บท
ตั้งค่า

อ๋องนักรบ6

หลังจากสืบเรื่องราวจากเยวี่ยเหรินจนล่วงรู้ทุกอย่างได้อย่างแจ่มชัด

เฉินเหอไท่จึงใช้เวลาแค่ไม่นานไล่ล่าเด็ดหัวผู้คนที่อาจจะเกี่ยวข้องกับแผนการของเฉินหย่งจื้อจากมุมมืดจนเหี้ยนเตียน

ยามนี้ชายหนุ่มกลายร่างจากเจี้ยนอ๋องผู้สูงศักดิ์ เป็นโจรกบฏอย่างเต็มตัว เขาสังหารผู้คนไปทั่ว สร้างความน่าสะพรึงน่าหวาดกลัวชวนผวาไปทุกหย่อมหญ้า

จากเดิมฉายาอ๋องนักรบผู้เป็นมังกรดำแห่งต้าซ่ง บัดนี้พลันเปลี่ยนเป็นอ๋องทมิฬ หลุมดำแห่งมังกร

เฉินเหอไท่หาได้ใส่ใจ เพียงแค่นเสียงหยันในลำคอสายหนึ่ง เพราะว่าเขาจะมิใช่เพียงหลุมดำ แต่จะเป็นเยี่ยงขุมนรกเพื่อกลืนกินมังกร

รัชศกผู่เฮ่าปีที่แปดเดือนอ้ายวันที่ห้าคืนเดือนเพ็ญ

เฉินเหอไท่เดินทางอย่างลับๆ มายังคฤหาสน์คหบดีแซ่ฟู่กลางเมืองหน้าด่านเหินเยี่ยน ตามคำเชิญขององค์ชายใหญ่นามว่าเฉินหลวนเล่อ

ไม่ต้องเสียเวลาคาดเดา เขาก็พอจะล่วงรู้ได้ว่า โอรสของน้องชายผู้นี้ ลอบมาพบเขาด้วยเหตุผลอันใด

เฉินเหอไท่พาร่างสูงสง่าในอาภรณ์สีดำสนิทเพิ่มความน่าเกรงขามระคนน่ากลัวโอบล้อมไปทั่วร่างหนา มาหยุดที่โต๊ะสี่เหลี่ยมทรงเตี้ยภายในห้องรับรองหรูหราของคฤหาสน์ของฟู่สวิน หนึ่งในสายสัมพันธ์เก่าก่อนของเฉินเหอไท่ที่แปรเปลี่ยนไปเพราะขั้วอำนาจของเฉินหย่งจื้อ

มิใช่ว่าเฉินเหอไท่จะไม่รู้ว่าฟู่สวินรวมหัวกับเฉินหลวนเล่อเพื่อเกลี้ยกล่อมเขาให้เข้าสวามิภักดิ์ต่อองค์จักรพรรดิ หมายล่อหลอกให้เขากลับเข้าเมืองหลวงไปรับโทษทัณฑ์อันสาสม

ถึงแม้ว่าจะอยู่คนละฝ่าย หากแต่การขอนัดพบเพื่อเจรจาอย่างสันติเช่นนั้น เฉินเหอไท่จึงไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการรุนแรงกับหลานชายผู้นี้

ร่างสูงนั่งลงด้วยท่าทางเงียบขรึมอันน่าครั่นคร้ามที่โต๊ะทรงเตี้ยทางฝั่งตรงกันข้ามกับองค์ชายเฉินหลวนเล่อ โดยมีนายท่านฟู่ผู้เป็นเจ้าบ้านนั่งห่างออกไปในฐานะที่ต่ำศักดิ์กว่า เหล่าผู้ติดตามพากันนั่งลงหลังโต๊ะตามลำดับแยกฝั่งระหว่างเจ้านายชัดเจน

เมื่อบรรดาบุรุษนั่งลงเรียบร้อยดีแล้ว สาวใช้หน้าตาจิ้มลิ้มหลายนางก็พากันยกอาหารและเหยือกเหล้ากาน้ำชาลำเลียงเข้ามาปรนนิบัติอย่างแช่มช้อย

