลี้ยกล่อมแกมบังคับระคนตัดพ้อขอความเห็นใจยังคงดำเนินต่อไป
เซียนเซียนที่นั่งเยื้องไปทางด้านหลังของเฉินเหอไท่หาได้สนใจการสนทนาพาทีที่แฝงความหลากหลายในอารมณ์นั่น นางเพียงจ้องมองแผ่นหลังกว้างใหญ่เงียบงัน บางจังหวะยังขยับกายเข้าไปรินเหล้าให้เขาตามหน้าที่ของสาวใช้
ชายหนุ่มเจ้าของร่างแกร่งท่าทางเคร่งขรึมทำทีเป็นไม่รู้จักหญิงสาว ตามคำขู่นางก่อนหน้า แต่ทว่าหางตาไม่อาจละไป เขามักจะลอบชำเลืองมองนางอยู่บ่อยครั้ง
กระทั่งการเจรจาอันไม่เป็นผลจบลง ร่างสูงใหญ่เปี่ยมพลังของเฉินเหอไท่ขยับลุกขึ้นแล้วเดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผย ไร้วี่แววเจ็บปวดให้เห็น
ท่าทางนิ่งสงบของเจี้ยนอ๋องทำเอานายท่านฟู่สวินต้องชะงักงันเบิกตากว้าง รู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งยวด ก่อนจะผินใบหน้ามาถลึงตามองเซียนเซียน ในสายตามีความนัยว่า
เหล้าพิษอยู่ที่ใด? ปล่อยเสือเข้าป่าได้เยี่ยงไร?
ความนัยช่างชัดเจนในแววตา ทว่าผู้ถูกถลึงตาใส่ หาได้สะทกสะท้านไม่ นางเพียงนั่งนิ่งก้มหน้าหลุบตาลอบยกยิ้มเย็น
เป็นความจริงที่ว่า เซียนเซียนไม่อาจล่วงรู้สถานะของเฉินเหอไท่และความสัมพันธ์อันใดกับผู้คนทั้งหลาย ทั้งนี้นางยังปราศจากความใส่ใจถึงฐานะอันยิ่งใหญ่นั้น
แต่ทว่าคำสั่งให้นางรินเหล้าผสมยาพิษชนิดร้ายแรงให้เขาคืออันใด
สิ่งนี้นางไม่อาจไม่ใส่ใจ...
และยาพิษนั้นก็ถูกนางเททิ้ง ลอบสับเปลี่ยนออกไปแล้วเป็นนาน
ท่าทางของนายท่านฟู่ที่ชะงักงันเบิกตากว้าง ก่อนจะจ้องเขม็งไปที่สาวใช้ทางด้านหลัง ทำเอาดวงตาคมกล้าสีรัตติกาลเผยประกายวาบวูบหนึ่ง มุมปากยกยิ้ม เป็นรอยยิ้มชั่วร้าย
มังกรดำเช่นเฉินเหอไท่ย่อมรู้เท่าทันว่าอะไรเป็นอะไร แต่กระนั้นเขากลับไม่นำพา เพราะกำลังพบว่าใครบางคน
ช่างน่าสนใจ...