ตอนที่ : 6 ตัวช่วย 2
อ้อยหวานชงนมอุ่นๆ ใส่แก้วแล้วยกขึ้นไปให้วิภูตามคำสั่ง แม้จะนึกแปลกใจว่าเขาน่าจะชอบเหล้ามากกว่านม แต่คิดไปแล้วก็ไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เพราะก่อนหน้ามารดาของเธอก็ชงนมให้วิภูก่อนนอนทุกคืน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เข้ามาเลยประตูไม่ได้ล็อก" เสียงของเขาตะโกนออกมาจากข้างใน อ้อยหวานใช้มือข้างหนึ่งหมุนลูกบิดแล้วเปิดอ้าไว้
"เอามาวางไว้ตรงนี้สิ" วิภูชี้นิ้วไปที่โต๊ะตั้งโคมไฟตรงหัวเตียง ส่วนตัวเขาก็ลุกขึ้นเดินจากเตียงอย่างเงียบๆ คนที่เอานมไปวางบนโต๊ะจึงไม่ทันเห็น
กริ๊ก! ว่าเขาไปปิดประตูพร้อมกับกดล็อกเรียบร้อยแล้ว
"คุณภูทำอะไรคะ ปิดประตูทำไม"
"ก็ไม่ได้ทำอะไร แค่อยากมีเวลาส่วนตัว"
"เปิดประตูค่ะ" อ้อยหวานเสียงแข็งใส่ รู้แล้วว่าที่เขาทำก่อนหน้าคือการเสแสร้ง เธอโง่มากที่เชื่อเสียสนิทใจ หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่นจ้องเขาตาแทบถลน แต่ดูเหมือนวิภูจะไม่แยแสแสยะรอยยิ้มแล้วยกไหล่ขึ้นทั้งสองข้าง
"ไม่"
"เปิดเดี๋ยวนี้นะคะ"
"ไม่เปิด"
"อ้อยหวานจะร้องให้คุณวิมล์ช่วย"
"ร้องไปก็เท่านั้น พี่วิมล์เขาไม่มายุ่งกับเรื่องนี้หรอก"
"คุณมันบ้า อย่าทำแบบนี้นะ อ้อยหวานเป็นเมียเก็บของพ่อคุณนะ คุณลืมไปแล้วเหรอ"
"ก็แล้วไง สมัยนี้พ่อลูกใช้ผู้หญิงร่วมกันเยอะแยะไป หมายถึงผู้หญิงที่มีอาชีพอย่างเธอนะอ้อยหวาน อย่าเล่นตัวให้มากนักเลย พ่อให้เธอเดือนละหมื่นห้าฉันใจป้ำให้เลยสองหมื่นพอใจยัง" วิภูเบื่อจะเล่นบทไล่ต้อนอีกต่อไป
"ให้ล้านนึงก็ไม่เอา!"
"ไม่ลองไม่รู้นะอ้อยหวาน หนุ่มๆ แน่นๆ อย่างฉันนี่มีดีกว่าคนแก่อย่างพ่อเยอะเลยนะ" คนพูดปลดกระดุมเสื้อออกสามเม็ดเผยให้เห็นอกล่ำที่ซ่อนรูปอยู่ด้านใน ข้างนอกเห็นเพรียวๆ แต่ข้างในนั้นวิภูก็แกร่งอยู่ไม่น้อย แต่ไม่ใช่เวลาที่อ้อยหวานจะมาใส่ใจกับอกของเขา หญิงสาวพยายามคิดหาหนทางที่จะหนีออกจากห้องนี้
"ถ้าคุณบังคับอ้อยหวาน อ้อยหวานจะแจ้งความข้อหากระทำชำเรา"
"ในประวัติไม่เคยมีนะอ้อยหวาน ที่นอนกับฉันแล้วแจ้งตำรวจจับมีแต่จะไล่จับฉันมากกว่า" เขาเลิกคิ้วตีหน้ายียวนกวนประสาทสุดฤทธิ์
"ไอ้บ้า!" หมดสิ้นความอดทนของฝ่ายหญิง อ้อยหวานตะโกนใส่หน้าเขาด้วยความโมโห แล้วร่างของเธอก็ถูกวิภูรวบเอาไว้แน่น ก่อนจะลากให้ขึ้นเตียงอย่างทุลักทุเล
"ปล่อยนะ ช่วยด้วย! คุณวิมล์ช่วยอ้อยหวานด้วย!" หญิงสาวตะโกนสุดเสียง แต่แล้วก็ถูกเขาปิดปากเอาไว้เสียแน่น
"แหกปากร้องทำไม เรื่องมากจริงๆ อยากร้องก็ได้แต่ขอเป็นเสียงครางแทนก็แล้วกัน"
"อื้อ! ปล่อยนะ คุณนี่มันเลวจริงๆ ผู้หญิงคนอื่นเขาไม่เอาแล้วหรือยังไงถึงได้มาบังคับอ้อยหวานแบบนี้"
"เป็นแค่เมียเก็บพ่อก็อย่าเล่นตัวนักสิ อยากจะรู้ว่ามีดีอะไรพ่อถึงได้นอกใจแม่บนสวรรค์มากกกอดเธออยู่ได้ตั้งสี่ปี"
"ไอ้บ้า ปล่อย!" ทั้งถีบเตะทุบตียังไงคนที่นั่งคร่อมทับกลางลำตัวของอ้อยหวานก็ไม่ขยับหนีไปไหน ร้ายไปกว่านั้นยังถอดเสื้อโยนทิ้งข้างเตียงเสียอีก และจังหวะที่เขากำลังจะปลดตะขอกางเกง หญิงสาวก็คว้าสะเปะสะปะไปโดนโคมไฟเข้า
โผละ!
ไม่แตกก็ต้องมีมึนกันบ้างล่ะ อ้อยหวานผุดลุกขึ้นนั่งแล้วผลักเขาให้พ้นตัว รีบวิ่งออกจากห้องของวิภูไปด้วยความตกใจ
"อ้อยหวาน! เธอเจอดีแน่ อูย" ถึงเจ็บตุบๆ แต่ก็ยังอุตส่าห์ตะโกนขู่อีกคน อ้อยหวานได้ยินก็ผวาขืนกลับไปเรือนหลังเล็กมีหวังถูกพังประตูเข้าไปเอาเรื่องแน่ หญิงสาวเบนปลายเท้าไปยังห้องที่อยู่มุมสุดของทางเดิน หมุนล็อกแล้วเปิดเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ด้านวิภูเมื่อหายปวดศีรษะตรงที่ถูกตีด้วยโคมไฟแล้ว ก็ออกจากห้องไปตามหญิงสาวที่เรือนหลังเล็ก ไม่ได้เฉลียวใจว่าอ้อยหวานจะเข้าไปแอบอยู่ในห้องของพี่ชายตัวเอง
อ้อยหวานที่แนบหูฟังเสียงฝีเท้าของวิภูวิ่งลงบันไดไป กระทั่งเงียบเสียงลงจึงได้หันหลังกลับมามองภายในห้อง น่าแปลกที่เขานั่งหันหน้าเข้าหาจอคอมพิวเตอร์ ไม่เอะใจที่เธอเข้ามาภายในห้องนี้เลย หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ๆ ถึงได้เห็นว่าวิมล์ใส่หูฟังอยู่ มิน่าล่ะเขาถึงไม่ได้ยิน
"คุณวิมล์คะ" อ้อยหวานยื่นมือไปแตะหัวไหล่เขาเบาๆ คนถูกสัมผัสสะดุ้งหันกลับมาทำตาดุใส่
"เข้ามาได้ยังไงอ้อยหวาน" เสียงตวาดมาพร้อมกับการถอดหูฟังออก วิมล์ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วมองคนบุกรุกห้องแบบไม่พอใจ
"ยืนบื้ออยู่นั่นแหละ เข้ามาทำไม!"
"ฮื้อๆๆ" อ้อยหวานบ่อน้ำตาแตกในทันที นั่นส่งผลให้อารมณ์ของเจ้าของห้องเปลี่ยนไป เขามองดูชุดเสื้อผ้าของหญิงสาวอย่างถี่ถ้วน พบว่ามันไม่เรียบร้อยแปลกๆ ชอบกล
"จะร้องทำไมนี่ มานี่ มานั่งลงก่อนแล้วเล่าให้ฉันฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น" วิมล์ดึงข้อมือของคนร้องให้ไปนั่งตรงโซฟาปลายเตียง
"ฮะ...ฮื้อๆ คุณภูจะปล้ำอ้อยหวานค่ะ"
"ภูนี่นะ" ยอมรับว่าเขาตกใจอยู่ไม่น้อย วิภูไม่เคยต้องใช้วิธีนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
"โกหกหรือเปล่า น้องชายฉันไม่เคยปล้ำผู้หญิงมาก่อน" เขาพูดจบเสียงร้องไห้ก็ดังขึ้นเรื่อยๆ อ้อยหวานส่ายหน้าทั้งน้ำตา
"คุณภูจะปล้ำ ฮึก อ้อยหวานจริงๆ นะคะ อ้อยหวานสาบานได้" แววตาของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้บอกว่ากำลังโกหกอยู่
"ภูขอก่อนหรือเปล่า" คำพูดของวิมล์ส่งผลให้คนร้องมองค้อนใส่อย่างน้อยใจ
"คุณภูเคยพูดเรื่องนี้กับอ้อยหวานแล้ว แต่อ้อยหวานปฏิเสธ วันนี้คุณภูบอกให้อ้อยหวานเอานมขึ้นไปให้บนห้องแล้วก็ล็อกประตู ฮื้อๆ" เล่าไปก็ปล่อยโฮตามไปด้วย
"พอๆ เลิกร้องไห้ได้แล้ว แล้วนี่ออกมาได้ยังไง" วิมล์ยังคงสงสัยว่าลำพังกำลังผู้หญิงอย่างอ้อยหวานไม่น่าจะรอดมือวิภู หากว่าน้องชายเขาคิดจะทำจริง
"อ้อยหวานเอาโคมไฟตีหัวคุณภูค่ะ" คนพูดปาดน้ำตาออกป้อยๆ
"ตีหัวภู! แล้วนี่เป็นไรมากไหม เลือดตกยางออกหรือเปล่า ทำไมต้องทำรุนแรงแบบนี้ด้วย" วิมล์รีบวิ่งออกจากห้องด้วยความเป็นห่วงน้องชาย อ้อยหวานถึงกับน้ำตาร่วงกราวอีกรอบ นี่เธอหวังพึ่งเขาไม่ได้เลยเชียวหรือ แต่จะให้ออกจากห้องของวิมล์ไปก็ใช่ที เพราะไม่รู้ว่าวิภูจะเล่นงานเธอด้วยวิธีไหน อึดใจหนึ่งเขาก็กลับเข้ามาภายในห้อง
"ไม่มีหยดเลือด" วิมล์พูดเหมือนไปสำรวจพื้นที่เกิดเหตุมา
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ได้ยินเสียงวิ่งลงไปข้างล่าง ป่านนี้คงไปดักฉุดอ้อยหวานอยู่หน้าบ้านแล้วมั้ง" หญิงสาวประชดคนที่ห่วงน้องชายมากกว่าผู้หญิงที่ถูกกระทำอย่างเธอ
"แล้วนี่เธอเป็นอะไรมากไหม คือบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" เขาถามพลางมองสำรวจร่างกายของอ้อยหวานไปด้วย
"ไม่เป็นอะไรมากค่ะ แต่ว่าคุณวิมล์คะ อ้อยหวานขอนอนห้องคุณวิมล์ได้ไหมคะคืนนี้ กลัวว่าถ้ากลับไปเรือนหลังเล็กคุณภูจะเข้ามาทำแบบเมื่อกี้นี้อีก อ้อยหวานคงสู้แรงคุณภูเธอไม่ได้แน่ๆ"
"จะบ้าเหรออ้อยหวาน เธอเป็นผู้หญิงนะ"
"คุณวิมล์ก็รู้ว่าเพราะอะไรอ้อยหวานถึงพูดแบบนี้" ความน้อยใจส่งผลให้ใบหน้าสวยสดกระเง้ากระงอดลง
"ยังไงมันก็ไม่เหมาะ"
"ก็ตามใจค่ะ ถ้าน้องชายคุณกลายเป็นศพเพราะถูกมีดปักคาอกเข้า ก็อย่ามาโทษอ้อยหวานก็แล้วกัน" เมื่อหวังพึ่งเขาไม่ได้ เธอก็คงต้องพึ่งตัวเองแล้วจริงๆ
"นี่เธอจะบ้าเหรอ ทำไมต้องคิดทำอะไรขนาดนั้น เกิดพลาดพลั้งถึงตายขึ้นมาจริงๆ จะว่ายังไง" พี่ชายยังไงเสียก็ต้องห่วงน้องมาก่อนเป็นอันดับแรก
"อ้อยหวานแค่จะพกเอาไว้ป้องกันตัว แต่ถ้าใครทะเล่อทะล่าเข้ามาก็จะเสียบมิดด้ามเหมือนกัน" ถ้าเขาไม่ช่วยน้องชายของเขาเองนั่นแหละที่จะโดนดี งานนี้หญิงสาวขอสู้ตาย ได้ยินเสียงถอนหายใจหนักๆ จากวิมล์ก่อนที่เขาจะเอ่ยตอบมา
"เอาล่ะๆ คืนนี้เธอนอนนี่ก็ได้เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะคุยกับภูให้เองว่าอย่าเที่ยวไปบังคับเธออีก โอเคไหม"
'ชิ กลัวน้องตายล่ะสิ'
"ขอบคุณค่ะคุณวิมล์" อ้อยหวานยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณอย่างดีใจ
"โซฟานะ" แต่แล้วคำพูดนี้ของเขาก็ทำหญิงสาวกลอกตาไปมาอย่างหน่ายใจ
"รู้ค่า" หญิงสาวลากเสียงยาวใส่อย่างประชดประชัน มีหรือเธอจะกล้าขึ้นไปนอนบนเตียงเดียวกับเขา สายตาคู่นั้นของเขาก็ดูหมิ่นดูแคลนกันเหลือเกิน อ้อยหวานเดินไปทิ้งตัวนอนบนโซฟา
"อุ๊ย!" ก่อนจะตกใจเมื่อหมอนใบใหญ่ลอยมาหล่นบนโซฟาด้านข้าง แล้วคนโยนก็เดินไปปิดไฟเพื่อหลับนอน
"คุณวิมล์คะ" อ้อยหวานเรียกเขาในความมืด
"อะไรอีก"
"ไม่ทำงานแล้วเหรอคะ"
"ไม่ งานเสร็จแล้วฉันแค่ดูโน่นนี่นิดหน่อยเอง นอนได้แล้ว"
ในความมืดของค่ำคืนนี้อ้อยหวานหนีคนน้อง แต่ต้องมานอนอยู่ในห้องของคนพี่แทน อะไรทำให้เธอไว้ใจเขา คงเพราะสายตาอบอุ่นและไม่เคยมีแววคิดนอกลู่นอกทางของเขานั่นเอง แล้วพรุ่งนี้ล่ะ เขาจะคุยกับน้องชายรู้เรื่องไหม ถ้าไม่ ก็ขอให้เขาไล่เธอออกจากบ้านที เธอจะได้ไปอยู่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน