อ๋องนักรบ3
เสียงครืนครืนของม้าศึกที่ควบตะบึงอย่างพร้อมเพรียง ผสานเสียงกับการขู่คำรามของทหารหลายร้อยดังกึกก้องไปทั่วธรณี ยังมีเสียงโลหะกระทบกันหมายข่มขวัญยามประจัญบาน
ทว่าการณ์กลับพลิกผัน หมาหมู่พวกนั้นที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่าและกำลังรุมทึ้งอีกฝ่ายอย่างเมามัน กลับกลายเป็นฝ่ายถูกสังหารหมู่อย่างโหดร้ายไปเสียได้
เฉินเหอไท่หาใช่จะถูกรุมกินโต๊ะโดยง่าย มิเช่นนั้นอ๋องนักรบ ฉายามังกรดำแห่งต้าซ่งคงมิใช่เขาผู้นี้
หนึ่งดาบสะบั้นหัวศัตรูได้นับสิบ หนึ่งกระบวนท่าสังหารคว้านหัวใจเหล่าศัตรูได้หลายชีวิต การต่อสู้อันบ้าระห่ำจึงดำเนินต่อไปอย่างบ้าคลั่ง
ในขณะนั้นสิ่งไม่คาดคิดพลันบังเกิด เมื่อจู่ๆ กลางสมรภูมิรบที่มีแต่บุรุษในชุดเกราะสีทะมึนเต็มพื้นที่ กลับมีอิสตรีในอาภรณ์ขาวพิสุทธิ์นางหนึ่งหล่นตุบลงมา คล้ายกับถูกเหวี่ยงมาจากฟากฟ้า นางกระเด็นกระดอนอยู่หลายตลบแล้วหยุดนิ่งอยู่แทบเท้าของเฉินเหอไท่ การปะทะศาสตราวุธจึงหยุดชะงักไปหนึ่งจังหวะ แต่กระนั้นการฟาดฟันก็ยังคงเกิดขึ้นในชั่วพริบตา หาได้ใส่ใจชีวิตของสตรีนางนี้ไม่
หญิงสาวผู้ไม่รู้ว่าหล่นมาจากไหน ลุกขึ้นนั่งแล้วลืมตามองรอบตัวอย่างสับสน
ทันใดนั้นพลันมีเงาดาบสะท้อนแสงจันทร์พุ่งฉับมาที่ลำคอนาง ดวงเนตรสีเขียวมรกตของนางเบิกกว้าง
ชั่วจังหวะที่ตกอยู่ในภาวะตะลึงงัน นางทำได้เพียงตกใจ ทันใดนั้นพลันมีดาบเล่มหนึ่งตวัดเงาวิบวับนั้นออกไปในพริบตา ศีรษะงามๆ ของสาวน้อยปริศนาจึงได้อยู่ตำแหน่งเดิม
เฉินเหอไท่ไม่รู้ว่าสตรีนางนี้คือใครและมาโผล่ข้างกายเขาได้อย่างไร หากแต่เสี้ยวเวลานั้นดาบกระบี่ล้วนไร้ตา และเขาก็คงช่วยนางได้เพียงครั้งเดียว
การต่อสู้จึงดำเนินต่อไป ไม่มีใครสนใจสตรีผู้มาใหม่
เสียงเคร้งคร้างดังลั่นจนเสียดแทงแก้วหู สตรีปริศนาจึงได้สติคืนมา
ชั่วลมหายใจเดียว ยังไม่ทันพริบตา ทั่วพสุธาพลันสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น เสียงดังครืนครืนดังไปทั่วบริเวณ ตามด้วยเสียงเปรียะเปรียะราวอัสนีบาตฟาดจากฟากฟ้า
ต้นไม้ไกลลิบพากันหักโค่นประหนึ่งถูกน้ำป่าไหลหลากชะล้างทุกสิ่งที่กีดขวาง
แผ่นดินเบื้องล่างที่ดังครืนครืนพากันเคลื่อนตัวคล้ายของเหลวชนิดหนึ่งที่มีขนาดมหึมา มวลมหาศาลของธุลีดินพากันเปลี่ยนสภาพตัวเองเป็นเกลียวคลื่น ประหนึ่งดินแข็งๆ กลายเป็นสายน้ำไหลวนได้กระนั้น
เสียงเหล่านี้ดังมากจนกลบเสียงฮึกเหิมของเหล่าทหารหลายร้อย กลบกระทั่งเสียงอาวุธกระทบกันและเสียงเกือกม้าย่ำพื้นดินเพื่อรุมระห่ำมาทางเฉินเหอไท่
ทุกผู้คนรู้สึกได้ถึงแรงสะเทือนที่ปลายเท้า ลำตัวของพวกเขาล้วนสั่นไหว ต่อมายังสั่นเทิ้มจนไม่อาจควบคุมได้
ทหารทุกคนพากันชะงักนิ่งตะลึงลาน ทันใดนั้นแผ่นดินรอบด้านของพวกมันพลันปริแตกแล้วแยกออกจากกัน
“อะ...อะไร?” ทหารหลายคนเริ่มส่งเสียงเซ็งแซ่
“อ๊าก!” เริ่มมีเสียงร้องโหยหวนชวนผวา เมื่อจู่ๆ พื้นธรณีใต้ฝ่าเท้าของพวกมันเคลื่อนที่แยกตัวออกจนเป็นวงกว้าง แล้วดูดกลืนทั้งม้าทั้งร่างของทหารทุกคนให้ตกลงไป ไม่ใช่แค่ทีละคน แต่พวกมันตกลงไปทีเดียวทั้งหมด ซากศพกองเท่าภูเขาขนาดย่อมล้วนตกตามกันไปราวกับห้วงมหาสมุทรดูดกลืนทุกสรรพสิ่งไม่ต่างจากวังน้ำวน
“ย๊า!”
พวกทหารแหกปากผสานเสียงกันทันตาจนดังระงมกึกก้องไปทั่วน่านฟ้า เมื่อจู่ๆ พวกมันก็ถูกพื้นพสุธาทั้งผืนกลืนกินจนร่วงหล่นลงไปยังใต้พิภพ
พื้นดินแยกตัวออกจนเกิดหลุมขนาดใหญ่ดำลึกกว้างขวางกินพื้นที่ไกลมาก ทหารหลายร้อยคนก็คล้ายถูกสูบลงไปในนั้นจนสิ้น
พวกมันทำได้เพียงร่ำร้องโหยหวนไม่เป็นภาษา สองมือแหวกว่ายอากาศอย่างน่าเวทนา นรกกำลังกลืนกินพวกมันอย่างไร้ปรานี
เหตุการณ์ระทึกขวัญและเสียงชวนสะพรึงเหล่านั้นเกิดขึ้นอยู่ชั่วอึดใจ ไม่นานก็สิ้นเสียงไป
หุบเขาไค่กู่กลับมาเงียบสงัดเพิ่มความวังเวง เมื่อสิ้นเสียงของพื้นดินแยกตัวและเสียงร้องร่ำของคนนับร้อย
แผ่นดินที่ปริแตกแยกตัวออกเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ ค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพเดิม หากแต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือผู้คนทั้งหลายล้วนหายไป คงเหลือเพียงเฉินเหอไท่ยืนมองภาพสยดสยองเกินคาดฝันอย่างอึ้งงัน
และสตรีอีกคนที่ยืนมองภาพเบื้องหน้าอย่างเย็นชา
สตรีนางนี้คือเซียนเซียน ธิดาของมหาเทพปีศาจแห่งขุมนรกอเวจี
หญิงสาวหนีการแต่งงานโดยการแปลงร่างเป็นมนุษย์ที่มีใบหน้าเรียวเล็ก นัยน์ตาดำขลับ แต่งกายสีขาวพิสุทธิ์ ปกปิดตัวตนที่มีดวงตาสีเขียวมรกต เส้นผมสีทองอร่ามและลำตัวสีแดงปานเปลวเพลิง ก่อนจะผนึกพลังของตนเองเอาไว้แล้วตกลงมาอย่างไร้ทิศทางบนพื้นดินแห่งนี้ แต่ทว่าเมื่อตกลงมากลับมีคมดาบยาวยื่นพุ่งเข้าใส่หมายบั่นคอนางอย่างไม่น่าให้อภัย นางจึงจำเป็นต้องปลดปล่อยพลังจัดการคนเหล่านั้นไปจนสิ้น
ชั่วจังหวะที่เฉินเหอไท่เริ่มได้สติก็หันหน้ามองหญิงปริศนาข้างกาย เซียนเซียนเองก็ผินใบหน้าเข้าหาเขาแล้วสบตาหาได้หวั่นเกรง
ในภาวะตะลึงงัน ทั้งสองสบตากันนิ่งนาน ดวงเนตรคู่งามทั้งสองสบประสาน ต่างจารจำอีกฝ่ายไว้โดยไม่รู้ตัว
รอบด้านเงียบสงัด พื้นดินโล่งกว้างปราศจากผู้คนกระทั่งซากศพ ราวกับไม่เคยเกิดเรื่องเข่นฆ่าของทหารมากมาย และไม่เคยเกิดเรื่องสะเทือนขวัญใดๆ
ทว่าพริบตาต่อมา สตรีปริศนาเจ้าของนัยน์ตาสีเขียวมรกตพลันอันตรธานหายไป คงเหลือไว้เพียงชายหนุ่มร่างใหญ่ยืนนิ่งแข็งค้างอยู่ที่เดิมอย่างเดียวดาย...