เดิมทีสายตาคมดำที่แสนจะเย็นชาของเฉินเหอไท่หาได้ใส่ใจสตรีนางใดไม่ ทว่าชั่วพริบตานั้นคล้ายเจอคนคุ้นตา นางอยู่ในชุดสีฟ้าหม่น กำลังก้มหน้าหลุบตารินน้ำชาให้เขา

ชายหนุ่มพลันหรี่ตาเล็กลงเพื่อพิจารณา

นางในวันนี้มิได้ใส่ชุดสีขาวพิสุทธิ์ ดวงตาสีเขียวมรกตแปลกประหลาดคล้ายกับถูกซ่อนไร้ด้วยนัยน์ตาสีดำขลับ ใบหน้าเรียวเล็กมีริ้วรอยของการถูกเฆี่ยนตีเจือจาง

คลื่นสั่นไหวไหลวูบผ่านม่านตา เฉินเหอไท่มองนางตรงหน้าอย่างลึกล้ำ จนผู้ถูกมองรู้สึกได้

แต่กระนั้นนางเพียงกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย สีหน้านิ่งสงบไม่แปรเปลี่ยน “เชิญคุณชาย”

จบคำก็ค้อมศีรษะอย่างนอบน้อมเพื่อทำความเคารพก่อนเคลื่อนกายระหงไปนั่งลงเยื้องจากแผ่นหลังกว้างเพื่อรอรับใช้

สตรีนางนี้หาใช่ใคร นางคือเซียนเซียน ที่ยังคงแปลงกายเป็นมนุษย์ได้อย่างแนบเนียน มีดวงตาดำขลับ เส้นผมดำสนิท ผิวพรรณขาวเนียนนวลเสลา ทั้งยังมีบาดแผลเป็นจางๆ จากการถูกทำโทษตามกฎบ้านที่มีต่อบ่าวไพร่ทั่วไป

เฉินเหอไท่รู้สึกอุ่นวาบอย่างประหลาด สี่เดือนที่แล้วนางคือเจ้าของขุมพลังมหาศาล ที่สังหารทหารหลายร้อยโดยการพลิกธรณีกลืนกินพวกมันให้ตายตกลงสู่ใต้พิภพอย่างหมดจด กระทั่งซากศพยังอันตรธานหายไปจนสิ้น

หนึ่งดาบที่ช่วยเหลือ นางกลับเผื่อแผ่ด้วยการทำลายล้างดาบหลายร้อยในพริบตา เพื่อตอบแทนเขา

“อย่าแม้แต่จะคิดที่จะเปิดโปงข้า”

เสียงเย็นเยียบสายหนึ่งดังแผ่วที่แผ่นหลัง เรียวคิ้วเข้มของเฉินเหอไท่พลันเลิกขึ้นอย่างฉงน คิดจะหันมองนางให้เต็มตา

เสียงแผ่วจางจึงดังมาอีกครา “ไม่ต้องสนใจข้า เจรจาของท่านไปเถอะ”

เจ้าของเสียงหวานอันแข็งกระด้างคือเซียนเซียน ผู้ซึ่งหยุดการกระทำของบุรุษโหดเหี้ยมอย่างเฉินเหอไท่ได้ไม่ยากเย็น

หญิงสาวกำลังหลบหนีจากการถูกตามล่าจากทัพสวรรค์และเทพนรก ด้วยวิธีการซ่อนเร้นตัวตน ไร้ซึ่งพลังทั้งมวลที่จำต้องผนึกเอาไว้อย่างแน่นหนายิ่งกว่าเดิม นางเดินทางรอนแรมมาไกล กระทั่งกลายเป็นสาวใช้ของคฤหาสน์แห่งนี้

ย้อนกลับไปเมื่อสี่เดือนที่แล้ว ใจกลางหุบเขาแห่งหนึ่ง เซียนเซียนที่หมายจะกลายร่างเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา เผลอสำแดงฤทธิ์เดชออกมา นางคว่ำพสุธาถล่มปฐพีอย่างเผลอไผล ทำให้ตัวตนอาจจะถูกค้นพบโดยง่าย จึงเร่งรีบเดินทางหลบเร้นออกมาจากหุบเขาแห่งนั้น เพื่อเสาะหาสถานที่ที่มีผู้คนพลุ่งพล่านมากมายเพื่ออำพรางกาย

ทว่าเหนือสิ่งคาดหมายของร่างกายนี้ นางหิวกระหายเยี่ยงมนุษย์ทุกประการ แต่มีโชคร้ายบนความโชคดี นางได้พบเจอขบวนค้าทาส ซึ่งยามนั้นนางหาได้ล่วงรู้อันใด จึงยินยอมติดตาม จนได้เจอสหายที่เป็นดรุณีน้อยนางหนึ่ง นามว่าผิงเอ๋อร์

ผิงเอ๋อร์แม้มีอาหารซุกซ่อนไม่มาก หากแต่ยังแบ่งปันให้อิ่มท้องร่วมกัน จากนั้นพวกนางกับกลุ่มคนอื่นในกรงขังก็ถูกพาเข้าเมืองและเร่ขายไปตามตลาด สุดท้ายนางและผิงเอ๋อร์ก็ถูกซื้อตัวโดยบ่าวรับใช้ของคฤหาสน์แห่งนี้

เซียนเซียนที่พยายามทำตัวเป็นมนุษย์ธรรมดา รู้สึกได้ว่าภพนี้ช่างหยอกเย้ากันอย่างรุนแรงเหลือเกิน พวกเขาชอบทุบตีหรือไม่ก็ใช้แส้เฆี่ยนอย่างบ้าคลั่งกับมนุษย์ด้วยกันราวกับเห็นเป็นเรื่องปกติที่พึงกระทำ

ตัวนางเองก็ถูกแส้หนังกระหน่ำไม่ยั้ง นางรู้สึกเจ็บไม่น้อย

มันมิใช่เรื่องแปลก เมื่อนางเป็นมนุษย์รู้สึกหิว รู้จักเหนื่อย ฉะนั้นเมื่อถูกทำโทษความเจ็บปวดย่อมมี

ทว่านางหาได้ร้องร่ำอันใดให้มากความ แต่กระนั้นกลับมิใช่กับผิงเอ๋อร์ ดรุณีน้อยกรีดร้องอย่างโหยหวนยามถูกแส้ฟาดก่อนจะสลบไปมิได้สติ

ผิงเอ๋อร์ถูกลากไปโยนเอาไว้ในห้องเก็บฟืนอย่างไม่ไยดี นางจึงพาร่างโชกเลือดของตนลอบเข้าไปช่วยรักษาให้ จากนั้นก็แอบขุดดินในห้องเก็บฟืนเพื่อซ่อนผิงเอ๋อร์เอาไว้อย่างดี

เซียนเซียนหาได้ใส่ใจบาดแผลของตนเอง เพราะถึงอย่างไรร่างนี้ก็เป็นเพียงกายแฝง จะเสียโฉมก็ช่างมัน

ทว่าในเวลาต่อมา เซียนเซียนกลับถูกข้ารับใช้ที่ระดับสูงกว่าพาตัวไปทายาอย่างรุนแรงและแต่งกายอย่างลวกๆ ด้วยเหตุผลที่ว่านางมีใบหน้างดงาม ต้องออกมารอต้อนรับแขกคนสำคัญประจำคฤหาสน์

ตลอดระยะเวลาที่กลายเป็นทาส นางถูกกักขังและทรมานทั้งยังใช้งานเยี่ยงเดรัจฉาน ต่อมาเมื่อเจ้านายต้องการยกระดับจากทาสเป็นสาวใช้สำหรับปรนนิบัติแขกพิเศษ จึงเก็บตัวนางเอาไว้ในห้องอับ จนบาดแผลหายไปบางส่วน เผยความงามให้เห็น นางจึงถูกนำออกมาใช้งาน

เซียนเซียนไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนักว่าสาวใช้ปรนนิบัติแขกพิเศษคืออันใด แต่คงไม่ยากจนเกินมนุษย์ผู้หนึ่งจะกระทำได้กระมัง นางจึงรับคำสั่งและพร้อมทำตามทุกสิ่ง

มิคาดว่าวันแรกของการรับหน้าที่นี้กลับมีบุรุษผู้หนึ่งคุ้นตาปรากฏกาย เขาเป็นคนที่เห็นนางยามเผลอไผล แต่กลับเป็นผู้ช่วยเหลือนางยามตกใจ ถึงแม้ดาบนั้นไม่อาจปลิดชีพนางได้ หากเพียงหนึ่งดาบที่ปกป้อง นางย่อมตอบแทนอย่างสาสม…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel