อ๋องนักรบ4
คฤหาสน์แห่งหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นดินอันเป็นชายแดนที่แสนจะทุรกันดารของแคว้นต้าซ่ง
ภายในห้องนอนกว้างขวาง บนเตียงบุนวมขนาดใหญ่ กำลังมีกิจกรรมเคาะจังหวะผสานเสียงหอบครางดังระงม
ชายหนุ่มร่างใหญ่กำลังคร่อมหญิงสาวร่างเล็กตามอารมณ์กระสัน สองมือหนากอบกุมเอวบางเพื่อสอดใส่กลางลำตัวนาง แล้วกระแทกกระทั้นอย่างแรง ปราศจากความปรานี
ฝ่ายบุรุษคือเฉินเหอไท่ เจ้าของเรือนกายกร้าวแกร่งทรงพลังเปี่ยมเสน่ห์มากล้น กระทั่งตรึงโสตประสาทของฝ่ายสตรีเอาไว้อย่างหมดจด ทำเอานางสมองขาวโพลนไปหมด ฝ่ามือน้อยๆ กำปิ่นปักผมเอาไว้แน่น หาทางแทงอีกฝ่ายมิได้เสียที
สตรีใต้ร่างของเฉินเหอไท่มีนามว่าเยวี่ยเหริน ในมือนางมีมีดสั้นลักษณะพิเศษทำเลียนแบบปิ่นปักผมได้อย่างแนบเนียน
เฉินเหอไท่หาได้สนใจปิ่นปักผมที่มีลักษณะปลายแบนบางเฉียบสาดประกายคมกริบในมือนาง เขายังคงควบจังหวะบนร่างนางอย่างโหดร้าย แววตาคมปลาบเผยเพียงความร้อนแรงแห่งเพลิงอารมณ์
อึดใจเยวี่ยเหรินพลันสบโอกาสแทงปิ่นในมือปักฉึกที่หน้าอกด้านซ้ายของเฉินเหอไท่ ลึกเข้าไปยังตำแหน่งหัวใจที่กำลังเต้นแรง เลือดลมกำลังสูบฉีดอย่างบ้าคลั่ง ชั่วพริบตานั้นชายหนุ่มจึงได้สติกลับคืน แววตาคมกริบดำมืดที่เดิมทีเต็มไปด้วยแรงปรารถนาแห่งอารมณ์กระสันพลุ่งพล่าน จึงกลับมาลึกล้ำยากหยั่งถึงไร้ก้นบึ้งเช่นเดิม
เขาดึงมีดสั้นเล่มนั้นออกอย่างไม่ไยดีจนเลือดสีแดงฉานฉีดพล่านใส่หน้าสาวงามใต้ร่างจนน่ากลัว แล้วกระแทกกระทั้นนางต่ออย่างโหดเหี้ยม
เยวี่ยเหรินถึงกับเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึง ร่างกายอ่อนระทวยสิ้นไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะกรีดร้อง นางทำได้เพียงครวญครางเสียงแผ่วจางลงเรื่อยๆ
ผ่านไปราวหนึ่งเค่อ สุดท้ายหญิงสาวก็กรีดร้องออกมาอย่างสุดจะกลั้น เมื่อเฉินเหอไท่ปลดปล่อยใส่นางทุกหยาดหยดกระทั่งล้นทะลักกลีบบุปผางามจนเปื้อนเปรอะไปหมด
ชายหนุ่มจึงคลายกรงเล็บมังกรของตนออกจากเอวของหญิงงามใต้ร่าง เขาหยัดกายลุกออกจากเตียงนอนแล้วยืนจนเต็มความสูง คว้าเสื้อคลุมมาสวมร่างกำยำเอาไว้ลวกๆ เลือดสีแดงซึมผ่านเนื้อผ้าออกมาจากแผงอกด้านซ้าย มองคล้ายดอกไม้กำลังแย้มกลีบบานสะพรั่ง
เฉินเหอไท่เรียกคนด้านนอกเข้ามา บ่าวชายไม่มีผู้ใดกล้าชักช้า รีบย้ายก้นซอยเท้าเข้ามาเร็วรี่ แล้วค้อมศีรษะรอรับคำสั่ง
เสียงขรึมแต่เปี่ยมพลังแห่งอำนาจมากบารมีจึงเปล่งออกมาให้ได้ยิน “ห่อตัวนางออกไป ส่งให้ถึงเฉินหย่งจื้อ ไม่ต้องล้างคราบใดๆ ที่หว่างขานาง”
อีกครั้งที่เยวี่ยเหรินต้องเบิกตากว้างอ้าปากค้างเอ่ยคำอันใดไม่ออกสักคำ นางถูกบ่าวชายจับอุ้มออกจากเตียงแล้วคลุมผ้าปกปิดเรือนร่างเปล่าเปลือย ตามคำสั่งที่ว่าให้ส่งนางถึงต่อหน้าพระพักตร์ของฮ่องเต้เฉินหย่งจื้อ ผู้เป็นน้องชายของเฉินเหอไท่
หญิงสาวถูกพาตัวออกไปโดยที่นางทำได้เพียงร่ำไห้ กลิ่นคาวเฉพาะกิจแห่งกามารมณ์ยังคละคลุ้งรอบกายนางคราบคาวราคียังติดกายนางไปจนตลอดทาง
เฉินเหอไท่ยืนนิ่งดั่งปราการสูงตระหง่าน มองเยวี่ยเหรินอย่างเย็นชา มุมปากแสยะยิ้มอย่างเลือดเย็นหาใดเปรียบ
ในแววตาอันคมปลาบปรากฏความเย่อหยิ่งหยามหยัน รัศมีของความยโสโอหังแผ่กระจายไปทั่วร่างหนา ทว่าเรือนร่างสูงสง่ากลับแผ่อำนาจบารมีของผู้สูงศักดิ์ออกมาอย่างไม่ปรานี
บ่าวรับใช้ทั้งชายและหญิงที่หน้าประตูห้องต่างพากันลอบมองสบตากันไปมา ก่อนจะแอบชำเลืองไปทางเฉินเหอไท่ด้วยความระมัดระวัง สายตาของพวกเขาล้วนแสดงความยำเกรงต่อเขา บางคนถึงกับตัวสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจควบคุมได้
ชายผู้นี้นับว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา หรือต่อให้ไม่ฆ่าใครก็ยังมีวิธีสยบได้อย่างน่าสะพรึงเป็นที่สุด
ดูอย่างสตรีที่ถูกส่งตัวไปเมื่อครู่นี่ปะไร
ร่วมรักจนหนำใจ ยังทิ้งคราบหลังเสร็จกิจเอาไว้ แล้วส่งให้คนรักของนางได้ดูชม
ไม่ต้องคาดเดาก็รู้ได้ว่า ชายคนรักของนางจะมีสีหน้าอย่างไร
และข่าวนั้นก็ไวปานไฟไหม้บนหญ้าฟาง
เมื่อเยวี่ยเหรินถูกส่งตัวไปปรากฏต่อหน้าพระพักตร์ของเฉินหย่งจื้อฮ่องเต้ พระองค์ทรงกริ้วจนเลือดขึ้นตา คว้ากระบี่สังหารเยวี่ยเหรินต่อธารกำนัลในทันที
ทุกคนที่ได้เห็นและได้รับรู้ข่าวนี้ ล้วนรู้สึกพรั่นพรึงหวาดผวาต่อการกระทำของบุรุษทั้งสองคนที่ฝ่ายหนึ่งคือชายคนรักและอีกฝ่ายคือชายชู้ และสมเพชเวทนาต่อสตรีนามว่าเยวี่ยเหรินเหลือจะกล่าว
ข่าวนั้นถูกส่งให้เฉินเหอไท่ด้วยความรวดเร็วเช่นกัน
ชายหนุ่มเพียงแสยะยิ้มสาแก่ใจ ความโหดเหี้ยมเลือดเย็นของเขาฉาบทับบนใบหน้าหล่อเหลาที่แสนจะเย็นชา สายตามีเพียงความชั่วร้ายแผ่ออกมา เรือนกายปกคลุมไปด้วยความมืดดำอำมหิตชวนขนหัวลุกแก่ผู้พบเห็น ความทมิฬดิบเถื่อนของเขาเป็นที่โจษจันไปทั่วหล้า
แค่เงาร่างใหญ่หนาของเขาก้าวผ่านไปสถานที่ใด ไม่ว่าใครไม่มีทางไม่ก้มหัวให้ หลายคนยังต้องรีบคุกเข่าร้องขอชีวิตอย่างน่าสงสาร
ยามนี้เฉินเหอไท่เป็นกบฏแห่งต้าซ่ง มีป้ายประกาศจับติดไปทั่วแคว้น แต่ตัวเขาเองหาได้หวาดหวั่น ยังคงรั้งตัวอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้อย่างใจเย็น
เรื่องของเยวี่ยเหรินนางนี้ เดิมทีเฉินเหอไท่คิดจะแต่งนางเป็นชายาหนึ่งเดียวแห่งวังเจี้ยนอ๋อง ด้วยเห็นว่านางแสดงความจริงใจต่อเขา
นางเข้าหาเขา ยื่นไมตรีสานสัมพันธ์กับเขา จนเขาคิดการณ์เช่นนั้น
ทว่าความจริงพลันปรากฏ เมื่อเขาดื่มชาและปิ่นในมือนางแทงเข้ามาที่อกเขา เรื่องทุกอย่างพลันกระจ่างแจ้งให้เขาได้ประจักษ์ในทุกสิ่ง
เมื่อสามเดือนก่อน เป็นนางหลอกล่อเขาให้ออกนอกวังจนกระทั่งไปติดกับพวกทหารเดนตายภายในหุบเขาไค่กู่